จำกัดระยะทางของลูกกอล์ฟ

Photo by Ryan LIM / AFP
คอลัมน์ : ขึ้นแท่นปักที
ผู้เขียน : พิศณุ นิลกลัด
FB:@Pitsanuofficial

อาร์ แอนด์ เอ และสมาคมกอล์ฟแห่งสหรัฐ (ยูเอสจีเอ) ซึ่งเป็นองค์กรควบคุมกฎกอล์ฟทั่วโลกประกาศแผนการใช้กฎกติกาใหม่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยกำหนดระยะในการเดินทางของลูกกอล์ฟไว้ที่ไม่เกิน 320 หลา

สององค์กรนี้เตรียมจะใช้กติกาใหม่ในปี 2026 ตอนนี้อยู่ในระหว่างการรับฟังความคิดเห็นของผู้เกี่ยวข้อง ก่อนจะประกาศใช้อย่างเป็นทางการ

กฎนี้ระบุว่าในการทดสอบในห้องทดลองลูกกอล์ฟที่ตีด้วยวงสะวิงที่มีความเร็ว 127 ไมล์ต่อชั่วโมง

ต้องไปได้ไม่ไกลกว่า 320 หลา

คาดว่านักกอล์ฟที่อยู่ในกลุ่มคนตีไกลจะตีได้สั้นลง 14-15 หลา เมื่อใช้ลูกกอล์ฟที่ถูกจำกัดสมรรถนะ

กติกานี้จะใช้ในการแข่งขันกอล์ฟอาชีพและกอล์ฟสมัครเล่นระดับสูง โดยที่นักกอล์ฟสมัครเล่นทั่วไป หรือคนที่เล่นกอล์ฟเพื่อความสนุกสนาน ไม่ได้รับผลกระทบ

อาร์ แอนด์ เอและยูเอสจีเอบอกว่า ถ้าปล่อยให้นักกอล์ฟตีไกลขึ้นเรื่อย ๆ จะเป็นปัญหาของคนรุ่นต่อไป ดังนั้น พวกเขาจึงต้องจัดการเรื่องนี้ตั้งแต่บัดนี้

สองหน่วยงานนี้บอกว่านี่จะทำให้กีฬากอล์ฟดีขึ้น และลดความกดดันของเจ้าของสนามกอล์ฟในการเพิ่มความยาวเพื่อสู้กับนักกอล์ฟที่ตีไกล

นักกอล์ฟชื่อดังหลายคน รวมทั้งแชมป์เมเจอร์อย่าง จัสติน โธมัส, ไบรสัน ดีแชมโบ และ บับบ้า วัตสัน ไม่เห็นด้วยกับมาตรการนี้ วิจารณ์อาร์ แอนด์ เอกับยูเอสจีเออย่างแรง

โธมัสบอกว่านี่เป็นมาตรการที่แย่มาก อาร์ แอนด์ เอกับยูเอสจีเอได้คิดค้นวิธีแก้ไขเรื่องที่ไม่ใช่ปัญหา

เขาบอกว่าใครก็ตามที่สามารถสะวิงไม้กอล์ฟด้วยความเร็ว 127 ไมล์ต่อชั่วโมง เราก็ต้องยอมรับในพลังของพวกเขา

สถิติของพีจีเอ ทัวร์ในฤดูกาลนี้ระบุว่า มีเพียง รอรี่ แม็คอิลรอย (326.6 หลา) กับแบรนดอน แมทธิวส์ (320.4) เท่านั้น ที่ตีไกลเฉลี่ยเกิน 320 หลา

ดีแชมโบซึ่งเป็นหนึ่งในนักกอล์ฟที่ตีไกลมากบอกว่า ข้อเสนอเกี่ยวกับกฎใหม่เป็นสิ่งที่เลวร้ายสำหรับวงการกอล์ฟ

ดีแชมโบซึ่งพยายามเพิ่มระยะการตีด้วยการเพิ่มกล้ามเนื้อบอกว่า นักกอล์ฟทำงานอย่างหนักเพื่อเพิ่มระยะ และคนดูอยากเห็นนักกอล์ฟตีได้ไกล

เขาบอกว่าผู้มีอำนาจควรทำให้สนามยากขึ้น มากกว่าจะมาจำกัดสมรรถนะของลูกกอล์ฟ

บับบ้า วัตสัน บอกว่า นักกอล์ฟที่ตีไกล ไม่ได้หมายความว่าตีแม่น นักกอล์ฟที่ตีไกลก็ต้องเสี่ยงที่จะพลาดแฟร์เวย์ และเป้าหมาย มากกว่านักกอล์ฟที่ตีไม่ไกล

ขณะเดียวกัน พีจีเอ ทัวร์และพีจีเอ ออฟ อเมริกา ยังไม่ได้บอกว่าจะยอมรับกติกานี้หรือไม่

ถ้าสององค์กรนี้ไม่เอาด้วย วงการกอล์ฟคงจะยุ่งเหยิง เพราะนักกอล์ฟต้องมีลูกกอล์ฟไว้แข่ง 2 ชุด


ชุดหนึ่ง สำหรับการแข่งขันของอาร์ แอนด์ เอและยูเอสจีเอ (ซึ่งรวมถึงบริทิช โอเพ่น และยูเอสโอเพ่น) และอีกชุดหนึ่งสำหรับการแข่งขันของพีจีเอ ทัวร์ ซึ่งเป็นทัวร์ใหญ่ที่สุดในโลก และรายการพีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ ซึ่งพีจีเอ ออฟ อเมริกา เป็นผู้จัด