EIC จับตา 4 ปัจจัยเสี่ยงฉุดเศรษฐกิจไทย จ่อปรับจีดีพี มิ.ย.นี้

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ หรือ EIC มองจีดีพีไตรมาส 1/65 ขยายตัวกว่าคาดที่ระดับ 2.2% ตามการฟื้นตัวอุปสงค์ในประเทศ-ท่องเที่ยว-การส่ง ชี้ จับตา 4 ปัจจัย “ราคาน้ำมันจากสงคราม-ซัพพลายดิสรัปชั่น-นโยบายการเงินตึงตัว-แผลเป็นเศรษฐกิจ” เล็งปรับตัวเลขจีดีพีมิ.ย.นี้ จากคาดการณ์ 2.7%

วันที่ 17 พฤษภาคม 2565 ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (EIC) มองว่า เศรษฐกิจไทย Q1/2565 ขยายตัวสูงกว่าคาด โดยขยายตัวต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่สองติดต่อกันที่ 2.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และหากเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าที่เศรษฐกิจไทยเริ่มกลับมาฟื้นตัวจากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรค เศรษฐกิจไทยในไตรมาสแรกยังสามารถขยายตัว 1.1% จากไตรมาสก่อนหน้า หลังปรับปัจจัยฤดูกาล (QOQ sa)

โดยเศรษฐกิจได้รับปัจจัยสนับสนุนหลักจากการฟื้นตัวของอุปสงค์ในประเทศที่ได้รับอานิสงส์จากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคและนักท่องเที่ยวที่เริ่มกลับมาตามการเปิดประเทศ และการส่งออกที่ยังขยายตัวได้ดีอย่างต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ

ขณะที่หากพิจารณาในฝั่งการผลิต (Production approach) พบว่ามีการฟื้นตัวได้ดีในหลายภาคเศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาคบริการซึ่งสอดคล้องกับภาคท่องเที่ยวที่เริ่มฟื้นตัว รวมถึงภาคอุตสาหกรรมที่ฟื้นตัวตามการส่งออก และภาคเกษตรปรับดีขึ้นตามปริมาณผลผลิต อย่างไรก็ตาม ภาคการก่อสร้างหดตัวลงในไตรมาสแรกจากการลงทุนภาครัฐที่ชะลอตัว

ทั้งนี้ ในระยะถัดไปสงครามในยูเครนจะเริ่มส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย โดยในช่วงไตรมาส 2 EIC คาดเศรษฐกิจจะฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโอมิครอน (Omicron) ที่เริ่มคลี่คลายจากจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันที่ทยอยลดลงและอัตราการได้รับวัคซีนของประชากรในระดับสูง ส่งผลให้อุปสงค์ในประเทศฟื้นตัว กอปรกับภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัวจากการทยอยเปิดประเทศทั่วโลก

อย่างไรก็ตาม EIC คาดว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยจะเริ่มเห็นถึงผลกระทบของสงครามในยูเครนในระยะต่อไป ผ่านผลกระทบของการค้าและเงินเฟ้อ โดยส่งออกไทยจะเริ่มเห็นผลกระทบจากการชะลอตัวของอุปสงค์ รวมถึงปัญหาชะงักงันของอุปทานโลกจากภาวะสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน แม้ที่ผ่านมาผลกระทบต่อมูลค่าส่งออกไทยจะยังจำกัด แต่ EIC คาดว่าการส่งออกของไทยจะได้รับผลกระทบมากขึ้นในไตรมาส 2

ขณะที่ผลกระทบด้านเงินเฟ้อจากราคาพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวสูงขึ้น สร้างแรงกดดันต่อการบริโภคและการลงทุนในประเทศในระยะถัดไป

โดย EIC คาดเศรษฐกิจไทยปี 2565 ขยายตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ท่ามกลางหลายปัจจัยเสี่ยง ซึ่งในส่วนของเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่ามีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยมีการท่องเที่ยวเป็นปัจจัยหนุนสำคัญในช่วงหลังของปีจากแนวโน้มนักท่องเที่ยวที่ดีกว่าคาด ซึ่งเป็นผลจากการผ่อนคลายนโยบายควบคุมโรคและเปิดเมืองที่เร็วขึ้น ประกอบกับการส่งออกที่ยังขยายตัวแต่จะชะลอตัวลงในช่วงที่เหลือของปีจากเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัว

ทั้งนี้ EIC คาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2565 จะขยายตัวอย่างช้า ๆ ที่ 2.7% แต่ยังมีความเสี่ยงต่ำด้านที่ต้องจับตา ได้แก่ 1.ราคาน้ำมันที่อาจเพิ่มขึ้นและอยู่ในระดับสูงยาวนานกว่าคาดจากปัจจัยสงครามรัสเซีย-ยูเครน 2.การชะงักงันของอุปทานในภาคการผลิตและขนส่ง รวมถึงอุปสงค์ที่อาจชะลอตัวมากกว่าคาด ทั้งจากการใช้นโยบายปิดเมืองที่เข้มงวดของจีนและมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อรัสเซียโดยชาติตะวันตก รวมถึงการตอบโต้จากฝั่งรัสเซีย

และ 3.การดำเนินนโยบายการเงินแบบตึงตัวของธนาคารกลางหลักของโลก โดยเฉพาะธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่อาจทำให้ภาวะการเงินโลกตึงตัวและผันผวนมากขึ้น และ 4.ผลของแผลเป็นเศรษฐกิจที่ถูกซ้ำเติมจากผลกระทบด้านค่าครองชีพที่สูงขึ้น จนอาจกระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้ของภาคครัวเรือนในวงกว้าง โดย EIC กำลังติดตามและวิเคราะห์ผลกระทบทางเศรษฐกิจในด้านต่าง ๆ ก่อนมีการเผยแพร่ประมาณการเศรษฐกิจอีกครั้งในช่วงกลางเดือนมิถุนายนนี้