อั๋น ภูวนาท มองคนรุ่นใหม่ตั้งคำถาม สร้างแรงกระเพื่อม ขับเคลื่อนประเทศ

อั๋น ภูวนาท คุณผลิต

อั๋น ภูวนาท เผย พลัง New Generation กับการตั้งคำถามอย่างสร้างสรรค์ ทำให้เกิดแรงกระเพื่อมไปสู่การขับเคลื่อนประเทศ พร้อมผลักดันให้สังคมรับฟังอย่างเข้าใจก่อนตัดสิน

วันที่ 25 มกราคม 2566 อั๋น ภูวนาท คุนผลิน พิธีกร-นักจัดรายการวิทยุ กล่าวบนเวทีสัมมนาใหญ่ Thailand opportunity ของเครือมติชน ในหัวข้อ “พลัง New Gen ขับเคลื่อนประเทศ” ว่า ยุคนี้เป็นยุคที่มีความหลากหลายทางเจเนอเรชั่นสูงที่สุด ซึ่งเราต้องยอมรับว่าไม่สนใจไม่ได้ เราต้องรู้ว่าแคแร็กเตอร์ของแต่ละเจเนอเรชั่นแตกต่างกันอย่างไร

ถ้ามองลึกลงไป ปี 2566 ไม่ใช่ยุคที่แบ่งเจเนอเรชั่นอย่างเดียวแล้ว แต่เป็นยุคที่ต้องการความเป็นตัวเอง เพราะฉะนั้นทุกอย่างที่เกิดขึ้นทั้งในปัจจุบันและอนาคตจะมีความเป็น personalize จะเป็นเรื่องที่ customize ทุกคนอยากรู้สึกว่าเป็นตัวของตัวเองในแบบที่ไม่เหมือนใคร เราจะเห็นความแตกต่างอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ในยุคนี้เราเดินสวนกับความหลากหลายโดยที่เรามองว่าเป็นเรื่องปกติและไม่รู้สึกแปลก แต่มองว่าเป็นอีกหนึ่งความแตกต่าง ซึ่งคิดว่าเป็นการเคลื่อนตัวไปสู่เรื่องที่ดี เพราะทำให้เกิดความเคารพในความแตกต่างที่เกิดขึ้นในสังคม

อั๋น ภูวนาท คุณผลิต

New Generation มีความน่าสนใจมาก มองว่าเป็นเจนที่มีความกล้าหาญมากกว่าคนรุ่นก่อน เราเกิดมาภายใต้ระบอบอำนาจนิยม เราถูกสั่งให้ทำตามระเบียบและอาจมีคำถามซึ่งในบางครั้งก็ไม่ได้รับคำตอบกลับมา หรือหากได้คำตอบก็ไม่ใช่คำตอบที่น่าพึงพอใจที่แท้จริง ทั้งนี้ คิดว่าสิ่งที่ New Generation ทำอยู่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีมากและอยากส่งเสริมให้ทำต่อไป คือการตั้งคำถามที่ดีอย่างสร้างสรรค์ และพยายามอย่างไม่ลดละที่จะหาคำตอบที่ดีให้ได้ และคิดว่าสังคมในทุก ๆ เจเนอเรชั่นมีหน้าที่ในการตอบคำถามเหล่านั้น

“ผมคิดว่าเราน่าจะเห็นว่าเราถูกครอบอยู่กับอะไรบางอย่างมาเป็นเวลานานมาก โดยปราศจากคำถามหรือคำตอบ ในหลาย ๆ เรื่องผมเกิดความสงสัยว่าเราอยู่แบบนั้นมาได้อย่างไร แต่คนรุ่นใหม่เขาไม่ยอม ซึ่งก็ไม่แปลกใจว่าทำไมถึงไม่ยอม แต่เมื่อมองย้อนกลับไปก็เกิดคำถามว่าแล้วทำไมที่ผ่านมาเราถึงยอมให้สิ่งนี้เกิดขึ้นมานานแล้ว ทำไมเรายอมให้มีการคอร์รัปชั่น ผมคิดว่าการตั้งคำถามของคนรุ่นใหม่สะท้อนเรื่องใหญ่ ๆ ไปถึงคนทุกรุ่น และเป็นแรงกระเพื่อมให้เกิดการเปลี่ยนแปลง”

ปัญหาหลักของสังคมไทยในขณะนี้คือ trust issue คือเราไม่ไว้ใจกัน และเราไม่รู้ว่าเราจะไว้ใจใครได้ เราไม่กล้าพูดในสิ่งที่เราคิด เราไม่กล้าแสดงออกในสิ่งที่เราเชื่อ แม้ในปัจจุบันจะสามารถแสดงความคิดเห็นผ่านทางโซเชียลมีเดียได้ แต่ในชีวิตจริงในสังคมทั่วไปไม่มีพื้นที่ใดเลยที่เปิดโอกาสให้เขาได้เป็นตัวของตัวเอง ซึ่งนี่คือสิ่งที่หายไป และเป็นสิ่งที่สำคัญมากในสังคมไทยและสังคมโลก ดังนั้นเราต้องช่วยกันสร้างระบบนิเวศที่เปิดโอกาสให้คนแสดงความคิดเห็นได้ และพื้นที่นั้นต้องไม่กระจัดกระจายจนเกินไป

“แม้ว่าปัจจุบันจะมีพื้นที่ที่เปิดโอกาสให้แสดงความคิดเห็น แต่ในบางครั้งกลับไม่ได้รับการรับฟังอย่างจริงใจ เราต้องพยายามเข้าใจก่อนพยายามตัดสินใจ ขณะที่สังคมปัจจุบันเน้นตัดสินก่อน หรือบางครั้งตัดสินเลยโดยที่ไม่พยายามเข้าใจด้วยซ้ำ”

อั๋น ภูวนาท คุณผลิต

สำหรับการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น อยากให้ทุกคนตั้งใจดูกันที่นโยบาย เมื่อก่อนจะมีคำว่าเลือกคนที่รักพรรคที่ชอบ ซึ่งส่วนตัวมองว่าไม่ถูกต้อง แม้จะเป็นสิทธิของทุกคน แต่เราควรใช้สติในการเลือกด้วย เราต้องมองไปไกลกว่านั้น ไม่ใช่แค่รู้สึกรักและชอบ เพราะในขณะนี้เกิดความแตกแยกขึ้นจากการหลับหูหลับตารัก และไม่ใช่รักธรรมดาแต่เป็นรักในระดับที่หลงในหลาย ๆ กลุ่ม

นอกจากนี้ อั๋น ภูวนาทได้กล่าวเพิ่มเติมว่า คนรุ่นใหม่มาพร้อมกับคำถามที่เราควรหาคำตอบที่ดีให้กับเขา และต้องไม่โกรธที่เขาไม่เข้าใจ ซึ่งหากพยายามทำให้เขาเข้าใจแล้วแต่เขาไม่เข้าใจ หรือเข้าใจแตกต่างออกไป เราก็ไม่ควรโกรธเขา ทุกวันนี้เรายังไม่ได้อยู่ในสังคมที่พร้อมจะพูดความจริง ดังนั้นเราทุกคนควรร่วมกันผลักดันที่จะพูดความจริงกันได้มากขึ้น และเราต้องไม่รู้สึกว่าเราไม่ปลอดภัยเมื่อพูดความจริง เมื่อภาคประชาชนและสื่อมวลชนเข้มแข็ง พร้อมยืนหยัดเคียงข้างกันด้วยเจตนาที่ดี เชื่อว่าจะสร้างความเปลี่ยนแปลงได้

“ผมคิดว่าความแตกต่างและความหลากหลายเป็นความสวยงาม สิ่งสำคัญคืออยากส่งเสริมให้เราฟังกันให้มากกว่านี้อย่างจริงจัง ไม่ใช่การฟังเพื่อที่จะตอบ ไม่ใช่การฟังเพื่อที่จะเถียง แต่เป็นการฟังเพื่อที่จะเข้าใจ และฟังโดยที่ไม่มีอคติ ผมคิดว่าการจะก้าวไปข้างหน้า คนรุ่นก่อน ๆ ควรตระหนักว่าคนรุ่นใหม่คือคนที่กำลังจะมาแทนที่เรา จะมองคนรุ่นใหม่ด้วยมุมมองแบบเดิมอีกต่อไปไม่ได้ เราต้องเปิดกว้างเพื่อเข้าใจ ถ้าเราขับเคลื่อนและก้าวไปด้วยทัศนคติแบบนี้ ผมเชื่อว่าหลาย ๆ เรื่อง ประเทศเราเต็มไปด้วยทฤษฎี นโยบาย คำคม โมเดลเศรษฐกิจมากมายที่ไม่ได้ทำแต่เอาไว้พูด ขณะที่สิ่งต่าง ๆ จะเปลี่ยนได้ คือเปลี่ยนจากการพูดเป็นการลงมือทำ ซึ่งก็หวังว่าการเลือกตั้งในครั้งนี้จะมีอะไรเปลี่ยนแปลง” อั๋น ภูวนาท กล่าวทิ้งท้าย