เทพเรือใบ

Kevin De Bruyne - Erling Haaland (Photo by Oli SCARFF / AFP)
คอลัมน์ : คุยกับเอกราช
ผู้เขียน : เอกราช เก่งทุกทาง

ไม่มีอะไรต้องสงสัยอีกต่อไป แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คือเบอร์ 1 ของพรีเมียร์ลีก และปีนี้ถ้าได้ 3 แชมป์ ก็ไม่แปลก !

ซิตี้เพิ่งถล่มอาร์เซน่อล 4-1 จ่อขึ้นแท่นแชมป์พรีเมียร์ลีก สมัยที่ 9 บอลถ้วย เอฟ เอ คัพ เข้าชิงกับคู่ปรับแมนฯยูไนเต็ด ส่วนแชมเปี้ยนส์ ลีก รอเจอเรอัล มาดริด ในรอบรองชนะเลิศ ถ้าผ่านได้ก็แทบจะจองวันแห่ถ้วยล่วงหน้า

เรือใบสีฟ้าปีนี้ คือชุดที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร เควิน เด บรอยน์ กับเออร์ลิ่ง ฮาลันด์ คือตำนานที่แฟนบอลจะพูดถึงไปตลอดชีวิต

ส่วน เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ก็เป็นกุนซืออัจฉริยะ เก่งที่สุดในโลกตอนนี้

ความปราดเปรื่องของเป๊ปเห็นได้ในเกมใหญ่ระดับบิ๊กแมตช์ ถ้าต้องชี้เป็นชี้ตาย กุนซือแมนฯซิตี้อ่านขาด มีทีเด็ดเสมอในการจัดตัว-วางแท็กติก

ล่าสุดที่ถล่มอาร์เซน่อล เป๊ปโยกตำแหน่ง มานูเอล อคันจี จากกองหลังตัวกลางไปเล่นแบ็กซ้าย เพื่อหยุด บูคาโย่ ซาก้า ปีกขวาอันตรายของปืนใหญ่

หมากนี้ไม่มีใครคาดคิด เพราะอคันจีไม่เคยเป็นแบ็กซ้ายให้ซิตี้ในระบบกองหลัง 4 ตัว แต่ผลก็คือ เขาประกบซาก้าจนเล่นไม่ออก จากตัวจี๊ดแทบจะกลายเป็นตัวประกอบในสนาม

อีกอย่างที่เป็นหมัดเด็ดน็อกไอ้ปืนใหญ่ คือ บทบาทของเออร์ลิ่ง ฮาลันด์ กับเควิน เด บรอยน์

ฮาลันด์เคลื่อนที่เยอะ ไม่ใช่หัวหอกตัวทำประตูอย่างเดียว แต่ถูกสั่งให้ถอยลงต่ำ เป็นตัวหลอกจ่ายบอลให้ เด บรอยน์ วิ่งสอดทะลุตรง ๆ จากแถวสองเข้าไปยิง

เด บรอยน์ ปกติเน้นเปิดบอลให้เพื่อนเป็นหลัก อยู่กลางบ้าง โยกไปริมเส้นบ้าง ไม่ค่อยมีใครเห็นเขาวิ่งทะลวงตรงกลาง ฉีกกองหลังคู่แข่งแบบนี้

เป็นเซอร์ไพรส์ที่เกิดจากความละเอียดของกุนซือเป๊ปอย่างแท้จริง

แมนฯซิตี้ยังตามจ่าฝูงอาร์เซน่อล 2 แต้ม แต่แข่งน้อยกว่า 2 นัด ในความเป็นจริง ทุกคนรู้แก่ใจว่า แชมป์อยู่ในมือซิตี้แล้ว เหลือแค่คว้ามากอด ชูให้โลกรู้อย่างเป็นทางการเท่านั้นเอง

ถ้าเป็นทีมอื่นอาจยังวางใจไม่ได้ แต่นั่นไม่ใช่เรือใบสีฟ้าซึ่งมีความแน่นอนสูง ผ่านดีร้ายมาหมดทุกเรื่อง นักเตะเขี้ยวลากรู้ว่าต้องทำยังไงเพื่อพาทีมเข้าเส้นชัย

แมนฯซิตี้เหลือเตะอีก 7 นัดในลีก ไปเยือนฟูแล่ม, เจอเวสต์แฮม, เจอลีดส์, เยือนเอฟเวอร์ตัน, เจอเชลซี, เยือนไบรท์ตัน และเยือนเบรนท์ฟอร์ด

ขณะที่อาร์เซน่อลเหลือแค่ 5 นัด เจอเชลซี, เยือนนิวคาสเซิ่ล, เจอไบรท์ตัน, เยือนฟอเรสต์ และเจอวูล์ฟส์ ปิดท้าย

ผมไม่คิดว่าเพชฌฆาตระดับแมนฯซิตี้จะแพ้อีกแล้ว ลองคิดคะแนนเล่น ๆ เปรียบเทียบกัน ซิตี้อาจจะจบที่ 92 แต้ม ส่วนอาร์เซน่อลมีสิทธิวูบต่อเนื่อง สุดท้ายอาจมีแค่ 80 คะแนน

แชมป์พรีเมียร์ลีกไม่ใช่ปัญหา เอฟ เอ คัพ นัดชิงก็ดูดีกว่าแมนฯ ยูฯ ความท้าทายของทีมตราเรือใบ อยู่ที่แชมเปี้ยนส์ ลีก มากกว่า

การดวลกับเรอัล มาดริด 2 นัด คือการพบกันของสองทีมที่ดีที่สุดในยุโรป

โอกาสของซิตี้ 50-50 แต่ถ้าผ่านได้ก็เป็นเทพ !

แมนฯซิตี้อยู่ใกล้จุดนั้นนิดเดียว