
NOBLE เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ 2 รุ่น อายุ 1 ปี 5 เดือน 26 วัน อัตราดอกเบี้ยระหว่าง (4.70-4.80%) ต่อปีและอายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยระหว่าง (5.15-5.25%) ต่อปี คาดว่าจะเสนอขายระหว่าง 18-20 ธ.ค.นี้ เสนอขายผ่าน 6 สถาบันการเงิน ชี้ระดมเงินเพื่อชำระคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดในปี 2567
วันที่ 21 พฤศจิกายน 2566 นายอรรถวิทย์ เฉลิมทรัพยากร กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการเงิน บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOBLE เปิดเผยว่า NOBLE ได้ยื่นข้อมูลเพื่อเสนอขายหุ้นกู้ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.)
โดยเป็นการออกและเสนอขายหุ้นกู้ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไปและผู้ลงทุนสถาบัน หรือที่เรียกว่า Public Offering จำนวน 2 รุ่น คือ
- รุ่นที่ 1 อายุ 1 ปี 5 เดือน 26 วัน อัตราดอกเบี้ยระหว่าง (4.70-4.80%) ต่อปี
- รุ่นที่ 2 อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยระหว่าง (5.15-5.25%) ต่อปี
โดยบริษัทจะประกาศอัตราดอกเบี้ยที่แน่นอนให้ทราบอีกครั้ง
หุ้นกู้ทั้ง 2 รุ่นจ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน จองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท คาดว่าจะเสนอขายระหว่างวันที่ 18-20 ธันวาคม 2566 บริษัทมีวัตถุประสงค์ในการออกหุ้นกู้ครั้งนี้เพื่อนำเงินไปชำระคืนหุ้นกู้ที่กำลังจะครบกำหนดในเดือนกุมภาพันธ์และตุลาคม 2567
โดยบริษัทได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2566 ที่ระดับ “BBB” แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” ซึ่งเป็นระดับ Investment Grade หรือเรียกว่าระดับที่สามารถลงทุนได้ และบริษัทไม่เคยมีประวัติผิดนัดชำระหนี้หรือเลื่อนการชำระดอกเบี้ยหรือเงินต้นของหุ้นกู้ ซึ่งช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ลงทุนได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ ได้แต่งตั้ง 6 สถาบันการเงินชั้นนำ ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง และบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้
ในส่วนของผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกของ ปี 2566 ที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้รวม 7,274 ล้านบาท เติบโต 54% YOY เป็นผลมาจากภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์เริ่มมีการฟื้นตัว ประกอบกับบริษัทสามารถทยอยขายโครงการพร้อมอยู่ (Ready to Move) ที่มีในมือ ควบคู่กับการรักษาการขายในกลุ่มลูกค้าต่างชาติอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันก็ยังทยอยส่งมอบยอดขายรอโอน (Backlog) ที่มีในมือได้ตามแผน
ซึ่งใน 9 เดือนแรกของปี 2566 บริษัทได้มีการส่งมอบโครงการใหม่ทั้งหมด 3 โครงการ ประกอบด้วย
- โครงการประเภทคอนโดมิเนียมจำนวน 1 โครงการ คือ โครงการนิว ซี-สแควร์ สวนหลวง สเตชั่น
- โครงการประเภทแนวราบจำนวน 2 โครงการ คือ โครงการนิว ไฮบ์ สุขสวัสดิ์ และโครงการโนเบิล อเวย์ ชะอำ ซึ่งเข้ามาหนุนรายได้ให้เติบโตมากขึ้น
นอกจากนี้ กำไรสุทธิสำหรับ 9 เดือนแรกของปี 2566 อยู่ที่ 719 ล้านบาท เติบโต 517% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งถือเป็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยหลัก ๆ จะมาจากกำไรจากการดำเนินงานที่เติบโตขึ้นจากรายได้รวมที่มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีการรับรู้กำไรพิเศษจากการขายเงินลงทุนในบริษัทร่วมทุนคือ บริษัท พระราม 9 อัลไลแอนซ์ จำกัด เป็นผู้พัฒนาโครงการนิว ดิสทริค อาร์ 9
และบริษัท คูคต สเตชัน อัลไลแอนซ์ จำกัด เป็นผู้พัฒนาโครงการนิว ครอส คูคต สเตชัน ให้กับบริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PROUD รวมถึงค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ที่ได้รับในฐานะเป็นผู้บริหารโครงการร่วมทุน ได้แก่ ค่าธรรมเนียมการบริหารโครงการ (Management Fee) ค่าธรรมเนียมแรงจูงใจ (Incentive Fee) ค่าธรรมเนียมความสำเร็จของธุรกิจ (Success Fee) อีกด้วย