คอลัมน์ : เช็กกระแสหุ้น
ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ที่ผ่านมา (8-12 ม.ค.) ดัชนีปรับตัวลดลง เงินลงทุนจากต่างชาติ (ฟันด์โฟลว์) เริ่มไหลออก
โดย “ภราดร เตียรณปราโมทย์” รองผู้อำนวยการสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส เปิดเผยว่า SET Index สัปดาห์ที่ผ่านมา ปรับตัวลดลง เนื่องจากตัวเลขเงินเฟ้อไทยที่ออกมาต่ำสุดในรอบ 34 เดือน ทำให้เกิดความกังวลถึงการขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจ (GDP) ไตรมาส 4/2566
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
รวมถึงยังมีความกังวลเรื่องบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ มีโอกาสผิดนัดชำระหนี้ และนโยบายดิจิทัลวอลเลตที่ยังต้องจับตา นอกจากนี้ยังมีประเด็นการดำเนินนโยบายการเงินการคลังของไทยที่ขัดแย้งกัน โดยรัฐบาลต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยืนยันคงอัตราดอกเบี้ย
ด้านปัจจัยต่างประเทศ เงินเฟ้อสหรัฐออกมาสูงกว่าคาด อย่างไรก็ตาม ตลาดคาดว่ายังอยู่ในระดับที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะลดดอกเบี้ยได้ ในเดือน มี.ค.นี้ ขณะที่ไทยหากลดดอกเบี้ยช้ากว่าเฟด ค่าเงินบาทมีโอกาสที่จะแข็งค่าขึ้นได้ และมีโอกาสที่จะมีฟันด์โฟลว์กลับมาซื้อในระยะถัดไปได้
มองไปในสัปดาห์ข้างหน้า (15-19 ม.ค.) “ภราดร” ประเมินว่า SET Index น่าจะอยู่ในกรอบแนวรับ 1,380-1,400 จุด แนวต้าน 1,430 จุด ซึ่งต้องติดตามการรายงานงบฯไตรมาส 4/2566 ของหุ้นกลุ่มแบงก์
เบื้องต้นประเมินกำไรแบงก์ 8 แห่ง รวม 5.5 หมื่นล้าน ลดลง 5.7% QOQ แต่เพิ่มขึ้น 36.5% YOY โดยภาพรวมต่อปีจะเห็นว่าโตได้เด่น เนื่องจากดอกเบี้ยอยู่เทรนด์ขาขึ้น นอกจากนี้ ติดตามการประชุมคณะรัฐมนตรีที่จะมีการเคาะตัวเลขค่าไฟฟ้าด้วย
ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศมีการคาดการณ์ว่า จีนจะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม โดยการลดดอกเบี้ยเงินกู้ระยะ 1 ปี รวมถึงติดตามรายงานตัวเลข GDP จีน ไตรมาส 4/2566 ตลาดคาดอยู่ที่ 5.2% YOY ดีกว่าไตรมาสก่อนหน้า
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนแนะนำหุ้นที่จ่ายปันผลสูง แนะนำ TISCO และ AP รวมถึงแนะนำหุ้นที่กำไรไตรมาส 4/2566 จะออกมาโดดเด่น แนะนำ CPAXT และ CPALL
