คดีอุ้มเยาวชนเปิดบัญชีม้า ตำรวจเผย ผู้ต้องหาให้การไม่ตรงกัน

ตร. ยัน แก๊งอุ้มเยาวชนเปิดบัญชีม้า ให้การไม่ตรงกัน
พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน รองผู้บัญชาการตำรวจภาค 1 (ผบช.ภ.1)

ตำรวจยืนยัน แก๊งอุ้มเยาวชนรับเปิดบัญชีม้า ให้การไม่ตรงกัน ยืนยันปล่อยกู้ออนไลน์เท่านั้น ไม่ได้เปิดเว็บพนันออนไลน์

วันที่ 21 กันยายน 2565 จากกรณีเยาวชนอายุ 16 ปี รับจ้างเปิดบัญชีม้าให้กับคนกลุ่มหนึ่ง แล้วนำเงินในบัญชีดังกล่าวไปใช้ จนถูกกลุ่มผู้ว่าจ้างเปิดบัญชีทำร้ายนั้น

พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน รองผู้บัญชาการตำรวจภาค 1 (ผบช.ภ.1) ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับคดีดังกล่าวในรายการเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ทางช่อง 9 MCOT HD ระบุว่า จากคำให้การของผู้ต้องหาทั้ง 9 ราย ให้การไม่ตรงกัน

โดยกิตติพร บัวน้อย (บังดีน) และอนุสรณ์ ฤทธิ์ณรงค์ (เจ๊ก่อง) ให้การว่าจะไปทวงหนี้กับเยาวชนคนดังกล่าว ซึ่งเป็นลูกหนี้ เพราะเบี้ยวไม่จ่ายหนี้ ขณะที่คนที่เหลือตามไปกับเจ๊ก่อง เพื่อไปช่วยยกรถมอเตอร์ไซค์ที่จะซื้อ

เมื่อถามถึงกรณีที่สุรชัย ไพทยะทัต (นิว) ซึ่งถูกพวกเดียวกันยิงนั้น พล.ต.ต.พีระพงษ์กล่าวว่า สุรชัยยังให้การไม่ได้ เพราะยังผ่าตัดอยู่ ขณะที่บังดีนให้การว่า ไม่รู้จักนายสุรชัยมาก่อน เห็นว่ามีการโชว์อาวุธปืนที่เหน็บอยู่ในกางเกง จึงตกใจและยิงเพื่อป้องกันตัว

รอง ผบช.ภ.1 กล่าวว่า จากการข่าวของตำรวจระบุว่า ผู้ต้องหาทั้ง 9 คน เป็นกลุ่มเดียวกัน แต่ทั้ง 9 คน รวมถึงเยาวชนชาย ให้การไม่ตรงกัน โดยนายฟลุคอ้างว่า รับจ้างเปิดบัญชีม้า จำนวน 2 บัญชี โดยทราบว่าได้ค่าตอบแทนรวม 1,000 บาท/เดือน แต่ไม่ทราบว่าผู้ว่าจ้างจะนำบัญชีไปใช้เพื่ออะไร

ขณะที่ บังดีน และเจ๊ก่อง ให้การว่าตนเป็นกลุ่มให้บริการกู้ผ่านทางแอปพลิเคชั่น ซึ่งปิดให้บริการไปแล้ว ไม่ใช่เว็บพนันแต่อย่างใด โดยตำรวจพิสูจน์หลักฐานจะทำการสืบค้นข้อมูลประเด็นนี้ต่อไป

ในส่วนของการดำเนินคดี รอง ผบช.ภ.1 กล่าวว่า ขณะนี้คดีอุ้มเยาวชนชาย และคดียิงสุรชัย (นิว) ได้จับกุมผู้กระทำผิดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน และสรุปสำนวนเพื่อส่งฟ้องศาลต่อไป แต่หากมีข้อมูล พยานหลักฐาน พบว่ามีการเปิดบริการเงินกู้ออนไลน์จริง หรือพบว่ามีการเปิดเว็บพนันออนไลน์ ตำรวจจะดำเนินคดีและสืบเส้นทางไปถึงผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมต่อไป

นอกจากนี้ นายเอกภพ เหลืองประเสิรฐ เจ้าของเพจสายไหมต้องรอด ซึ่งเป็นผู้พาเยาวชนที่ถูกอุ้ม เข้าให้ปากคำกับตำรวจ ให้สัมภาษณ์ในรายการเดียวกันว่า ยืนยันและให้การกับตำรวจว่า เยาวชนคนดังกล่าวไม่ได้ยืมเงินมา แต่เป็นการเอาเงินจากบัญชีที่ไปรับจ้างเปิดมา ซึ่งเป็นการกระทำครั้งที่สอง

นอกจากนี้ เยาวชนอายุ 16 ปี ยืนยันต่อตำรวจ ขณะสอบสวนแบบสหวิชาชีพว่า เงินที่เอามาไม่ได้เป็นเงินยืม และได้เอ่ยถึงชื่อเว็บไซต์พนันออนไลน์กับตำรวจด้วย

สำหรับคดีการอุ้มเยาวชนอายุ 16 ปี และคดียิงสุรชัย ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกันนั้น มีผู้ต้องหาทั้งหมด 9 คน คือ

  1. นายกิตติพร บัวน้อย หรือ บังดีน อายุ 39 ปี (มือปืนยิงเพื่อนร่วมทีม)
  2. น.ส.อนุสรณ์ ฤทธิ์ณรงค์ หรือ เจ๊ก่อง อายุ 53 ปี (คนคุมผู้รับเปิดบัญชีม้า)
  3. นายสุรชัย ไพทยะทัต หรือ นิว อายุ 25 ปี (ผู้ที่ถูกบังดีนยิง)
  4. นายไพศาล มานะปักกวี อายุ 33 ปี
  5. นายเศรษฐา จิรพลานุรักษ์ อายุ 23 ปี
  6. นายอนุรักษ์ เดชะ อายุ 23 ปี
  7. นายอิทธิพล ฤทธิ์ณรงค์ อายุ 27 ปี
  8. น.ส.บาจรีย์ เดชบุญ อายุ 18 ปี
  9. นายอิทธิมนต์ ว่องวาณิชย์ชัย อายุ 48 ปี

โดยมติชนรายงานว่า นายกิตติพร ผู้ต้องหาที่ 1 (มือปืนจี้อุ้ม) ถูกแจ้ง 3 ข้อกล่าวหา ได้แก่

  1. พยายามฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปีนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
  2. พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วน
  3. ยิงปืนโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมนุมชน และหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใด ๆ ให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย

ขณะที่ผู้ต้องหาที่ 2-8 ถูกแจ้งข้อกล่าวหา

  1. ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง หรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น โดยมีอาวุธ หรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป
  2. ร่วมกันหน่วงเหนี่ยว หรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใด ๆ ให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย, ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กาย หรือจิตใจของผู้อื่นนั้น
  3. ร่วมกันพรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปี แต่ยังไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครองหรือผู้ดูแล โดยผู้เยาว์นั้นไม่เต็มใจไปด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง