สุพัฒนพงษ์ หวัง 2 ปี บินไทยหลุดแผนฟื้นฟูกิจการ ยันรัฐรอบคอบก่อนโหวตรับแผน

แฟ้มภาพ

รองนายกฯ ถกผู้ทำแผนการบินไทย พร้อมหารือเงื่อนไขการออกจากแผนฟื้นฟู หวัง 2 ปี การบินไทยหลุดแผนฟื้นฟู ลั่น! การบินไทยต้นแบบฟื้นฟูกิจการรัฐวิสาหกิจ หากสำเร็จลุยฟื้นฟูรัฐวิสาหกิจคิวต่อไป ยันรัฐรอบคอบก่อนโหวดรับแผนฟื้นฟูกิจการ

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน เปิดเผยก่อนเข้าร่วมประชุมกับผู้ทำแผนฟื้นฟูการบินไทย ว่า เป็นการนัดประชุมกับผู้ที่เกี่ยวข้องครั้งแรก หลังจากที่รับตำแหน่งรองนายกที่ดูแลด้านเศรษฐกิจ โดยจะเข้ามารับฟังและหารือกันในเรื่องโครงสร้างการเงินใหม่ ความเป็นไปได้ ความน่าเชื่อถือ และความสามารถในการชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ย ตามแผนฟื้นฟูว่ามีมากน้อยเท่าไหร่ ซึ่งจะทำให้มั่นใจได้อย่างไรว่าจะได้รับการโหวดจากเจ้าหนี้ และจะไปหารือในเรื่องเงื่อนไขของการออกจากแผนฟื้นฟูด้วย เพราะหากเจ้าหนี้เห็นชอบตรงกันก็มีโอกาสที่จะหลุดจากแผนการฟื้นฟูกิจการภายใน 2 ปี

“วันนี้จะได้ข้อสรุปเรื่องการปรับปรุงแผนฟื้นฟูกิจการเลยหรือไม่นั้น ต้องมารับฟังความคิดเห็นของผู้จัดทำแผนก่อน ยังไม่ทราบรายละเอียด ซึ่งมีกำหนดเวลาต้องทำแผนให้เสร็จภายในวันที่ 2 มี.ค.64 และยื่นศาลล้มละลายกลางต่อไป อย่างไรก็ดี การบินไทยจะเป็นต้นแบบการฟื้นฟูกิจการรัฐวิสาหกิจ ซึ่งหากมีอันแรกแล้วประสบความสำเร็จ อาจจะมีรัฐวิสาหกิจที่ 2-4 ตามมา ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่เสียหาย”

นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า ยอมรับว่ารัฐบาลเองก็เป็นผู้ถือหุ้น และเป็นเจ้าหนี้การบินไทยอยู่ด้วย จึงมีความเป็นห่วงว่ายังมีหนี้ของหุ้นกู้ ซึ่งภาคประชาชนและสหกรณ์ที่เกี่ยวข้องอยู่ จึงจำเป็นที่อยากจะเห็นความรอบคอบและความมั่นใจในการจัดทำแผนฟื้นฟูดังกล่าว หลังจากที่ผู้ทำแผนได้ทำการบ้านกันมาระยะเวลาหนึ่งแล้ว เพราะสุดท้ายแล้วเจ้าหนี้ก็จะต้องเป็นผู้โหวดแผนฟื้นฟูอีกครั้ง จึงต้องมีความเป็นไปได้ที่จะได้รับการชำระหนี้ตามความเหมาะสมตามศักยภาพของการบินไทย ที่จะต้องดำเนินการตามแผนการฟื้นฟู

ส่วนในประเด็นการวิจารณ์เรื่องการจัดซื้อเครื่องยนต์ใหม่ ในแผนฟื้นฟูกิจการนั้น ยังไม่ทราบเรื่อง ต้องไปรับฟังรายละเอียดจากผู้ทำแผนก่อน ขณะที่กระแสข่าวผู้จัดทำแผนมีความเห็นไม่ตรงกันในเรื่องจัดทำแผนฟื้นฟู จะกระทบการทำแผนหรือไม่นั้น มองว่าผู้ทำแผนมีหน้าที่ตามกฎหมายที่พิจารณาดูว่าเป็นแผนที่เหมาะสม ความคิดเห็นที่แตกต่างกันก็ด้วยความหวังดีว่าจะได้แผนที่ออกมาแล้วเป็นที่ยอมรับของเจ้าหนี้ ซึ่งจะเป็นผู้ลงมติให้ความเห็นชอบก่อนไปยื่นแผนฟื้นฟูกิจการต่อศาล

ทั้งนี้ หากแผนฟื้นฟูผ่านการอนุมัติจากศาลแล้ว ฐานะที่รัฐบาลเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่จำเป็นจะต้องเพิ่มทุนไปอีกหรือไม่นั้น ยังไม่ทราบรายละเอียดว่าในแผนว่ามีการเพิ่มทุนมากน้อยอย่างไร ซึ่งจะมีการลดพนักงานหรือเพิ่มทุนให้ส่วนใดบ้าง ต้องให้ผู้จัดทำแผนให้รายละเอียด แต่คาดว่าได้ระบุอยู่ในแผนฟื้นฟูแล้ว ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ โดยการบินไทยก็มีผู้เชี่ยวชาญ มีที่ปรึกษาที่เข้ามาช่วยดู จะเห็นการบริหารจัดการของสายการบินทั่วโลกอยู่แล้วว่ามีการบริหารจัดการกันอย่างไร เพื่อให้ความเข้มแข็งของทุกสายการบินอยู่ดี หลังโควิดเกิดขึ้น

“สัดส่วนการถือหุ้นของรัฐบาลในการบินไทยจะมีการเพิ่มขึ้นหรือลดลงหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับแผน ถ้าแผนระบุอย่างไรก็ต้องไปดู ถ้าแผนมีความน่าสนใจ เป็นประโยชน์มีความน่าเชื่อถือก็พิจารณาได้ทุกรูปแบบ ยุทธศาสตร์ยังมองว่าให้เป็นสายการบินที่เข้มแข็ง ส่วนจะยุทธศาสตร์อย่างไรต้องไปถามกระทรวงคมนาคม ซึ่งเป็นผู้ดูแลเรื่องนี้ในอดีต แต่ตอนนี้อาจจะต้องเป็นบริษัทเอกชนตามที่แผนการฟื้นฟูระบุเอาไว้ก่อน”