“ตลาดบอนด์ไทย” สิงหาคม ฟันด์โฟลว์ไหลออกไม่หยุด เพราะอะไร ?

ฟันด์โฟลว์เดือน ส.ค. 2566 ไหลออก “ตลาดตราสารหนี้ไทย” ไม่หยุด “สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย” (ThaiBMA) เผยส่วนใหญ่ต่างชาติเทขายบอนด์ระยะสั้น ขายออกไปแล้วกว่า 2.3 หมื่นล้านบาท สาเหตุหลักจากแนวโน้มค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง ล่าสุดร่วงแตะ 35 บาท/ดอลลาร์ กังวลวงจรดอกเบี้ยขาขึ้นของสหรัฐยังไม่หยุด

วันที่ 8 สิงหาคม 2566 นางสาวอริยา ติรณะประกิจ รองกรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ตั้งแต่เปิดต้นเดือน ส.ค. 2566 จนถึงปัจจุบัน พบว่าทิศทางกระแสเงินลงทุนต่างชาติ (fund flow) เป็นภาพที่ไหลออกจากตลาดตราสารหนี้ไทยอย่างต่อเนื่อง โดยนักลงทุนต่างชาติได้เทขายตราสารหนี้ไทย ระยะสั้น (อายุน้อยกว่า 1 ปี) ออกไปเป็นส่วนใหญ่ หรือประมาณกว่า 23,100 ล้านบาท โดยเป็นการขายสุทธิประมาณกว่า 13,000 ล้านบาท และปล่อยให้หมดอายุไปทั้งหมดกว่า 9,800 ล้านบาท

• ทำฟันประกันสังคม ไม่ต้องสำรองจ่าย เดือน มี.ค. 67 ยอด 169 ล้านบาท
• สหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส ไทย และหลายชาติ ออกแถลงการณ์ร่วม เรียกร้องปล่อยตัวประกันในกาซา
• รู้ไหม ? 31 มณฑลจีน ชอบสินค้าอะไรของไทย

โดยสาเหตุหลักที่นักลงทุนต่างชาติเทขายตราสารหนี้ไทยระยะสั้นออกไปนั้น เป็นผลจากแนวโน้มค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากผลกระทบจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังไม่ได้ส่งสัญญาณจะหยุดขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ซึ่งยิ่งกดดันส่วนต่างดอกเบี้ยที่ค่อนข้างห่าง

ทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐยังปรับตัวแข็งค่าขึ้น จึงไม่ได้จูงใจให้ฟันด์โฟลว์ไหลกลับเข้ามาในช่วงเวลานี้ ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐล่าสุด เช่น ตัวเลขการจ้างงาน ยังคงมีทิศทางที่ดีกว่าคาด นั่นแปลว่ามีโอกาสเหมือนกันว่าวงจรดอกเบี้ยขาขึ้นของสหรัฐจะยังไม่หยุดง่าย ๆ จึงเห็นนักลงทุนต่างชาติเทขายตราสารหนี้ไทยระยะสั้น เพื่อกลับเข้าไปซื้อบอนด์ดอลลาร์ก่อน 

นอกจากนี้เริ่มเห็นสัญญาณนักลงทุนต่างชาติ มีการเทขายตราสารหนี้ไทย ระยะยาวออกไปเป็นเดือนแรก โดยขายสุทธิไปราว 5,900 ล้านบาท

“เรามองว่าปัจจัยเหล่านี้จะเป็นแค่ปัจจัยระะยะสั้นเท่านั้น เพราะถ้าเมื่อไหร่ที่เฟดหยุดขึ้นดอกเบี้ย เชื่อว่าฟันด์โฟลว์คงไหลกลับเข้ามาอีกรอบหนึ่ง แต่ตอนนี้การลงทุนในสกุลเงินบาทคงยังไม่ค่อยน่าสนใจ” นางสาวอริยากล่าว

นางสาวกฤติกา บุญสร้าง ผู้ชำนาญการงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน อาวุโส ธนาคารกสิกรไทย (ห้องค้ากสิกรไทย) เปิดเผยว่า วันนี้ (8 ส.ค.) ค่าเงินบาทไทยอ่อนค่าที่สุดในรอบ 1 เดือน แตะระดับ 35.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐอีกครั้ง

ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางการเมืองของไทย และการกลับมาแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐในระยะนี้ แม้ดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยล่าสุดจะพลิกกลับมาเกินดุล ดีกว่าคาดการณ์

“ห้องค้ากสิกรไทยประเมินแนวต้านสำคัญในระยะสั้นที่ 35.40 บาทต่อดอลลาร์ และ 35.80 บาทต่อดอลลาร์ ท่ามกลางความผันผวนของตลาดค่าเงินที่อยู่ในระดับสูง” นางสาวกฤติกากล่าว

• เปิดผลประชุม “กนง.-กนส.” ชี้ ตลาดบอนด์ผิดนัดชำระเพิ่ม-บริษัทถูกลดอันดับเครดิตพุ่ง
• บลจ.พรินซิเพิล ครึ่งปีหลังแนะปรับพอร์ตลงทุน หุ้นคุณภาพ-ตราสารหนี้