ขสมก.ควัก 5 แสน พัฒนากระบอกเก็บค่าโดยสารอัจฉริยะ 10 เครื่อง

ขสมก. พัฒนากระบอกตั๋วอัจฉริยะ

ขสมก. ใช้งบ 5 แสนบาท พัฒนากระบอกเก็บค่าโดยสารอัจฉริยะ 10 เครื่อง มีหน้าจอแสดงข้อมูลรายได้ค่าตั๋ว ปรินต์ตั๋วรถเมล์ได้ในตัว

วันที่ 22 กันยายน 2565 เฟซบุ๊กแฟนเพจ Bangkokbusclub.com ชุมชนคนรักรถเมล์ แชร์ภาพกระบอกเก็บค่าโดยสารชนิดหนึ่งที่มีหน้าจอแสดงผลแยกออกมา โดยระบุว่า ในแวดวงรถเมล์ได้มีการส่งต่อภาพของเล่นใหม่ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) นั่นคือ “กระบอกเก็บค่าโดยสารอัจฉริยะ” ซึ่งมีการนำจอภาพขนาดเล็ก ต่อเข้าบริเวณปลายของกระบอกตั๋ว

ขณะที่ในโพสต์ดังกล่าว มีการแสดงความคิดเห็นมากมาย ส่วนใหญ่ต่างแนะนำให้ทำแบบรถโดยสารในต่างประเทศ ที่เปลี่ยนจากใช้พนักงานเก็บค่าโดยสาร มาเป็นเครื่องอิเล็กทรอนิกส์สำหรับเก็บค่าโดยสารแทน และรับชำระด้วยวิธีการที่หลากหลายขึ้น ทั้งเงินสด บัตรอิเล็กทรอนิกส์ และการสแกน QR Code

“ประชาชาติธุรกิจ” ตรวจสอบข้อมูลในเอกสารการจัดซื้อจัดจ้างของ ขสมก. พบว่า โครงการพัฒนากระบอกเก็บค่าโดยสารอัจฉริยะ กำหนดราคาประมูลตั้งแต่เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2565 มีผู้ชนะการเสนอราคาคือ บริษัท โปร อินไซด์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทเกี่ยวกับการบริหารโครงการ การติดตั้ง การดูแล และบำรุงรักษา ในเครือ สกาย ไอซีที (Sky ICT)

โครงการดังกล่าวกำหนดงบประมาณไว้ที่ 500,000 บาท สำหรับการพัฒนากระบอกเก็บค่าโดยสารอัจฉริยะจำนวน 10 เครื่อง พร้อมกับการพัฒนาและติดตั้งระบบบริหารจัดการข้อมูลจากกระบอกเก็บค่าโดยสารอัจฉริยะ มีกำหนดการส่งมอบงานภายใน 90 วัน

เปิดสเป็ก กระบอกเก็บค่าโดยสารอัจฉริยะ

ขสมก. มีการกำหนดคุณลักษณะของกระบอกเก็บค่าโดยสารดังกล่าว ดังนี้

  • ตัวกระบอกทำด้วยวัสดุที่ทนทาน มีจอสัมผัสสำหรับแสดงผลขนาดไม่น้อยกว่า 2.8 นิ้ว (วัดตาม
    แนวทแยง) และมีหน้าจอสัมผัส (Stylus) สำหรับสั่งงานสัมผัสกับจอภาพ
  • สามารถป้อนค่าราคาค่าโดยสารตามราคามาตรฐานที่กำหนดไว้ในแต่ละเส้นทางของรถโดยสาร
  • มีปุ่มราคาด่วนให้สามารถเรียกใช้ใด้สะดวก โดยปุ่มนี้จะเรียงลำดับตามราคาค่าโดยสาร สามารถลบและแก้ไขราคาค่าโดยสารได้
  • ไม่สามารถสั่งพิมพ์ตั๋วโดยสารเดิมซํ้าได้
  • สามารถสั่งพิมพ์ตั๋วโดยสารไปยังเครื่องพิมพ์แบบพกพาได้
  • สามารถรองรับการส่งข้อมูลจำหน่ายตั๋วไปยังระบบคลาวได้โดยผ่านระบบ Wi-Fi 2.4 GHz และ/หรือระบบ SIM ผ่านเครือขายสัญญาณโทรศัพท์มือถือ
  • สามารถแสดงผลรวมราคาค่าโดยสารที่จำหน่ายสุทธิ และจำนวนตั๋วโดยสารที่ออกประจำวันที่ใช้งานในขณะนั้น
  • มีแบตเตอรี่ชนิดชาร์จได้ ขนาดแบตเตอรี่ไม่ต่ำกว่า 3,500 mAh พร้อมสาย USB สำหรับชาร์จ
  • มีเครื่องพิมพ์ตั๋วโดยสารแบบความร้อนชนิดพกพา (Portable Thermal Printer) มีแบตเตอรี่ในตัวและสามารถชาร์จได้

ขณะที่ระบบบริหารจัดการข้อมูลจากกระบอกเก็บค่าโดยสารอัจฉริยะ จะต้องออกแบบให้ระบบสามารถรายงานรายได้จากการซื้อตั๋ว รายชั่วโมง รายวัน รายเดือน และรายปี โดยต้องสามารถรายงานเป็นรายกระบอกเก็บค่าโดยสาร หรือรายงานเป็นรายสายเดินรถได้

รวมถึงรองรับการรายงานรายได้จากกระบอกเก็บค่าโดยสารอัจฉริยะแต่ละกระบอก แสดงได้ตามหมายเลขรถ
ตามรายชั่วโมง รายวัน รายเดือน รายปี รายงานรายได้รวม รายงานเปรียบเทียบจำนวนรายได้จากกระบอกเก็บค่าโดยสารอัจฉริยะแสดงได้ตามหมายเลขรถ ตามรายขั่วโมง รายวัน รายเดือน รายปี และรายงานเปรียบเทียบจำนวนประเภทตั๋วที่ออกรวม

ก่อนหน้านี้ เมื่อปี 2560 ขสมก. เซ็นสัญญาเช่าระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมอุปกรณ์ (E-Ticket) จากกลุ่มร่วมทำงาน นำโดย บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) เพื่อติดตั้งในรถเมล์ ขสมก.จํานวน 2,600 คัน วงเงิน 1,665 ล้านบาท ระยะสัมปทานรวม 5 ปี เริ่มให้บริการระยะแรก 1 ตุลาคม 2560 ในรถเมล์ ขสมก. 800 คันแรก และทยอยติดตั้งจนครบ 2,600 คัน

ระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมอุปกรณ์ E-Ticket ที่ ขสมก. เช่าจากกลุ่มร่วมทำงาน นำโดย ช ทวี (แฟ้มภาพ)

กระทั่งเดือนมีนาคม 2562 ขสมก.ยกเลิกการใช้งานระบบ E-ticket ทั้งหมด และเปลี่ยนมาใช้เครื่อง EDC (Electronic Data Capture) เพื่อรับชำระค่าโดยสารแทน รองรับการใช้งานทั้งบัตรเดบิต บัตรเครดิต ระบบ EMV Contactless บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และการชำระแบบ QR Code โดยเริ่มใช้งานในรถเมล์สาย 510 (ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ) และใช้งานบนรถเมล์ ขสมก.ครบทุกสายในปัจจุบัน