ตัดสินประหารชีวิต ‘บรรยิน’ แต่ให้การเป็นประโยชน์เหลือคุกตลอดชีวิต

breaking-news-cover

ศาลพิพากษา ประหารชีวิต พ.ต.ท.บรรยิน คดี อุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษา แต่ให้การเป็นประโยชน์เหลือจำคุกตลอดชีวิต

วันที่ 15 ธันวาคม 2563 ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและพฤติมิชอบกลาง ถนนนครไชยศรี เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้เบิกตัว พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และ อดีต ส.ส.นครสวรรค์ พรรคเพื่อไทยหลายสมัยจำเลย ในคดีอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษาอาวุโส ศาลอาญากรุงเทพใต้ จากเรือนจำบางขวางมายังศาล เพื่อฟังคำพิพากษา ในคดีหมายเลขดำ อท.69/2563

คดีนี้ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อายุ 56 ปี กับพวก ได้แก่ นายมานัส ทับทิม อายุ 67 ปี, นายณรงค์ศักดิ์ ป้อมจันทร์ อายุ 48 ปี, นายชาติชาย เมณฑ์กูล อายุ 31 ปี, นายประชาวิทย์ หรือ ตูน ศรีทองสุข อายุ 33 ปี และ ด.ต.ธงชัย หรือ สจ.อ๊อด วจีสัจจะ อายุ 63 ปี ทั้งหมดภูมิลำเนา จ.นครสวรรค์ เป็นจำเลยที่ 1-6 ก่อเหตุอุ้มฆ่า อำพรางศพ นายวีรชัย ศกุนตะประเสริฐ พี่ชาย น.ส.พนิดา ศกุนตะประเสริฐ ผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้

ซึ่ง น.ส.พนิดา เป็นผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนที่ พ.ต.ท.บรรยิณ เป็นจำเลยคดีโอนหุ้น จาก นายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง หรือ “เสี่ยจืด” นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง เพื่อบีบบังคับให้ผู้พิพากษาเอนเอียงเข้าข้างตน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2563

โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในตอนนั้น ส่งกำลังตำรวจกองปราบปราม ไปจับกุมตัว พ.ต.ท.บรรยิน ได้ เมื่อ 23 กุมภาพันธ์ 2563 หลังหลักฐานปรากฏชัดว่า เกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของพี่ชายผู้พิพากษา โดยมีภาพวงจรปิด ข้อมูลเยี่ยมโยงจุดฆ่า เผาอำพรางศพ

คดีนี้อัยการสั่งฟ้อง ในความผิดหลายข้อหา ทั้งฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนเพื่อปกปิดความผิดอื่นของตนหรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้ ตามประมวลกฎหมายอาญา (ป.อ.) มาตรา 289

ฐานร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้ใดเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่ เป็นเหตุให้ผู้ถูกเอาตัวไปถึงแก่ความตาย มาตรา 309, 313, ฐานร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย มาตรา 310

ฐานร่วมกันข่มขืนใจเจ้าพนักงานให้ปฏิบัติการอันมิชอบด้วยหน้าที่โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยร่วมกันกระทำผิดตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป มาตรา 139, 140, ฐานเป็นซ่องโจร โดยสมคบกันเพื่อกระทำผิดที่มีระวางโทษประหารชีวิต มาตรา 210, ฐานร่วมกันพยายามข่มขืนใจผู้อื่น ให้กระทำการใดโดยร่วมกันกระทำผิดตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป มาตรา 213

ฐานร่วมกันซ่อนเร้น ทำลายศพเพื่อปิดบังการตายและสาเหตุการตาย มาตรา 199 และ ฐานร่วมกันกระทำการใด ๆ แก่ศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้นเพื่ออำพรางคดี

ศาลอาญาคดีทุจริตและพฤติมิชอบกลาง ได้ไต่สวนพยานทั้งฝ่ายโจทก์และจำเลยแล้วเสร็จ จึงได้นัดฟังคำพิพากษาคดี

ต่อมา ศาลพิพากษา ประหารชีวิต พ.ต.ท.บรรยิน อุ้มฆ่า พี่ชายผู้พิพากษา 5 คน แต่ให้การเป็นประโยชน์เหลือจำคุกตลอดชีวิต เว้นจำเลยคนที่ 2 จำคุก 33 ปี 4 เดือน