คอลัมน์ : สถานีลงทุน ผู้เขียน : ธนรัชต์ พสวงศ์ ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส
ในโลกของการลงทุนคำพูดคลาสสิกคือซื้อถูกขายแพง ความหมายคือเราควรที่จะซื้อทองคำในราคาช่วงที่ปรับลดลงและขายออกไปในช่วงที่ราคาปรับขึ้นหรือแพง
เมื่อดูสถิติย้อนหลังแล้วเดือนที่ราคาทองคำลดลงมากที่สุด คือเดือนกันยายนและเดือนพฤศจิกายน โดยราคาทองคำตลาดโลกในเดือนกันยายนเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง และ 10 ปีย้อนหลัง ลดลง 2.9% และ 3% ตามลำดับ ส่วนเดือนพฤศจิกายนเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง และ 10 ปีย้อนหลัง ลดลง 0.1% และ 2.1% ตามลำดับ
- เงินอุดหนุนนักเรียน 2567 ช่วยค่าชุด-หนังสือเรียน อนุบาล-ปวช. ได้เท่าไร
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 พ.ค. ย้อนหลัง 10 ปี
- แจกเงินดิจิทัล 10,000 ลุ้นซื้อมือถือ-เครื่องใช้ไฟฟ้า “จุลพันธ์” นัดถกสัปดาห์หน้า
ส่วนเดือนที่ราคาทองคำปรับขึ้นมากที่สุดของปี คือเดือนธันวาคมและเดือนมกราคม โดยเดือนธันวาคมราคาทองตลาดโลกเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง และ 10 ปีย้อนหลัง เพิ่มขึ้น 4.3% และ 2% เดือนมกราคมราคาทองตลาดโลกเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง และ 10 ปีย้อนหลัง เพิ่มขึ้น 1.8% และ 3.4% ตามลำดับ ดังนั้น เดือนหน้าก็เป็นโอกาสที่จะเข้าซื้อทองคำและขายออกไปในช่วงเดือนธันวาคมและมกราคม
แนวโน้มราคาทองคำตลาดโลก ทางด้านปัจจัยด้านเทคนิคในระยะสั้นคาดเป็นขาขึ้น เนื่องจากเกิดสัญญาณซื้อจากเครื่องมือด้านเทคนิคระยะสั้น modified stochastic เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม และราคาทองคำทะลุและยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วันเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ทำให้ทิศทางราคาทองคำคาดจะกลับเป็นขาขึ้นได้ในระยะสั้นและระยะกลาง ดังนั้น แนะนำทยอยสะสมได้ที่ราคาทองตลาดโลก 1,890-1,900 ดอลลาร์
ส่วนประเด็นสำคัญที่ต้องติดตามในเดือนกันยายน คือการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ถือว่าเป็นการประชุมครั้งสำคัญของปีนี้เช่นเดียวกัน เนื่องจากเฟดอาจตัดสินใจหยุดขึ้นอัตราดอกเบี้ยและจะมีการเปิดเผยประมาณการอัตราดอกเบี้ยหรือ dot plot ทั้งนี้ การที่เฟดใกล้ยุติอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น คาดว่าจะช่วยหนุนราคาทองคำ