อลิอันซ์ ส่งประกันสุขภาพ เจาะคนโสด-มีครอบครัว สิ้นปีเบี้ยหมื่นล้าน

อลิอันซ์ส่งประกันสุขภาพใหม่ 2 แบบ เจาะคนโสดเริ่มทำงาน-มีครอบครัว แย่งเบี้ยไตรมาส 4 หน้าไฮซีซั่นลดหย่อนภาษี ตั้งเป้าเบี้ยรวมสิ้นปี 1.02 หมื่นล้านบาท โต 9% ปี’67 บุกธุรกิจ A&H เต็มสูบ

วันที่ 20 กันยายน 2566 นายลาร์ส ไฮบุทสกี้ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย (AAGI) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าเบี้ยประกันภัยรับรวมในปี 2566 จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ อยู่ที่ 10,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน (YOY) โดยจะมาจากพอร์ตเบี้ยประกันอุบัติเหตุและสุขภาพ (Accident and Health) ประมาณ 3,300 ล้านบาท

สำหรับภาพรวมในครึ่งปีแรก บริษัทมีเบี้ยรับรวม 5,600 ล้านบาท เติบโต 10% YOY ซึ่งถือว่าเป็นอัตราการเติบโตสูงกว่าตลาดถึง 2 เท่า (ตลาดโตแค่ 5%)

โดยพอร์ตประกันอุบัติเหตุและสุขภาพ (Accident and Health) มีเบี้ยรับมากที่สุด อยู่ที่ 2,100 ล้านบาทเติบโต 22% YOY ตามมาด้วยพอร์ตประกันภัยที่ไม่ใช่รถ (Non-Motor) จำนวน 1,900 ล้านบาท เติบโต 9% ขณะที่พอร์ตประกันภัยรถยนต์ (Motor) มีเบี้ย 1,600 ล้านบาท เติบโต 0%

เหตุผลที่พอร์ตประกันรถยนต์ไม่โต เนื่องจากหลังสถานการณ์โควิด คนเริ่มกลับมาใช้รถบนท้องถนนตามปกติ ทำให้มีอัตราการเคลมกลับสู่สภาวะปกติ ส่งผลให้การเติบโตมีความท้าทายสูง

ตอนนี้สัดส่วนพอร์ตธุรกิจของ AAGI แบ่งเป็น 3 ส่วนหลักคือ สัดส่วนประมาณ 38% มาจากพอร์ตประกันอุบัติเหตุและสุขภาพ และสัดส่วน 33% มาจากพอร์ตน็อนมอเตอร์ และสัดส่วนอีก 29% มาจากพอร์ตประกันรถ ซึ่งพอร์ตลักษณะนี้มีสมดุลในการกระจายความเสี่ยง ซึ่งเป็นผลดีต่อตัวบริษัท พันธมิตร และลูกค้านายลาร์ส กล่าว

ปี’67 บุกธุรกิจประกันสุขภาพเต็มสูบ

และจากที่บริษัทเล็งเห็นโอกาสจากประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยและคนเริ่มตระหนักและให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพมากขึ้น หลังผ่านสถานการณ์โควิด ดังนั้นธุรกิจประกันอุบัติเหตุและประกันสุขภาพโรคร้ายแรง จะเป็นโอกาสและเทรนด์ในการเติบโตสูงตามความต้องการความคุ้มครองของลูกค้า

โดยหลังจากที่บริษัทได้ซื้อกิจการบริษัทเอ็ทน่าประกันสุขภาพ และดำเนินการควบรวมและจัดระเบียบภายในเสร็จเรียบร้อยแล้ว ในปี 2567 บริษัทพร้อมที่จะลุยเพื่อเติบโตในธุรกิจประกันอุบัติเหตุและประกันสุขภาพ

ต่อไปเราจะมองภาพอลิอันซ์อยุธยาเป็นแบบ One Allianz Ayudhya ทั้งเรื่องการบริหารจัดการโรงพยาบาลเครือข่าย (Hospital Network) ระบบปฏิบัติการที่จะใช้แพลตฟอร์มเดียวกันในการบริการลูกค้า อาทิ เทเลเมดิซีน (ปรึกษาหมอทางออนไลน์) และใช้ระบบ API ส่งข้อมูลเคลมกับโรงพยาบาล เพื่อช่วยให้ธุรกรรม Cashless รวดเร็วขึ้น แล้วในอนาคตจะมีเรื่องการจัดส่งยาถึงบ้านตามมาด้วยนายลาร์สกล่าวเสริม

เป้าเบี้ยปีแรก 300 ล้าน

และสำหรับแผนธุรกิจในช่วงไตรมาส 4/2566 ซึ่งเป็นหน้าไฮซีซั่นของธุรกิจประกัน ที่ลูกค้าจะมองหาสินค้าเพื่อคุ้มครองและใช้ลดหย่อนภาษี บริษัทได้เปิดขายสินค้าประกันสุขภาพใหม่ 2 ตัวคือ ซูพีเรียร์ เฮลท์ (Superior Health) และแซฟวี่ เฮลท์ (Savvy Health) ซึ่งจะมาตอบโจทย์ลูกค้า 2 กลุ่มที่แตกต่างกันตั้งเป้าภายใน 1 ปี จะมีเบี้ยรับประมาณ 300 ล้านบาท

นางสาวพัชรา ทวีชัยวัฒนะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานบริหารงานลูกค้า บมจ.อลิอันซ์อยุธยา ประกันชีวิต (AZAY) กล่าวว่า สำหรับประกันสุขภาพ แซฟวี่ เฮลท์ (Savvy Health) เป็นประกันสุขภาพคุ้มครองการรักษาพยาบาลแบบผู้ป่วยใน (IPD) มีแผนวงเงินผลประโยชน์ 3 แผนให้เลือก ให้ความคุ้มครองสุขภาพในโรงพยาบาลทั่วประเทศ โดยไม่ต้องสำรองจ่ายในโรงพยาบาลกว่า 490 แห่งในเครืออลิอันซ์อยุธยาฯ

และยังให้ความคุ้มครองการบาดเจ็บกรณีผู้ป่วยนอกภายใน 24 ชั่วโมง สูงสุด 7,500 บาท ต่ออุบัติเหตุ นอกจากนั้นยังได้รับสิทธิประโยชน์อื่น จากบริษัท อาทิ สามารถจ่ายเบี้ยประกันเป็นรายเดือนโดยไม่มีดอกเบี้ย

ซึ่งแบบประกันตัวนี้จะเหมาะกับกลุ่มลูกค้าที่มีอายุ 25-35 ปี เป็นกลุ่มคนโสด เพิ่งเริ่มทำงานประจำ หรือเป็นฟรีแลนซ์ และเริ่มให้ความสำคัญกับสุขภาพ โดยมองหาประกันฉบับแรกราคาคุ้มค่าหรือความคุ้มครองเพิ่มเติมจากประกันที่มี จ่ายค่าเบี้ยประกันวันละ 22 บาท

สำหรับประกันสุขภาพซูพีเรียร์ เฮลท์ (Superior Health) เป็นประกันสุขภาพคุ้มครองการรักษาพยาบาลแบบผู้ป่วยใน (IPD) มีแผนวงเงินผลประโยชน์ 3 แผนให้เลือก ให้ความคุ้มครองสุขภาพในโรงพยาบาลทั่วโลก (ยกเว้นสหรัฐอเมริกา)

รักษาต่อครั้งสูงสุด 10 ล้านบาท

คุ้มครองสูงสุดตามผลประโยชน์ในกรมธรรม์ต่อการพักรักษาเป็นผู้ป่วยในครั้งใดครั้งหนึ่ง (Per Confinement) สูงสุดถึง 10 ล้านบาท มีทางเลือกให้ชำระเบี้ยแบบมีค่าความรับผิดส่วนแรก (Deductible) ลดเบี้ยสูงสุดถึง 60% และมีส่วนลดให้กับการซื้อเป็นครอบครัว 2 คนขึ้นไป

สมัครได้ตั้งแต่อายุ 15 วันถึง 65 ปี นอกจากนั้นยังได้รับสิทธิประโยชน์อื่น จากบริษัท อาทิ บริการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉิน เลือกซื้อความคุ้มครองเพิ่มสำหรับผู้ป่วยนอก ไม่ต้องสำรองจ่ายกับสถานพยาบาลในเครือข่ายกว่า 490 แห่งทั่วประเทศ และสามารถจ่ายเบี้ยประกันเป็นรายเดือนโดยไม่มีดอกเบี้ยด้วย

ซึ่งแบบประกันตัวนี้จะเหมาะกับกลุ่มลูกค้าที่มีอายุ 30-45 ปี, 45 ปีขึ้นไป เป็นพนักงานประจำรายได้สูง เป็นเจ้าของธุรกิจ เป็นลูกค้าที่แต่งงานแล้ว หรือมีครอบครัว โดยมองหาประกันที่มีความคุ้มครองสูง และหลากหลาย สร้างความมั่นคงในชีวิต

โดยทั้ง 2 แบบประกัน มีจุดเด่นสำคัญคือ ไม่ต้องซื้อพ่วงประกันชีวิต การันตีต่ออายุความคุ้มครองตลอดชีวิต หากผู้ขอเอาประกันภัยสมัครและทำประกันก่อนอายุ 60 ปีบริบูรณ์ และมีการต่ออายุกรมธรรม์อย่างต่อเนื่อง และยังคืนเบี้ยประกันภัยทุกปี 10% หากไม่มีการเคลม และจะได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม รับคำแนะนำด้านสุขภาพจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญผ่านบริการ Telemedicine”