“ธนชาตพลัส” เปิดตัว 3 เดือนปล่อยกู้ได้กว่า 1.2 พันล้าน เติมช่องว่างที่แบงก์ทำไม่ได้

บริษัท ธนชาตพลัส ในเครือ บมจ.ทุนธนชาต  เปิดตัวได้สวย 3 เดือนแรกปล่อยสินเชื่อได้กว่า 1,200 ล้านบาท   เน้นให้สินเชื่อลูกค้าองค์กรขนาดกลาง-ใหญ่ ดำเนินธุรกิจต่อเนื่องและมีหลักทรัพย์ประเภทอสังหาริมทรัพย์ค้ำประกัน  มุ่งเติมเต็มช่องว่างที่ธนาคารพาณิชย์ทำไม่ได้   บริการรวดเร็ว เงื่อนไขยืดหยุ่นไม่ซับซ้อน 

นายสมเจตน์  หมู่ศิริเลิศ  กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทุนธนชาต จำกัด  (มหาชน) หรือ TCAP   เปิดเผยว่า บริษัท ธนชาตพลัส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัท ทุนธนชาต ก่อตั้งขึ้นมาด้วยความมุ่งมั่นของผู้บริหารในกลุ่มธนชาตที่มีความเชี่ยวชาญและมากประสบการณ์ด้านสินเชื่อโดยเฉพาะการบริหารจัดการด้านสินเชื่อธุรกิจ  ที่ต้องการจะสร้างสรรค์และส่งมอบโซลูชันที่เหมาะสมสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า ด้วยบริการสินเชื่อที่มีหลักประกัน ที่เป็นวงเงินกู้ระยะยาว และเงินทุนหมุนเวียนที่ลูกค้าสามารถนำไปเพิ่มสภาพคล่องและดำเนินธุรกิจให้เดินหน้าไปสู่ความสำเร็จได้ตามเป้าหมาย

หลังจาก ธนชาตพลัสได้เปิดให้บริการสินเชื่อมาประมาณ 3 เดือน ได้ปล่อยสินเชื่อไปแล้วประมาณ 1,200 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รวมถึงบริษัทประเภทอื่น ๆ โดยมีการใช้วงเงินกู้รายละประมาณ 30-100 ล้านบาท และภายในสิ้นปีนี้คาดว่าจะมีลูกค้ามาใช้บริการวงเงินกู้รวมประมาณ 2,500 ล้านบาท โดยตั้งเป้าว่าจะมีอัตราการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อปีละประมาณ 15%

นายปรีชา ฐานะลาโภ ผู้จัดการ บริษัท ธนชาตพลัส จำกัด กล่าวว่า กลุ่มเป้าหมายของบริษัท เป็นผู้ประกอบการที่มีการดำเนินธุรกิจต่อเนื่อง  มีความต้องการใช้สินเชื่อวงเงินตั้งแต่ 30 ล้านบาทขึ้นไป จนถึงประมาณ 500 ล้านบาท โดยมีอสังหาริมทรัพย์ เช่น ที่ดินเปล่า ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง โรงแรม หรือคอนโดมิเนียม เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน


ทั้งนี้ ธนชาตพลัส จะใช้กลยุทธ์เข้าหาลูกค้า ด้วยการนำเสนอวงเงินสินเชื่อ การเบิกจ่าย การชำระคืน ให้เหมาะสม มีความยืดหยุ่นสอดคล้องกับการทำธุรกิจและกระแสเงินสดของกิจการ ซึ่งสามารถตอบโจทย์และสนองความต้องการชองลูกค้าได้ดีกว่าสินเชื่อที่ได้จากธนาคาร และยังมีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสมกับคุณภาพเครดิตของผู้กู้และศักยภาพของหลักประกัน รวมถึงจะเน้นในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าเพื่อเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกันในระยะยาวต่อไป