หลากแง่มุมของ “เนเธอร์แลนด์” ปลายทางในฝันของ “เดียร์ลอง”

ภาพจาก pixabay.com

ทำความรู้จัก “เนเธอร์แลนด์” ในหลากหลายแง่มุม แล้วจะเข้าใจว่าทำไมประเทศที่คนมักสับสนเรื่องชื่อแห่งนี้ จึงเป็นปลายทางในฝันของใครหลายคน

วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2565 กรณี “เดียร์ลอง” หรือ “อาริศา หอมกรุ่น” ยูทูบเบอร์ สตรีมเมอร์ และ Sex Creator ใน OnlyFans ที่ถูกละเมิดลิขสิทธิ์และนำคลิปมาเผยแพร่ ส่งผลให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหลากหลายในสังคม ตกเป็นข่าวดังเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา

“เบลล์ ขอบสนาม” ยูทูบเบอร์สายกีฬา โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กว่า เดียร์ลองได้ย้ายถิ่นฐานไปใช้ชีวิตที่เนเธอร์แลนด์ พร้อมเปลี่ยนชื่อเสียงเรียงนามใหม่หมด เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่นั่น

แต่ล่าสุดเจ้าตัวได้ออกมาชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กว่า ณ ตอนนี้ยังไม่ได้ย้ายอย่างเป็นทางการ แต่แค่เดินทางมาเที่ยว แต่ยืนยันว่า ในอนาคตมีแผนที่จะมาอยู่แบบถาวร ซึ่งตอนนี้อยู่ในขั้นตอนเริ่มต้น ทั้งเรื่องภาษาและขอทุนเรียน

การย้ายถิ่นฐานไปยังต่างประเทศ ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับสังคมไทย แต่ทำไมต้องเป็นเนเธอร์แลนด์ ?

“ประชาชาติธุรกิจ” ขอรวบรวมเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับประเทศนี้มาฝากกัน

เนเธอร์แลนด์ หรือ ฮอลแลนด์ ?

ข้อมูลจากกระทรวงการต่างประเทศระบุว่า เนเธอร์แลนด์ (the Netherlands) หรือที่มักเรียกกันว่า ฮอลแลนด์ (Holland) มีชื่ออย่างเป็นทางการคือ ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ (Kingdom of the Netherlands) มีรากศัพท์มาจากคำว่า Neder หรือ ต่ำ เนื่องจากภูมิประเทศส่วนใหญ่ของเนเธอร์แลนด์เป็นที่ราบลุ่ม และพื้นที่ประมาณหนึ่งในสี่ของประเทศต่ำกว่าระดับน้ำทะเล

เนเธอร์แลนด์ได้ปรับพื้นที่โดยการสูบน้ำออกจากทะเลสาบและทางน้ำต่าง ๆ เพื่อให้ใช้ประโยชน์ได้ เนเธอร์แลนด์จึงมีเขื่อน ทางระบายน้ำ และสถานีสูบน้ำจำนวนมาก เพื่อป้องกันไม่ให้พื้นที่ประมาณครึ่งหนึ่งของประเทศประสบภาวะอุทกภัย เนเธอร์แลนด์จึงมีสิ่งก่อสร้างด้านวิศวกรรมการจัดการน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก

เนเธอร์แลนด์เป็นประเทศยุโรปตะวันตกขนาดเล็ก เป็นประเทศหนึ่งที่มีประชากรหนาแน่นมากที่สุดในโลก ประชากรเกือบครึ่งหนึ่งอาศัยอยู่ในสี่เมืองทางภาคตะวันตกของประเทศ คือ อัมสเตอร์ดัม เฮก รอตเตอร์ดัม และอูเทรค บริเวณนี้เรียกว่า แลนด์สตัด มีชาวต่างชาติโยกย้ายเข้าไปตั้งถิ่นฐานในเนเธอร์แลนด์ประมาณ 3 ล้านคน

ส่วนใหญ่มาจากประเทศในยุโรป ตุรกี โมร็อกโก เนเธอร์แลนด์แอนไทลิส และอารูบา (ดินแดนโพ้นทะเลของเนเธอร์แลนด์) อินโดนีเซีย และซูรินาเม (ประเทศอดีตอาณานิคมของเนเธอร์แลนด์)

กรุงอัมสเตอร์ดัมเป็นเมืองหลวงของเนเธอร์แลนด์ ขณะที่กรุงเฮกเป็นที่ตั้งของหน่วยงานราชการ สถานทูตต่างประเทศ และองค์การระหว่างประเทศ รวมทั้งพระราชวังซึ่งเป็นที่ประทับของสมเด็จพระราชินีนาถแห่งเนเธอร์แลนด์

กรุงเฮกถือได้ว่าเป็นเมืองหลวงแห่งกฎหมายและยุติธรรมระหว่างประเทศของโลก โดยเป็นศูนย์กลางของการศึกษาด้านกฎหมายระหว่างประเทศ และเป็นสถานที่ที่ตั้งขององค์การด้านกฎหมายและยุติธรรมระหว่างประเทศ

การเมืองการปกครอง

เนเธอร์แลนด์ปกครองในระบอบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ มีสมเด็จพระราชาธิบดีวิลเลิม-อเล็กซานเดอร์แห่งเนเธอร์แลนด์ พระมหากษัตริย์แห่งเนเธอร์แลนด์ทรงเป็นประมุขของประเทศและทรงอยู่เหนือการเมือง ขณะที่การบริหารประเทศเป็นหน้าที่รับผิดชอบของฝ่ายรัฐบาลและคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันคือ มาร์ก รุตเตอ ซึ่งดำรงตำแหน่งมาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2553

ประเทศแห่งเสรีทางความคิด

เนเธอร์แลนด์เป็นประเทศที่เปิดเสรีทางความคิดมาช้านาน ทั้งในเรื่องศาสนา เสรีกัญชาเพื่อความบันเทิง การค้าประเวณี สิทธิเพศทางเลือก การุณยฆาต และการทำแท้ง

ผู้นำเนเธอร์แลนด์ชี้กษัตริย์แต่งเพศเดียวกันได้

เมื่อปลายปี 2564 “มาร์ก รุตเตอ” นายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์เพิ่งประกาศว่า สมาชิกราชวงศ์ของเนเธอร์แลนด์ ทั้งกษัตริย์หรือราชินี สามารถสมรสบุคคลเพศเดียวกันได้ โดยไม่เสียสิทธิ์ในราชบัลลังก์

“คณะรัฐมนตรีไม่เห็นว่าองค์รัชทายาทหรือกษัตริย์จะต้องสละราชสมบัติ หากพระองค์มีพระราชประสงค์จะอภิเษกสมรสกับคู่รักเพศเดียวกัน” ผู้นำเนเธอร์แลนด์ตอบคำถามจากสมาชิกพรรคในรัฐสภา

Mark Rutte นายกรัฐมนตรีของเนเธอร์แลนด์ ภาพจาก วิกิพีเดีย

ความทันสมัยเรื่องเพศศึกษา

หากจะหาคำตอบถึงความคิดเกี่ยวกับเรื่องเพศของชาวเนเธอร์แลนด์ บทความ The complete and unadulterated guide to sex in the Netherlands (คู่มือที่สมบูรณ์และบริสุทธิ์สำหรับการมีเพศสัมพันธ์ในเนเธอร์แลนด์) เผยแพร่ทางเว็บไซต์ DUCTHREVIEW น่าจะให้คำตอบได้

โดยบทความระบุตอนหนึ่งว่า ในเนเธอร์แลนด์บรรจุวิชาเพศศึกษาให้ประชาชนได้เรียนรู้ตั้งแต่อายุเพียง 4 ปี ซึ่งชาวดัดซ์เชื่อว่า เรื่องเพศสัมพันธ์ เป็นหนึ่งในองค์ประกอบตามธรรมชาติของมนุษย์ เด็กจะได้รับการสอนการเคารพสิทธิในคู่ของตน และแง่มุมอื่น ๆ เกี่ยวกับชีวิตทางเพศเพิ่มเติม

และเมื่อเติบโตขึ้น บทเรียนที่จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับเพศก็จะหลากหลายมากขึ้น ตั้งแต่เรื่องอัตลักษณ์ทางเพศ, การยอมรับความรู้สึกของตน, วิธีการเลือกเพศของตัวเอง, การไม่ยอมแพ้ต่อความคาดหวังของสังคมหรือแรงกดดันจากคนรอบข้าง, การตอบรับและยินยอมในการมีเพศสัมพันธ์ หรือแม้แต่การมีเพศสัมพันธ์ทางปาก (Oral Sex) และการช่วยตัวเอง ก็มีในบทเรียนด้วย ซึ่งการวางรากฐานการศึกษาเพศศึกษาแบบนี้ทำให้เนเธอร์แลนด์เป็นประเทศที่มีวัยรุ่นตั้งท้องในวัยเรียนต่ำมาก

นอกจากนั้น ถุงยางอนามัยสามารถเข้าถึงได้ง่ายในร้านค้าและตู้ขายของอัตโนมัติในโรงเรียน รวมถึงยาคุมกำเนิดที่ให้ฟรีสำหรับผู้หญิงที่มีอายุต่ำกว่า 21 ปีทุกคน

ภาพจาก pixabay.com

บทความกล่าวต่อไปอีกว่า การศึกษาเกี่ยวกับกิจกรรมทางเพศในปี 2555 พบว่า ประชากรส่วนใหญ่ของประเทศมีประสบการณ์ทางเพศครั้งแรกในช่วงอายุ 19-24 ปี โดยผู้ชายมีสัดส่วน 70% ของประชากรที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกในช่วงวัยนี้ และผู้หญิงมีสัดส่วน 77% ของประชากรที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกในช่วงวัยดังกล่าว

นอกจากนี้ ผลการศึกษายังลงลึกด้วยว่า วัยรุ่นชาวดัดซ์อายุ 14 ปี กว่า 50% มีประสบการณ์ในการจูบแบบฝรั่งเศสแล้ว พออายุ 16 ปี ก็เริ่มช่วยตัวเอง ก่อนที่จะมีประสบการณ์ทำออรัลเซ็กซ์ในวัย 17 ปี

และมีงานวิจัยอีกชิ้นหนึ่งระบุว่า กว่า 63% ของผลสำรวจมีความมั่นใจในการยืนยันความต้องการและความปรารถนาของตนบนเตียง และเปิดกว้างต่อการสนทนาเรื่องเพศ

การค้าประเวณี

สำหรับการค้าบริการทางเพศ ซึ่งเนเธอร์แลนด์มีสถานที่ที่เป็นที่พูดถึงอย่างมากนั่นคือ “Red Light District Amsterdam” ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงอัมสเตอร์ดัม ในบทความข้างต้นระบุว่า โครงสร้างทางกฎหมายเกี่ยวกับการค้าประเวณีในเนเธอร์แลนด์ได้รับการพัฒนามาอย่างดี โดยผู้ให้บริการทางเพศจะได้ประโยชน์จากการคุ้มครองทางกฎหมาย และสิทธิของคนงานเหมือนกับพนักงานทั่วไป ซึ่งตามบทความที่เผยแพร่เมื่อปี 2564 ระบุว่าน่าจะมีโสเภณีทำงานในย่านนี้ราว ๆ 20,000-35,000 คน และกว่า 60% เป็นชาวต่างชาติด้วย

และในสถานที่เหล่านี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำ มีจุดจอดรถส่วนตัว และคลินิกสุขภาพทางเพศที่จัดเตรียมไว้สำหรับคนงานเหล่านี้ ซึ่งผู้ที่จะมาขายบริการทางเพศตามกฎหมายต้องมีอายุ 21 ปีบริบูรณ์ก่อน

ย่าน Red Light District ในกรุงอัมสเตอร์ดัม ภาพจาก pixabay.com