หมอมนูญ จับตาโควิด XBB.1.5 แพร่ง่ายกว่าโอมิครอน

นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์
นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์

นพ.มนูญ ย้ำโควิดสายพันธุ์ XBB.1.5 ระบาดง่าย แต่ไม่ปรากฏว่าทำให้ป่วยหนัก ยาต้านทั้งเรมเดซิเวียร์ แพ็กซ์โลวิด โมลนูพิราเวียร์ยังใช้ได้ผล

วันที่ 26 มกราคม 2566 นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์เฟซบุ๊กกล่าวถึงแนวโน้มการระบาดของโควิด-19 ที่อาจกลับเป็นขาขึ้นอีกครั้ง เพราะสายพันธุ์ XBB.1.5 ซึ่งระบาดง่ายกว่าโอมิครอนสายพันธุ์อื่น ๆ ถึง 5 เท่า อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีหลักฐานว่า XBB.1.5 ทำให้ป่วยหนักขึ้น และยาต้านไวรัสต่าง ๆ ยังใช้ได้ผลดี

นพ.มนูญกล่าวว่า ขณะนี้การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดในประเทศไทยอยู่ในช่วงขาลง จำนวนคนติดเชื้อและคนป่วยหนักลดลงอย่างเห็นได้ชัด เชื่อว่าอีกไม่นานก็จะกลับมาเป็นขาขึ้นอีก เพราะเชื้อไวรัสโควิดตัวใหม่สายพันธุ์ XBB.1.5 จะเข้ามาไทยจากคนเดินทางจากประเทศตะวันตกไม่ช้าก็เร็ว

ไวรัสโควิดสายพันธุ์ย่อย XBB.1.5 พัฒนามาจาก XBB ซึ่งพบครั้งแรกในประเทศอินเดียในเดือนสิงหาคม 2565 XBB เป็นลูกผสมของไวรัสโควิดสายพันธุ์ BA.2.10.1 กับ BA.2.75

XBB มีการกลายพันธุ์ที่ช่วยให้เอาชนะภูมิคุ้มกันของร่างกายได้ และสายพันธุ์ย่อย XBB.1.5 มีการกลายพันธุ์ที่โปรตีนปุ่มหนามตำแหน่ง F486P ซึ่งมีความสามารถในการยึดเกาะกับเซลล์ได้ดีขึ้น ทำให้แพร่กระจายได้ง่ายกว่าสายพันธุ์โอมิครอนอื่น ๆ ถึง 5 เท่า ขณะนี้ XBB.1.5 ขึ้นครองอันดับ 1 ในประเทศสหรัฐอเมริกาแทนที่สายพันธุ์ BQ.1.1 และ BQ.1 แล้ว

เชื้อไวรัสโควิดที่กำลังแพร่ระบาดในประเทศไทยในขณะนี้เป็นสายพันธุ์ BA.2.75 ยังไม่ใช่ XBB.1.5 คนไทยไม่ต้องตื่นกลัวสายพันธุ์ XBB.1.5 เท่าที่ทราบสายพันธุ์ XBB.1.5 ความรุนแรงไม่ได้เพิ่มขึ้น ไม่ได้ทำให้คนป่วยหนักกว่าสายพันธุ์โอมิครอนอื่น ๆ XBB.1.5 ติดกันง่ายมาก คนที่ยังไม่เคยติดเชื้อโควิด ในที่สุดก็จะติดเชื้อสายพันธุ์ใหม่นี้

นอกจากนี้ คนที่ได้รับวัคซีนครบโดสและเข็มกระตุ้นแล้ว หรือเคยติดเชื้อก็ยังติดเชื้อนี้ได้อีก เพราะ XBB.1.5 หลบหลีกภูมิคุ้มกันเก่งกว่าสายพันธุ์อื่น แต่คนส่วนใหญ่ถ้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้นหรือเคยติดเชื้อมาก่อนจะป่วยไม่มาก การหลบหลีกภูมิคุ้มกันอาจทำให้การรักษาด้วยภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป Evusheld ไม่ได้ผล แต่ยาต้านไวรัสเรมเดซิเวียร์ แพ็กซ์โลวิด และโมลนูพิราเวียร์ยังใช้ได้ผลเหมือนเดิม