
พระสงฆ์ไทยเกือบร้อยละ 75 มีพฤติกรรมสุขภาพที่ไม่พึงประสงค์ ส่งผลให้พระสงฆ์ป่วยโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หัวใจขาดเลือด และภาวะไขมันในเลือดสูง กรมอนามัย แนะทำบุญตักบาตร ถวายอาหารเมนูชูสุขภาพ ลดหวาน มัน เค็ม ลดของทอด และอาหารที่มีไขมันสูง เพื่อสุขภาพที่ดีของพระสงฆ์
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า จากการสำรวจพฤติกรรมสุขภาพพระสงฆ์ในประเทศไทย ใน พ.ศ. 2565 จำนวน 18,496 รูป พบว่า พระสงฆ์มีพฤติกรรมสุขภาพที่พึงประสงค์ เพียงร้อยละ 25.58 ส่งผลให้พระสงฆ์ป่วยด้วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (noncommunicable diseases : NCDs) ได้แก่ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจขาดเลือด และภาวะไขมันในเลือดสูง
เนื่องในวันมาฆบูชา วันที่ 6 มีนาคม 2566 ซึ่งเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา และเป็นวันพระใหญ่ที่ประชาชนส่วนใหญ่จะนิยมไปวัดเพื่อทำบุญตักบาตร กรมอนามัยจึงแนะนำให้ประชาชนเลือกอาหารสุขภาพในการตักบาตร ถวายอาหารเพล โดยเลือกอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ครบ 5 หมู่ และมีความหลากหลาย เน้นอาหารที่เป็นเมนูชูสุขภาพ ลดหวาน มัน เค็ม โดยเลือกใช้ข้าว/แป้งที่ผ่านการขัดสีน้อย เช่น ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ ขนมปังโฮลวีต อาหารประเภทปลา เต้าหู้ ไข่ เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน และถั่วเมล็ดแห้งต่าง ๆ รวมทั้งเลี่ยงเมนูอาหารกะทิและอาหารทอด โดยเปลี่ยนเป็นอาหารประเภทต้ม นึ่ง ยำ อบ ลวก น้ำพริก ลดอาหารหวานจัดและอาหารหมักดอง รวมถึงตักบาตรด้วยผักผลไม้หลากหลายชนิดและสี ตามฤดูกาล นมจืด นมพร่องมันเนย โยเกิร์ตรสธรรมชาติ น้ำเปล่า และน้ำปานะหวานน้อย
“พระภิกษุสามเณรไม่สามารถเลือกสิ่งของที่จะนำมาตักบาตรถวายได้ จึงควรพิจารณาของที่ถวายให้เหมาะสมแก่พระภิกษุสามเณรด้วย การนำอาหารที่มีแป้ง น้ำตาล ไขมัน และกะทิที่ให้พลังงานสูงทำบุญตักบาตร จะส่งผลให้เกิดการสะสมไขมันส่วนเกิน เพิ่มความเสี่ยงต่อสุขภาพพระสงฆ์”
อธิบดีกรมอนามัยแนะอีกว่า กรณีถวายอาหารแห้ง อาหารกระป๋อง ควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีเครื่องหมาย อย. สถานที่ผลิต วันเดือนปีที่ผลิต และวันเดือนปีที่หมดอายุ ลักษณะของกระป๋องต้องไม่บวม-ไม่บุบ ตะเข็บกระป๋องต้องไม่มีรอยรั่วและไม่เป็นสนิม หรือเลือกซื้ออาหาร เครื่องดื่มที่มีสัญลักษณ์ทางเลือกสุขภาพ (Healthier Choice)