
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ลุ้นความชัดเจนทางการเมืองช่วยกระตุ้นการลงทุนเพิ่ม ลดผลกระทบจากปัจจัยโลก ชี้ 3 ปัจจัยบวกหนุนตลาดหุ้นไทย “อานิสงส์เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว-ผลประกอบการ บจ.-ภาวะดอกเบี้ยไม่ขึ้นแรง”
วันที่ 3 สิงหาคม 2566 ดร.ศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กรและหัวหน้าสายงานพัฒนาความยั่งยืนตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า โดยปกตินักลงทุนในตลาดหุ้นมักชอบความชัดเจนทางการเมือง ดังนั้น หากสถานการณ์ทางการเมืองมีความชัดเจนมากขึ้น เชื่อว่าความมั่นใจของนักลงทุนจะเกิดการลงทุนเพิ่มมากขึ้น
โดยปัจจุบันตลาดหุ้นมีปัจจัยที่กระทบค่อนข้างมาก ซึ่งปัจจัยที่เน้นดูหลัก ๆ คือ ปัจจัยของโลก นโยบายธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ราคาน้ำมัน ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน การเติบโตของเศรษฐกิจจีน และปัจจัยภายในประเทศ
ทั้งนี้ มองว่าปัจจัยที่หนุนตลาดหุ้นไทยมี 3 เรื่องหลัก ๆ คือ 1.ประเทศไทยอยู่ในช่วงภาวะเศรษฐกิจกำลังขยายตัวขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมีปัจจัยผลักดันจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ซึ่งตอนนี้จำนวนนักท่องเที่ยวยังไม่เข้ามาเต็มที่เท่ากับเมื่อช่วงก่อนเกิดโควิดที่ระดับ 40 ล้านคน ซึ่งปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 30 ล้านคน ซึ่งถือว่ายังมีอัพไซด์อยู่
2.เรื่องผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไทย (บจ.) ซึ่งยอดขายของ บจ.เริ่มสูงกว่าช่วงก่อนโควิดแล้ว ประกอบกับต้นทุนของผู้ประกอบการ อาทิ ด้านพลังงานและราคาน้ำมัน เริ่มปรับตัวลดลงแล้ว ซึ่งจะส่งผลดีต่อแนวโน้มผลการดำเนินงานของ บจ.
และ 3.เรื่องดอกเบี้ย ซึ่งมองว่าภาวะเงินเฟ้อของประเทศไทยไม่ได้ปรับตัวขึ้นแรง จึงทำให้ยังไม่ต้องขึ้นดอกเบี้ยแรง ๆ เหมือนกับต่างประเทศที่ทำกัน รวมถึงยังมีปัจจัยบวกเฉพาะตัวจากเงินทุนสำรองระหว่างประเทศที่อยู่ในระดับสูง และเงินทุนของภาคธนาคารที่ยังคงแข็งแกร่ง รวมถึงหนี้สาธารณะที่ยังไม่สูงเหมือนหลาย ๆ ประเทศ
“หากสถานการณ์การเมืองเริ่มมีนโยบายที่ชัดเจน คาดว่าจะส่งผลดีต่อการลงทุนให้ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยมองว่านโยบายของพรรคการเมืองนั้นก็สำคัญ แต่หากเราทราบนโยบายที่ชัดเจนได้เมื่อไหร่ เรื่องความมั่นใจและเรื่องการลงทุนในสิ่งที่เขาคิดว่านโยบายจะสนับสนุนจะเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ตอนนี้คิดว่าหลายปัจจัยที่เป็นภาพรวมใหญ่ยังสนับสนุนการลงทุนในไทยอยู่” ดร.ศรพลกล่าว