ทอท.ฟ้องล้มละลาย-จัดการทรัพย์ สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ คดีชุมนุมปิดสนามบิน

ราชกิจจานุเบกษา-ประกาศ

ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ให้จัดการทรัพย์มรดกจำเลย “สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์” อดีตแกนนำพันธมิตร คดีโดน บมจ.ท่าอากาศยานไทย ฟ้องล้มละลายในคดีปิดสนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมืองเมื่อปี 2551

วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ เรื่องคำพิพากษาให้จัดการทรัพย์มรดกจำเลยในคดีหมายเลขแดงที่ ล.337/2566 ศาลล้มละลายกลาง กองบังคับคดีล้มละลาย 5 กรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม

ประกาศฉบับดังกล่าวระบุว่า ด้วยบริษัท ท่าอากาศยานไทย จํากัด (มหาชน) โจทก์ ได้ยื่นฟ้องต่อศาลล้มละลายกลาง ขอให้จัดการทรัพย์กองมรดกของนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ (ผู้ตาย) ลูกหนี้ และศาลได้มีคําพิพากษาลงวันที่ 24 มกราคม 2566 ให้จัดการทรัพย์กองมรดกของนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ (ผู้ตาย) โดยนางวัลลภา พงษ์ไพบูลย์ ในฐานะทายาทโดยธรรม หรือผู้จัดการมรดกหรือผู้ครอบครองทรัพย์มรดก ลูกหนี้ ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 แล้ว

ดังนั้น นับตั้งแต่ศาลได้มีคำสั่ง เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แต่ผู้เดียว มีอำนาจจัดการเกี่ยวกับกิจการและทรัพย์สินของลูกหนี้ ตามมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติ พ.ศ. 2483 และบุคคลผู้เป็นหนี้ลูกหนี้หรือมีทรัพย์สินของลูกหนี้อยู่ในครอบครอง มีหน้าที่ต้องแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับหนี้หรือทรัพย์สินของลูกหนี้ให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ทราบ ภายใน 1 เดือนนับแต่วันที่ได้ทราบคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ตามมาตรา 24/1 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483

ซึ่งผู้ใดมีหน้าที่ตามมาตรา 24/1 แล้วไม่ปฏิบัติตาม มีความผิดต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองแสนบาทตามมาตรา 173/1 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483

คดีกลุ่มพันธมิตรฯชุมนุมขับไล่รัฐบาล-ปิดสนามบิน ปี 2551

สำหรับนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ เป็นอาจารย์และอดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เคยมีบทบาทในการชุมนุมเมื่อปี พ.ศ. 2549 และ พ.ศ. 2551 และถูกดำเนินคดีจากการเป็นแกนนำพันธมิตรและกปปส.จนถูกศาลพิพากษาจำคุกและยังมีคดีความในชั้นศาลอีกหลายคดี

โดยนายสมเกียรติเสียชีวิตเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2564 หลังจากล้มป่วยจากอาการเส้นเลือดแตกบริเวณก้านสมอง ขณะมีอายุ 71 ปี

สำหรับคดีดังกล่าว เป็นคดีที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงปลายปี 2551 กลุ่มพันธมิตรฯมีการชุมนุมประท้วงรัฐบาล และขับไล่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ที่สนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิ ทำให้การให้บริการต่าง ๆ ภายในสนามบินทั้งสองต้องหยุดลง โดยแกนนำพันธมิตรฯ 13 ราย รวมนายสมเกียรติถูกบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด มหาชน (ทอท.) เป็นโจทก์ฟ้อง พร้อมเรียกค่าเสียหายกว่า 522 ล้านบาท

โดยช่วงถูกดำเนินคดีนั้น ทนายความของกลุ่มพันธมิตรฯระบุว่า กรณีการบังคับคดี ที่อัยการออกหนังสือแจ้งให้ 13 แกนนำพันธมิตรฯ จำเลยคดีแพ่ง ที่บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) ยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายจากการชุมนุมที่สนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิเมื่อปี 2551 จำนวน 500 กว่าล้านบาทเพื่อบังคับคดีตามคำพิพากษาของศาลแพ่งนั้น

แกนนำพันธมิตรฯดังกล่าวได้รับหนังสือการบังคับคดีจากอัยการ ตามที่ได้รับมอบอำนาจจาก ทอท.โจทก์ เจ้าหนี้ ให้เป็นผู้ดำเนินการติดตามการบังคับคดีแล้ว โดยขั้นตอนนี้เป็นอำนาจของฝ่ายโจทก์เจ้าหนี้ ส่วนจำเลย ลูกหนี้ไม่มีอำนาจต่อรองการบังคับคดี ซึ่งฝ่ายจำเลยก็ไม่มีทรัพย์สินเพียงพอในการชำระค่าเสียหายตามคำพิพากษาถึงที่สุดดังกล่าว

ทั้งนี้ ตามขั้นตอน ฝ่ายจำเลยหรือลูกหนี้คงไม่ต้องแจ้งอะไร เพราะว่าไม่มีทรัพย์สินมาชำระได้ โดยฝ่ายโจทก์ เจ้าหนี้ ก็จะติดตามตรวจสอบดูทรัพย์สินของจำเลยแต่ละรายว่ามีอะไรบ้าง เพียงพอชำระหนี้อย่างไร หากมีทรัพย์สินที่มีมูลค่าที่จะนำมาขายทอดตลาดได้ ก็จะดำเนินยึดอายัดมาประกาศขายทอดตลอดเพื่อชำระหนี้ตามคำพิพากษา ซึ่งการติดตามหาทรัพย์สินมาบังคับคดีจะมีเวลาดำเนินการ 10 ปี แต่ถ้าระหว่างนี้การตรวจสอบชัดเจนว่า จำเลยที่เป็นลูกหนี้ไม่มีทรัพย์สินที่มีมูลค่าจะนำมาขายทอดตลอดชำระหนี้ได้ โจทก์ก็จะยื่นฟ้องเป็นคดีล้มละลายต่อศาลล้มละลายกลาง ขอให้จำเลยที่มีหนี้สินมากกว่าทรัพย์สินนั้นตกเป็นบุคคลล้มละลาย


พิทักษ์ทรัพย์ สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์