หุ้น-การเงิน

เปิด 11 หุ้นตัวจริง รับศึกฟุตบอลยูโร 2024

Photo by Kirill KUDRYAVTSEV / AFP

บล.เอเซีย พลัส เปิด 11 หุ้นตัวจริง รับศึกฟุตบอลยูโร 2024 กรุงศรี คาดเม็ดเงินจับจ่ายสะพัด 1.5-1.8 หมื่นล้านบาท

วันที่ 15 มิถุนายน 2567 บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด รายงานว่า ในช่วงมหกรรมฟุตบอลยูโร 2024 ประเมิน 11 หุ้นตัวจริง ที่จะได้รับอานิสงส์รับศึก EURO 2024 ในปีนี้ ประกอบด้วย

กลุ่มสื่อสาร

  • ADVANC หุ้นมีราคาอัพไซด์ 20.60% ประเมินราคาพื้นฐาน 252 บาท คาดมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) ปีนี้ 4.3%
  • INTUCH หุ้นมีราคาอัพไซด์ 19.30% ประเมินราคาพื้นฐาน 86.5 บาท คาด Dividend Yield ที่ 4.66%
  • TRUE หุ้นมีราคาอัพไซด์ 15% ประเมินราคาพื้นฐาน 9.6 บาท คาด Dividend Yield ที่ 0.18%

กลุ่มอาหารเครื่องดื่ม

  • CBG หุ้นมีราคาอัพไซด์ 18.60% ประเมินราคาพื้นฐาน 83 บาท คาด Dividend Yield ที่ 2.27%
  • ICHI หุ้นมีราคาอัพไซด์ 36.10% ประเมินราคาพื้นฐาน 22.6 บาท คาด Dividend Yield ที่ 6.55%
  • MINT หุ้นมีราคาอัพไซด์ 16.70% ประเมินราคาพื้นฐาน 35 บาท คาด Dividend Yield ที่ 1.33%

กลุ่มค้าปลีก

  • CPALL หุ้นมีราคาอัพไซด์ 53% ประเมินราคาพื้นฐาน 88 บาท คาด Dividend Yield ที่ 2.3%
  • CRC หุ้นมีราคาอัพไซด์ 26.80% ประเมินราคาพื้นฐาน 39 บาท คาด Dividend Yield ที่ 1.86%
  • BJC หุ้นมีราคาอัพไซด์ 22.30% ประเมินราคาพื้นฐาน 26.3 บาท คาด Dividend Yield ที่ 2.61%
  • CPAXT หุ้นมีราคาอัพไซด์ 31% ประเมินราคาพื้นฐาน 37 บาท คาด Dividend Yield ที่ 2.49%
  • HMPRO หุ้นมีราคาอัพไซด์ 53.80% ประเมินราคาพื้นฐาน 14.3 บาท คาด Dividend Yield ที่ 4.38%

ด้านนายฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กรุงศรี กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ในช่วงมหกรรมฟุตบอลยูโร 2024 ประเมินเม็ดเงินจับจ่ายใช้สอยจะเร่งขึ้นสูงถึงระดับ 1.5-1.8 หมื่นล้านบาท ซึ่งนับว่ามีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับช่วงเวลาการแข่งขันที่สั้นราว 1 เดือน โดยมีสินค้าหลักที่ความต้องการพุ่งสูงขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว ประกอบด้วย อาหารและเครื่องดื่ม อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์กีฬา

และจากผลการศึกษาการเคลื่อนไหวของอุตสาหกรรมที่เชื่อมโยงกลุ่มสินค้าดังกล่าว ในช่วงเวลาแข่งขันฟุตบอลยูโร ที่เกิดขึ้นย้อนหลัง 3 รอบ (ไม่รวมปี 2551 ที่เกิดวิกฤตซับไพร์ม และปี 2564 ที่เกิดวิกฤตโควิด) กลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้ประโยชน์จากกำลังซื้ออุปโภคบริโภคที่เพิ่มขึ้นสูงสุดคือ 1. หุ้นกลุ่มสื่อสาร ให้ผลตอบแทน 7.2% 2. หุ้นกลุ่มโรงแรม ให้ผลตอบแทน 6.3% 3. หุ้นกลุ่มค้าปลีก ให้ผลตอบแทน 4.5% และ 4. หุ้นกลุ่มอาหาร ให้ผลตอบแทน 1.8%

อย่างไรก็ตาม จะพบว่า หุ้นกลุ่มอาหารระยะหลังที่ทยอยมีหุ้นเครื่องดื่มเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยมากขึ้น แม้ในช่วงปี 2564 ที่ตลาดมีปัจจัยเสี่ยง (Market Risk) ยังสามารถให้ผลตอบแทนชนะตลาดได้ที่ 1% ขณะที่ดัชนี SET ติดลบ 5.3%

ADVERTISMENT

สำหรับในเชิงกลยุทธ์การลงทุนหุ้น แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” ก่อนที่จะมีการแข่งขันฟุตบอลยูโร ช่วงกลางเดือน มิ.ย. 2567 ซึ่งปกติแล้วในช่วงเวลาที่มีเทศกาลฟุตบอลยูโร หุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมดังกล่าวมักให้ผลตอบแทนชนะตลาด (Outperform) โดยหุ้นที่มีความน่าสนใจและเหมาะกับการเก็งกำไรในรอบตลาดปัจจุบันที่กำลังตั้งฐานฟื้นตัว ประกอบด้วย

1.หุ้นสื่อสาร ประกอบด้วย บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) ให้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2567 ที่ 10.3 บาท และ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) ให้ราคาเป้าหมาย 275 บาท

ADVERTISMENT

2.หุ้นค้าปลีก ประกอบด้วย บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) ให้ราคาเป้าหมาย 80 บาท บมจ.โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ (HMPRO) ให้ราคาเป้าหมาย 15 บาท และ บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC) ให้ราคาเป้าหมาย 33 บาท

3.หุ้นเครื่องดื่ม ประกอบด้วย บมจ.เซ็ปเป้ (SAPPE) ให้ราคาเป้าหมาย 125 บาท บมจ.โอสถสภา (OSP) ให้ราคาเป้าหมาย 26 บาท และ บมจ.อิชิตัน กรุ๊ป (ICHI) ให้ราคาเป้าหมาย 23.2 บาท รวมไปถึง บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) ให้ราคาเป้าหมาย 42 บาท ซึ่งดำเนินธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม และธุรกิจโรงแรม

นายภูวดล ภูสอดเงิน นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า อานิสงส์มหกรรมฟุตบอลยูโร 2567 ต่อภาพแรงหนุนเศรษฐกิจยุโรป คาดว่าจะส่งผลบวกต่อ บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) เนื่องจากมีธุรกิจโรงแรมอยู่ในยุโรปค่อนข้างมาก ส่วนธุรกิจไทยที่จะได้แรงหนุนคือ

1.กลุ่มส่งออกสินค้าไปยุโรป เช่น กลุ่มเกษตรอาหาร ที่ราคาดี มีดีมานด์ เพราะเป็นช่วงไฮซีซั่นส่งออก ไม่ว่าจะเป็นหุ้น บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF), บมจ.เบทาโกร (BTG), บมจ.จีเอฟพีที (GFPT), บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) และ บมจ.ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น (ITC)

2.กลุ่มที่เกี่ยวโยงกับการถ่ายทอด เช่น กลุ่มโทรคมนาคม ไม่ว่าจะเป็น TRUE ที่ได้ประโยชน์เต็ม ๆ จากคว้าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโร หรือแม้แต่ ADVANC ก็ได้ประโยชน์ เพราะมีเรื่องการแชร์สัญญาณและการใช้แพ็กเกจ

2.กิจกรรมใช้จ่ายกินดื่ม เช่น กลุ่มขนมขบเคี้ยว อาทิ บมจ.เอส แอนด์ พี ซินดิเคท (SNP),บมจ.เอ็นแอสเอล ฟูดส์ (NSL), บมจ.เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง (TKN) และ CPALL, BJC

​