ส่อง 3 หุ้น ธุรกิจเสริมความงาม “ทำสวย” จนรายได้ทะลุพันล้าน

ส่อง 3 หุ้น “KLINIQ-MASTER-TRP” ธุรกิจเสริมความงาม “ทำสวย” จนรายได้ทะลุพันล้าน ใครแข็งแกร่งสุด

วันที่ 6 พฤษภาคม 2567 ในยุคที่เทคโนโลยีเข้าสู่ชีวิตประจำวันของเราอย่างไม่หยุดนิ่ง ความสวยความหล่อกลายเป็นความสุขของชีวิต ทั้งผู้หญิง ผู้ชาย และเพศทางเลือก เชื่อว่าทุกคนกำลังรับรู้ถึงความสำคัญของการดูแลปรับเปลี่ยนรูปร่าง ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย ดูแลผิวพรรณ หรือปรับเปลี่ยนรูปร่างด้วยการศัลยกรรม ทำให้ธุรกิจเสริมความงามมีบทบาทในปัจจุบันอย่างมาก

สโลแกนที่เรามักจะได้ยินกันจนคุ้นหูคือ “เพราะความสวยรอไม่ได้” ประชาชาติธุรกิจ จึงจะพาไปส่อง 3 บริษัท ที่เป็นผู้ประกอบธุรกิจเสริมความงาม ซึ่งจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ที่ทำสวยจนรายได้ทะลุระดับพันล้านบาท ประกอบด้วย

  • KLINIQ : บริษัท เดอะคลีนิกค์ คลินิกเวชกรรม จำกัด (มหาชน) คลินิกเวชกรรมด้านผิวหนังความงาม ศัลยกรรมตกแต่ง และการดูแลป้องกันฟื้นฟูสุขภาพ
  • MASTER : บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) สถานพยาบาลด้านความงามที่ให้บริการศัลยกรรมครบวงจรภายใต้ชื่อ “โรงพยาบาลมาสเตอร์พีซ”
  • TRP : บริษัท เอสเตติก คอนเนค จำกัด (มหาชน) หรือธีรพรคลินิก

โดยเริ่มต้นกันที่ KLINIQ ปัจจุบันมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) อยู่ที่ 8,140 ล้านบาท (ข้อมูลปิดราคาหุ้น 37 บาท ณ วันที่ 3 พ.ค. 2567) โดยปิดปี 2566 มีรายได้รวม 2,318 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 40.74% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน (YOY) และมีกำไรสุทธิ 288 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40.45%

ถัดมาคือ MASTER ปัจจุบันมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) อยู่ที่ 15,707 ล้านบาท (ข้อมูลปิดราคาหุ้น 59.50 บาท ณ วันที่ 3 พ.ค. 2567) โดยปิดปี 2566 มีรายได้รวม 1,948 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 30.76% YOY และมีกำไรสุทธิ 416 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.34%

Advertisment

และปิดท้ายกันที่ TRP ปัจจุบันมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) อยู่ที่ 4,480 ล้านบาท (ข้อมูลปิดราคาหุ้น 12.80 บาท ณ วันที่ 3 พ.ค. 2567) โดยปิดปี 2566 มีรายได้รวม 713 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 16.5% YOY และมีกำไรสุทธิ 192 ล้านบาท ลดลง 28.75%

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด รายงานว่า เราคงมุมมองบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการของ MASTER เนื่องจากแนวโน้มรายได้เดือน เม.ย. 2567 เป็นเชิงบวก และทำระดับเกือบเท่ารายได้สูงสุดในเดือน ต.ค. 2566 เนื่องจากมีวันหยุดยาวจำนวนมากทำให้จำนวนลูกค้าหนาแน่น และคาดว่าโมเมนตัมยังเป็นเชิงบวกต่อในเดือน พ.ค.-มิ.ย.เช่นกัน

ปรับเป้าหมายรับผลของหุ้นเพิ่มทุนคงคำแนะนำ “ซื้อ” เรารวมผล Dilution ของหุ้นปันผลไว้ในประมาณการ ทำให้ราคาเป้าหมายลดลงเป็น 73 บาท ซึ่งยังมี Upside Gain จากราคาตลาดอีก 15.9%

“ธุรกิจเสริมความงามถือเป็นอีกธุรกิจที่น่าสนใจ ความนิยมของธุรกิจเสริมความงาม ถูกสะท้อนออกมาในรูปแบบคลินิกความงามมากขึ้น พร้อมโปรโมชั่นที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้า ส่งผลให้หุ้นของธุรกิจก็ขยับขึ้นไปด้วย”

Advertisment