หุ้นอิงคริปโตอ่วมตลาดขาลง จับตาเอฟเฟ็กต์งบไตรมาส 2

crypto คริปโต

 

คริปโตดิ่งกระทบชิ่งหุ้น บจ.ที่ลงทุนเกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัล “เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์” ประเมินผลกระทบแบ่ง 4 กลุ่ม คาดกลุ่มที่ลงทุนโดยตรงกระทบมากสุด ชี้ต้องจับตาการประกาศงบไตรมาส 2/2565 ขณะที่กลุ่มลงทุน “ขุดเหมือง” เจอ stocks loss คาดตลาดซึมยาวทั้งปี ฟาก “บล.กสิกรไทย” ชี้ตลาดอยู่ในภาวะขายมากเกินไป-ฟันธงจุดต่ำสุดยังไม่ได้

นายประกิต สิริวัฒนเกตุ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สถานการณ์ของหุ้นที่ลงทุนในธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลช่วงนี้ค่อนข้างลำบาก เนื่องจากราคาลดลงต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันหุ้นเหล่านี้แยกออกเป็น 4 กลุ่มใหญ่ ๆ ได้แก่ 1.บริษัทที่ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล 2.บริษัทที่ลงทุนรับเป็นนายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล 3.บริษัทที่ลงทุนขุดเหมือง และ 4.บริษัทที่ออกเหรียญโทเค็น

ทั้งนี้ บริษัทที่ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากผลขาดทุนจากเงินลงทุน ในไตรมาส 2/2565 นี้ ซึ่งน่าจะกระทบค่อนข้างมาก ขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัทลงทุนไปมากน้อยแค่ไหน

ส่วนบริษัทที่รับเป็นนายหน้าซื้อขาย ตอนนี้อาจจะยังไม่เห็นผลกระทบมาก แต่ในระยะยาวจะเห็นผลกระทบแน่นอน เพราะบรรดาผู้ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลจะติดดอย ส่งผลให้มูลค่าการซื้อขายจะลดลง

ด้านบริษัทที่ลงทุนขุดเหมือง จะเจอผลกระทบเรื่อง stocks loss คือต้นทุนที่ขุดได้ในแต่ละวันมีแต่จะแพงขึ้น ๆ ขณะที่ราคาสินทรัพย์ดิจิทัลปรับลดลงทุกวัน และสุดท้ายบริษัทที่ออกเหรียญโทเค็นอาจจะได้รับผลกระทบน้อยสุดจากตลาดที่ซบเซาลง

“ฉะนั้นแล้วหุ้นเหล่านี้มีทั้งได้รับผลกระทบโดยตรงและโดยอ้อม เพราะภาพรวมธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลไม่ดีทั้งหมด ตอนนี้สินทรัพย์ดิจิทัลค่อนข้าง over value (ราคาสูงเกินมูลค่าแท้จริง) ภายใต้สภาพคล่องที่เยอะ แต่ก็ไม่มีใครทราบว่า value จริง ๆ อยู่บริเวณไหน แต่รู้อย่างเดียวว่าสภาพคล่องทั้งระบบกำลังจะลดลง ฉะนั้น ในภาวะปัจจุบันไม่ค่อยน่าสนใจลงทุนสำหรับสินทรัพย์เสี่ยง ซึ่งคาดว่าน่าจะลากยาวไปจนถึงสิ้นปี”

นายประกิตกล่าวว่า ตอนนี้มีปัจจัยความกังวลต่อธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขึ้นดอกเบี้ยสกัดเงินเฟ้อ โดยสถานการณ์ปัจจุบันเงินเฟ้อสูง เศรษฐกิจมีแนวโน้มถดถอย เกิดสงคราม สภาพคล่องล้นระบบ ทุกอย่างโถมเข้ามาอยู่ในช่วงเวลานี้ช่วงเวลาเดียว ดังนั้น หุ้นที่เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลก็ควรชะลอลงทุนไปก่อน

นายสุนทร ทองทิพย์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ราคาเหรียญคริปโตเคอร์เรนซีเวลานี้ถือว่ายัง over value ขณะที่ราคาหุ้นที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัลเหล่านี้ยังไม่สามารถฟันธงได้ว่าจุดต่ำสุด (bottom) อยู่บริเวณไหน ต้องประเมินมูลค่าทางบัญชี (book value) ของทรัพย์สินที่ลงทุน

“ตอนนี้ตลาดอยู่ในภาวะขายมากเกินไป (oversold) ฉะนั้น จากนี้ไปในระยะสั้น ๆ ราคาเหรียญคริปโตอาจจะมีการรีบาวนด์ได้บ้าง เพราะตลาดเปลี่ยนมุมมองจากกังวลเงินเฟ้อมาสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย แต่ถามว่าถ้าเหรียญคริปโตรีบาวนด์รอบนี้ หุ้นพวกนี้จะรีบาวนด์ตามหรือไม่ ในมุมมองของผมคิดว่าหุ้นพวกขุดเหมืองอาจจะยังไม่ฟื้นหรือฟื้นช้า เพราะวันนี้ยิ่งขุดยิ่งขาดทุน และเท่าที่พูดคุยกับกูรูผู้เล่นคริปโตฯบอกว่าน่าจะประมาณ 2 ปี จะมี bitcoin halving อีกรอบหนึ่ง และภายใน 1-2 ปีข้างหน้าเฟดอาจจะมีการกลับขาลดดอกเบี้ยจากความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอย” นายสุนทรกล่าว