กฟผ. MOU ทิพยประกันภัย พัฒนาโปรดักต์ รองรับ “ระเบียงเศรษฐกิจเวลเนส”

กฟผ. MOU ทิพยประกันภัย

กฟผ.ลงนามความร่วมมือ ทิพยประกันภัย ศึกษาพัฒนาโปรดักต์-บริการประกันภัย รองรับ “โครงการระเบียงเศรษฐกิจเวลเนส” หวังสร้างระบบนิเวศเศรษฐกิจมูลค่าสูง 1 ล้านล้าน

วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567 นางสาวสุภาพ ประดับการ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการระเบียงเศรษฐกิจเวลเนส เพื่อส่งเสริมการขับเคลื่อนภารกิจให้ตอบสนองนโยบายของรัฐบาล ด้วยการศึกษาระบบนิเวศของอุตสาหกรรมเวลเนสของประเทศไทย ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการด้านประกันภัย มาช่วยตอบสนองความต้องการของลูกค้าและ Ecosystem ของโครงการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

ตลอดจนส่งเสริมให้เกิดกิจกรรมใหม่ที่มีมูลค่าสูง เพื่อรองรับอุตสาหกรรมเวลเนส เพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี รวมถึงส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่จะทำให้ประเทศไทยเป็น Wellness Destination ของเอเชีย

นายจรัญ คำเงิน รองผู้ว่าการผลิตไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวเสริมว่า กฟผ.มีแผนยุทธศาสตร์ที่สนับสนุนการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ภายใต้บริบทใหม่ที่มีศักยภาพ ด้วยตระหนักว่าอุตสาหกรรมเวลเนสเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่เป็น Megatrend สามารถสร้างมูลค่าและการเติบโตให้กับเศรษฐกิจของประเทศอย่างมีนัยสำคัญ

ปัจจุบันอุตสาหกรรมเวลเนสไทยมีมูลค่าทางการตลาดถึง 1 ล้านล้านบาท โดยเฉพาะในด้านการท่องเที่ยวและบริการสุขภาพ อาหาร และสมุนไพร ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่สร้างมูลค่าต่อประเทศสูงที่สุดถึง 890,000 ล้านบาท ตามผลการศึกษาของ Global Wellness Institute ปี 2565

ADVERTISMENT

จึงทำให้ กฟผ.มองเห็นโอกาสสร้างมูลค่าให้กับประเทศ ยกระดับขีดความสามารถของแต่ละจังหวัดพื้นที่เป้าหมาย ภายใต้โครงการขับเคลื่อนระเบียงเศรษฐกิจเวลเนส กฟผ. โดยมุ่งพัฒนาโครงการแต่ละพื้นที่ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์จังหวัด และบูรณาการเชื่อมโยงพื้นที่เขื่อนและโรงไฟฟ้า กฟผ. รวม 8 พื้นที่ให้สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์เวลเนสประเทศไทยและยุทธศาสตร์ชาติ

ทั้งนี้ จากความร่วมมือกันระหว่างทิพยประกันภัย กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ถือเป็นจุดเริ่มต้นในการเสริมสร้างศักยภาพของอุตสาหกรรมเวลเนส ตลอดจนต่อยอดนวัตกรรมที่ทำให้มูลค่าองค์กรเพิ่มสูงขึ้น และสร้างระบบนิเวศเศรษฐกิจมูลค่าสูงให้กับประเทศไทยต่อไป