
กรมอุตุฯสั่งเฝ้าระวังกลุ่มฝนในพื้นที่ 12 เขตของ กทม. ช่วงเย็นถึงกลางดึกคืนนี้ ระบุ “เขตหนองแขม”ฝนตกสะสมสูงสุด แต่ไม่มีพื้นที่ฝนตกหนักถึงหนักมาก คาดพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลจะมีฝนฟ้าคะนองจนถึงตกหนักบางแห่งเฉลี่ย 40-70% ของพื้นที่ไปจนถึง 10 ต.ค. หลังจากนั้นฝนจะเริ่มน้อยลง
วันที่ 6 ตุลาคม 2565 กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ปริมาณฝนสะสม 24 ชั่วโมงบริเวณกรุงเทพมหานครตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคม 2565 เวลา 07.00 น. ถึงวันที่ 7 ตุลาคม 2565 เวลา 07.00 น. โดยกรมอุตุฯคาดการณ์ว่าไม่พบพื้นที่ที่มีฝนตกหนักถึงหนักมากในพื้นที่ กทม. แต่จะมีฝนตกปานกลางรวม 12 เขต ได้แก่ เขตหนองจอก มีนบุรี ลาดกระบัง ตลิ่งชัน บางกอกน้อย บางขุนเทียน หนองแขม บางพลัด บางแค สะพานสูง คลองสามวา และเขตทวีวัฒนา โดยกรมอุตุฯระบุว่าให้เฝ้าระวังกลุ่มฝนตั้งแต่เวลา 16.00 น. ของวันที่ 6 ตุลาคม 2565 จนถึงเวลา 01.00 น. ของวันที่ 7 ตุลาคม 2565
- จับตาธุรกิจเลิกจ้าง ปิดกิจการ ส่งออกสะดุด-บริษัทยักษ์ย้ายฐาน
- โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ เป็นองคมนตรีคนใหม่ มีผลทันที
- ผู้ซื้อญี่ปุ่นเซ็นแล้ว 5,000 ตัน นำเข้ากล้วยอีสาน ได้เม็ดเงินทันที 100 ล้านบาท
ทางด้านกรุงเทพมหานคร (กทม.) รายงานเมื่อเวลา 14.45 น. ว่ามีฝนปานกลางปกคลุมอ่าวไทย ขยายตัวเพิ่มขึ้น กำลังเคลื่อนตัวทิศตะวันตกเฉียงเหนือ แนวโน้มเพิ่มขึ้น คาดว่ากลุ่มฝนจะเคลื่อนตัวเข้าปกคลุมพื้นที่ฝั่งพระนครตอนล่าง และฝั่งธนบุรีตอนล่างในเวลาต่อไป
ต่อมาเวลา 15.00 น. กทม.รายงานเพิ่มเติมว่า มีฝนเล็กน้อยถึงปานกลางเขตบางแค บางขุนเทียน หนองแขม เคลื่อนตัวทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ฝนรวมสูงสุด 3 ชม. ที่เขตหนองแขม 60.0 มม.
เตือน 6-12 ต.ค.ยังมีฝนตกหนักหลายพื้นที่
ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยา คาดหมายลักษณะอากาศ ระหว่างวันที่ 6 ตุลาคม 2565-12 ตุลาคม 2565 ว่า การคาดหมายว่าในช่วงวันที่ 6-8 ต.ค. 65 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนปกคลุมภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้ลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดเข้ามาปกคลุมประเทศไทยและอ่าวไทย
ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีฝนน้อย แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้
ส่วนในช่วงวันที่ 9-12 ต.ค. 65 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนอีกระลอกหนึ่งจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกหนักกับมีลมกระโชกแรงบางแห่งเกิดขึ้นได้ในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียสกับมีลมแรง ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกอุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย ในขณะที่ร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง
ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 6-10 ต.ค. 65 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบน และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย
เหนือ-อีสาน ฝนน้อย อุณหภูมิเริ่มลดลง
ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 6-9 ต.ค. 65 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 20-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 10-12 ต.ค. 65 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ โดยอุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 19-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 6-9 ต.ค. 65 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนัก กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 10-12 ต.ค. 65 อากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง โดยมีฝนร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียส
ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 6-10 ต.ค. 65 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 11-12 ต.ค. 65 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ โดยอุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 20-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียส
ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 6-10 ต.ค. 65 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 11-12 ต.ค. 65 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ โดยอุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-34 องศาเซลเซียส
ภาคใต้มีฝนตกหนัก 60-80% ของพื้นที่
ภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ตลอดช่วง
ในช่วงวันที่ 6-9 ต.ค. 65 ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
ในช่วงวันที่ 10-12 ต.ค. 65 ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส
ภาคใต้ฝั่งตะวันตก ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ตลอดช่วง
ในช่วงวันที่ 6-9 ต.ค. 65 ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
ในช่วงวันที่ 10-12 ต.ค. 65 ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-34 องศาเซลเซียส
กทม.ฝนตกหนักบางพื้นที่ถึง 10 ต.ค.
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 6-10 ต.ค. 65 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 11-12 ต.ค. 65 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ โดยอุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส
สำหรับพยากรณ์อากาศใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า กรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ลักษณะอากาศสำหรับพื้นที่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ตั้งแต่เวลา 17.00 วันนี้ ถึง 17.00 วันพรุ่งนี้ว่า ยังมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.