แจกเงิน “เราชนะ” 35 ล้านคน “วินมอไซค์-แท็กซี่-เดลิเวอรี” ลงทะเบียนได้

อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง
อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง

รมว.คลัง เผย เราชนะ แจกเงิน 3,500 บาท 2 เดือน คาดดูแลครอบคลุม 35 ล้านคน ร้านค้าร่วมโครงการคนละครึ่ง แต่มีรายได้น้อย ลงทะเบียนรับสิทธิได้ ชี้คนถือบัตรสวัสดิการรับสิทธิทั้งหมด ระบุรอบนี้วิธีลงทะเบียนจะไม่ยุ่งยาก ลุ้น! ขยายเวลา “คนละครึ่ง”

เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2564 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดโควิด-19 เป็นเฉพาะจุดแต่มีผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมกับประชาชนทั่วประเทศ รัฐบาลจึงเตรียมมาตรการดูแลประชาชน ผ่านโครงการ “เราชนะ” ด้วยการจ่ายเงินเยียวยา 3,500 บาท ระยะเวลา 2 เดือน ระหว่าง ม.ค.-ก.พ.2564 คาดดูแลครอบคลุม 30-35 ล้านคน

สำหรับหลักการในเบื้องต้น จะมีการเปิดให้ลงทะเบียนเช่นเดียวกับที่ผ่านมา และรับเงินผ่านระบบพร้อมเพย์ ส่วนผู้ที่อยู่ในโครงการคนละครึ่ง แล้วมีรายได้น้อย เข้าข่ายได้รับสิทธิ ก็จะได้รับเงินผ่านแอปพลิเคชั่น เป๋าตัง ได้เลย ซึ่งการเบิกจ่ายเงิน จะเป็นการเบิกใช้เงินสด หรือนำไปใช้ต่อในโครงการคนละครึ่งได้เลย จะเห็นความชัดเจนหลังเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว

อย่างไรก็ดี ผู้ถือบัตรสวัสดิการจะได้รับสิทธิทั้งหมด ส่วนพ่อค้า แม่ค้า แม้จะอยู่ในโครงการคนละครึ่ง แต่มีรายได้น้อย ก็สามารถลงทะเบียนรับเงินผ่านโครงการ เราชนะ ได้ ทั้งนี้ ยังรวมไปถึงวินมอเตอร์ไซค์ แท็กซี่ ผู้ส่งอาหารเดลิเวอรี ก็สามารถลงทะเบียนรับสิทธิได้ ซึ่งวิธีการลงทะเบียนในรอบนี้จะพยายามไม่ทำให้ยุ่งยากเหมือนที่ผ่านมา จะใช้เฉพาะข้อมูล และเลขบัตรประชาชน

“เราจะเข้าไปดูแลประชาชนให้ตรงจุด เช่น ผู้ที่มีระบบเงินเดือนของข้าราชการ หรือหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ลูกจ้าง แรงงานที่อยู่ในระบบประกันสังคม ซึ่งได้รับการช่วยเหลือแล้ว ก็จะตัดส่วนนี้ออก ที่เหลือก็จะคัดกรองเฉพาะผู้ที่ได้รับผลกระทบจริง โดยมีเกณฑ์ต่างๆ วัดว่าใครควรที่จะไม่ได้รับ ซึ่งจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อีกครั้ง” นายอาคมกล่าว

ส่วนโครงการ คนละครึ่ง จะเปิดให้ลงทะเบียนรอบใหม่อีก 1 ล้านสิทธิ ซึ่งเป็นส่วนที่เหลือจากการดำเนินการในเฟสแรก 5 แสนสิทธิ และเฟส 2 ที่คาดว่าจะมีผู้ไม่ใช้จ่ายภายใน 14 วัน อีก 5 แสนสิทธิ ส่วนจะมีการขยายระยะเวลาของโครงการออกไปอีกหรือไม่นั้น ยังไม่ได้สรุป แต่จะพิจารณาเป็นรายไตรมาส เนื่องจากการท่องเที่ยวยังไม่กลับมา เศรษฐกิจยังต้องพึ่งการบริโภคและการท่องเที่ยวในประเทศ

“ยังไม่เคยบอกว่าจะไม่ต่อ หรือไม่ทำโครงการคนละครึ่งต่อ ต้องดูกำลังซื้อของประชาชนด้วย ถ้าเหมาะสมก็จะพิจารณาทำต่อ ซึ่งจะดูผลไตรมาสต่อไตรมาส ทั้งนี้ จะเป็นการสร้างความคุ้นเคยให้กับประชาชนในเรื่องการใช้เงินผ่านระบบดิจิทัลด้วย” นายอาคมกล่าว