กรุงศรีฯ กำไรปี’62 พุ่ง 32% รายการพิเศษดัน NIM ฮวบเหลือ 3.6% ตั้งเป้าปี’63 สินเชื่อโตแตะ 7%

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) และบริษัทในเครือรายงานกำไรสุทธิปี’62 สูงถึง 3.2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 32% จากปีก่อน แรงหนุน “บันทึกกำไรขายหุ้นเงินติดล้อ-ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุน” ส่งรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยพุ่งกว่า 31.9% กดส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ฮวบเหลือ 3.60% ตั้งเป้าสินเชื่อปี’63 โต 5-7%

นายเซอิจิโระ อาคิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า แม้สภาพแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจไม่เอื้ออำนวย ด้วยปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของธนาคารทำให้ปี 2562 ธนาคารและบริษัทในเครือสามารถมีกำไรสุทธิ 32.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 32% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน โดยสามารถขยายสินเชื่อได้ถึง 8.7% หรือจำนวน 146 พันล้านบาท ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายของธนาคารที่ 6-8% โดยการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปีที่แล้วสะท้อนความสามารถและความคล่องตัวของธนาคารในการปรับพอร์ตสินเชื่อไปสู่กลุ่มลูกค้าธุรกิจที่ให้ผลตอบแทนสูง และสอดคล้องกับเป้าหมายโครงสร้างพอร์ตสินเชื่อเพื่อรายย่อยและสินเชื่อเพื่อธุรกิจในสัดส่วน 50:50 ตามเป้าหมายระยะกลางของธนาคาร

โดยเงินให้สินเชื่อมีการเติบโตครอบคลุมทุกกลุ่มธุรกิจ มีสินเชื่อเพื่อรายย่อยเป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนหลัก ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นที่ 11.1% สะท้อนตำแหน่งผู้นำทางการตลาดของกรุงศรีในธุรกิจสินเชื่อเพื่อรายย่อย ขณะที่สินเชื่อเพื่อธุรกิจเพิ่มขึ้น 6.6% และการเติบโตของเงินรับฝากเพิ่มขึ้น 9.9% หรือจำนวน 141 พันล้านบาท

ขณะที่ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) อยู่ที่ 3.60% ปรับลดลงจาก 3.81% ในปี 2561 และรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญที่ 31.9% โดยปัจจัยขับเคลื่อนหลักมาจากการบันทึกกำไรจากการขายหุ้นของบริษัท เงินติดล้อ จำกัด และส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนตามวิธีส่วนได้เสีย ขณะที่อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ อยู่ที่ 42.9% ปรับดีขึ้นจาก 47.2% ในปี 2561 (หากไม่รวมรายการพิเศษที่บันทึกในปี 2562 อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้จากการดำเนินธุรกิจตามปกติของปี 2562 อยู่ที่ 45.1%)

ส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อยู่ที่ 1.98% ปรับดีขึ้นจาก 2.08% ในปี 2561 อัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ยังคงแข็งแกร่งที่ 163.8% และอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง อยู่ที่ระดับ 16.56%
นายอาคิตะกล่าวถึงแนวโน้มธุรกิจโดยรวมในปี 63 ว่า เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มการปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น แม้ว่าจะยังคงเผชิญปัญหาความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์และความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างประเทศ แต่ด้วยนโยบายการเงินที่ยังคงผ่อนคลายและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ประกอบกับการเร่งเบิกจ่ายการลงทุนของภาครัฐจะช่วยสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยเติบโตอยู่ในระดับ 2.5% ในปี 2563 ธนาคารจึงตั้งเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อสำหรับปี 2563 ที่ 5-7% ด้วยนโยบายการบริหารความเสี่ยงที่มีความรอบคอบระมัดระวัง

วันที่ 31 ธันวาคม 2562 กรุงศรีซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจการเงินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ในระบบเศรษฐกิจไทยจากมูลค่าสินทรัพย์ สินเชื่อและเงินฝาก และเป็นหนึ่งในห้าสถาบันการเงินที่มีความสำคัญเชิงระบบ (D-SIB) มีสินเชื่อรวม 1.82 ล้านล้านบาท เงินรับฝาก 1.57 ล้านล้านบาท และสินทรัพย์รวม 2.36 ล้านล้านบาท ขณะที่เงินกองทุนของธนาคารอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 267.01 พันล้านบาท หรือเทียบเท่า 16.56% ของสินทรัพย์เสี่ยง โดยเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นของเจ้าของคิดเป็น 11.89%