กรุงเทพประกันภัย ทรานส์ฟอร์มสู่ “บีเคไอ โฮลดิ้งส์” ประกาศแลกหุ้น “BKI” เป็น “BKIH” เริ่ม 25 มี.ค.– 5 มิ.ย. 67 คาดกลางเดือน มิ.ย. หุ้น BKIH เข้าจดทะเบียนแทน หวังขยายโอกาสทางธุรกิจครั้งสำคัญ สร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน
วันที่ 26 มีนาคม 2567 บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BKI เดินหน้าปรับโครงสร้างสู่การเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน ผ่านการลงทุนในธุรกิจที่หลากหลายและมีศักยภาพ หลังจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติแผนการปรับโครงสร้างบริษัท
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
โดยการจัดตั้งบริษัท บีเคไอ โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BKIH เมื่อช่วงปลายปี 2566 ที่ผ่านมา ล่าสุดได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ให้มีการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ (Tender Offer) โดยบริษัทได้กำหนดระยะเวลาในการแลกเปลี่ยนหุ้นจาก “BKI” เป็น “BKIH” ระหว่างวันที่ 25 มีนาคม-5 มิถุนายน 2567 รวมทั้งสิ้น 45 วันทำการ
สำหรับกระบวนการแลกหุ้นในครั้งนี้ BKIH จะออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน เพื่อแลกกับหุ้นสามัญของ BKI
ในอัตราเท่ากับ 1 หุ้นสามัญของ BKI ต่อ 1 หุ้นสามัญของ BKIH
อย่างไรก็ตาม การแลกหุ้นดังกล่าวจะไม่ได้เป็นไปโดยอัตโนมัติ แต่จะเกิดขึ้นเฉพาะกรณีที่ผู้ถือหุ้นของ BKI ได้ทำการ “ตอบรับ” คำเสนอซื้อหลักทรัพย์แล้วจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 75 เท่านั้น
ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกระบวนการสำคัญในการปรับโครงสร้างทางธุรกิจ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและเพิ่มความคล่องตัวในการขยายการลงทุน ต่อยอดการสร้างรายได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน ด้วยการดำเนินกิจการตามทิศทางเชิงกลยุทธ์ที่เหมาะสมต่อสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน จากการลงทุนทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศที่จะก่อให้เกิดการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในอนาคต โดยมีขั้นตอนการตอบรับคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ BKI ดังนี้
ระยะเวลารับซื้อ
- เวลา 09.00 น. ถึง 16.00 น. ของทุกวันทำการ ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2567 ถึงวันที่ 5 มิถุนายน 2567 รวมระยะเวลา 45 วันทำการ ซึ่งระยะเวลาดังกล่าวเป็นระยะเวลารับซื้อสุดท้ายที่จะไม่ขยายระยะเวลารับซื้ออีก
ตัวแทนในการรับซื้อหลักทรัพย์ (Tender Agent)
- บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน)
รูปแบบการตอบรับคำเสนอซื้อ
- กรณีมีหุ้นอยู่ในบัญชีหลักทรัพย์ (Scripless) ทั้งกรณีที่มีหุ้นในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์กับบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) หรือมีหุ้นในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์กับบริษัทหลักทรัพย์อื่น ๆ ผู้แสดงเจตนาขายสามารถแสดงเจตนาขายผ่านระบบออนไลน์ของบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ได้ที่เว็บไซต์ www.bualuang.co.th (ระบบ e-Tender) โดยขอความร่วมมือให้ผู้ถือหุ้นยื่นแบบตอบรับผ่านระบบออนไลน์ล่วงหน้าอย่างน้อย 10 วันทำการ ก่อนวันสุดท้ายของระยะเวลารับซื้อ
- กรณีมีใบหุ้นหรือฝากหุ้นกับศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ในบัญชี 600 ผู้แสดงเจตนาขายสามารถยื่นแบบตอบรับคำเสนอซื้อหลักทรัพย์พร้อมเอกสารประกอบด้วยตนเองกับทางบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) (สำนักงานใหญ่) ในฐานะตัวแทนในการรับซื้อหลักทรัพย์ ทั้งนี้ ไม่สามารถส่งเอกสารทางไปรษณีย์ได้ โดยขอความร่วมมือให้ผู้ถือหุ้นยื่นแบบตอบรับ ณ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) (สำนักงานใหญ่) ล่วงหน้าอย่างน้อย 10 วันทำการ ก่อนวันสุดท้ายของระยะเวลารับซื้อ
ที่อยู่สำหรับนำส่งเอกสารแบบตอบรับคำเสนอซื้อหลักทรัพย์
- บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) (สำนักงานใหญ่)
ฝ่ายปฏิบัติการ ชั้น 23 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ 191 ถนนสีลม แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500 โทรศัพท์ 0-2618-1141-3, 0-2618-1146-7 หรือ 0-2618-1122, 0-2618-1129, 0-2618-1133 โทรสาร 0-2618-1120
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
- BKIH Call Center โทรศัพท์ 0-2285-8999
ทั้งนี้ เมื่อกระบวนการแลกหุ้นแล้วเสร็จ BKIH จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยประมาณช่วงกลางเดือนมิถุนายน 2567 โดยจะใช้ชื่อย่อหลักทรัพย์ว่า BKIH และผู้ถือหุ้น BKI ที่ได้ทำการแลกหุ้นสมบูรณ์ตามกำหนดเวลาจะเปลี่ยนเป็นผู้ถือหุ้นของ BKIH แทน
โดยจะไม่ได้รับผลกระทบทางภาษีใด ๆ อันเป็นผลจากธุรกรรมการแลกหุ้นสำหรับผู้ถือหุ้น BKI ที่ไม่ได้ตอบรับคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ในระยะเวลาที่กำหนดจะยังคงถือหุ้น BKI ต่อไป
ทั้งนี้ หุ้น BKI จะถูกเพิกถอนออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ในวันเดียวกันที่หุ้นของ BKIH เข้าจดทะเบียน
การเปลี่ยนแปลงที่มาพร้อมโอกาสครั้งสำคัญ BKIH จะก้าวผ่านความท้าทายและเติบโตไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง ด้วยวิสัยทัศน์ “มุ่งสร้างความมั่นคงอย่างยั่งยืนผ่านธุรกิจประกันภัยและธุรกิจอื่นที่หลากหลาย”
พร้อมด้วยพันธกิจ “สร้างผลประกอบการที่ดีผ่านการลงทุนในธุรกิจหลักด้านการประกันภัยและธุรกิจอื่นที่มีศักยภาพ ภายใต้หลักธรรมาภิบาล โดยคำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มให้เติบโตอย่างยั่งยืน” เพื่อนำพาองค์กรไปสู่เป้าหมายแห่งความสำเร็จในอนาคต