เปิดบิ๊กคอนเนคชั่น FTX- เดโมเครต-ประธาน ก.ล.ต.สหรัฐฯ

แซม แบงก์แมน-ฟรายด์ FTX
แซม แบงก์แมน-ฟรายด์ อดีตซีอีโอกระดานเทรดคริปโตฯ FTX (Photo by SAUL LOEB / AFP)

ชุมชนคริปโตฯ ชี้ FTX-Alamenda Research สัมพันธ์ปึ๊ก บิ๊กเนมพรรคเดโมเครต – ก.ล.ต. สหรัฐฯ สื่อนอก เผย อาจหวังฮุบตลาดสหรัฐฯ ด้วยสายสัมพันธ์ทางการเมือง

วันที่ 16 พฤศจิกายน 2565 ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า ชุมชนคริปโตเคอร์เรนซีตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นของ นายแซม แบงก์แมน-ฟรายด์ อดีตซีอีโอกระดานเทรดคริปโตฯ FTX และ นางสาวแคโรไลน์ แอลิสัน ซีอีโอ Alamenda Research บริษัทลูกของ FTX

จากกรณีการยื่นล้มละลาย FTX ก่อนหน้านี้ FTX มีเงินอยู่ 1.6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นเงินของลูกค้า ต่อมามีการโอนเงิน 1หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ไปยัง Alamenda Research บริษัทลูกของ FTX ก่อนที่จะมีการยื่นล้มละลาย และเงินที่เหลืออยู่ในนั้น ถูกอ้างว่าโดนแฮ็ก แล้วโอนออกจาก Cold Wallet ส่งผลให้มีการพิจารณาความสัมพันธ์ของ 2 บริษัทและ 2 ผู้บริหาร

ก่อนที่นายแซม จะก่อตั้ง FTX เขาเป็นเป็นนักเทรดหุ้นที่ เจนสตรีท ในนครนิวยอร์ก ต่อมาสบช่องการเทรดบิตคอยน์ เนื่องจากเห็นว่ากระดานเทรดทั่วโลกมีราคาบิตคอยน์ไม่เท่ากัน หากซื้อขายข้ามตลาด (Arbitrage) ได้จะทำเงินได้อย่างดี

ต่อมาเขาก่อตั้ง Alamenda Research เพื่อทำการซื้อขายคริปโตฯ แบบ Arbitrage และ Quantitative Trading และดึงตัวนางสาวแคโรไลน์ เข้ามาเป็นผู้บริหาร Alamenda Research

นายแซม แบงก์แมน-ฟรายด์ เป็นบุคคลสำคัญในการบริจาคเงินในแคมเปญหาเสียงมิดเทอมของ โจ ไบเดน ในนามพรรคเดโมเครต ในรอบที่ผ่านมา ด้วยเงินบริจาคสูงถึง 39 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีการคาดการณ์ว่าเขากำลังพิจารณาสนับสนุนพรรคเดโมเครตสูงถึง 100 ล้านเหรียญสหรัฐ ในการเลือกตั้งรอบหน้า

Furtune เปิดเผยว่า แหล่งข่าวในวอชิงตัน กล่าวถึงความสัมพันธ์ของ นายแซม กับ นายแกรี่ เกนสเลอร์ ประธาน ก.ล.ต. สหรัฐ ที่เอื้อให้เกิดการขยายอาณาจักร FTX

โดย Furtune รายงานว่า นายเกนสเลอร์ เป็นอดีตประธานฝ่ายการเงินในแคมเปญหาเสียงของ “นางฮิลลารี คลินตัน” และในขณะที่พ่อแม่ของนายแซม ที่ปัจจุบันเป็นศาสตราจารย์ด้านกฎหมายของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด และทั้งสองมีสายสัมพันธ์กับพรรคเดโมเครต

โดย นางบาบาร่า ฟรายด์ แม่ของแซมเป็นผู้นำกลุ่มที่ชื่อว่า Mind the Gap ซึ่งช่วยระดมเงินใน Silicon Valley สำหรับพรรคเดโมแครต ในขณะที่ โจเซฟ แบงก์แมน พ่อของเขา เป็นมือกฎหมายที่ช่วยร่างกฎหมายภาษี

ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ผู้คนจะคิดว่า นายแซม พยายามใช้ประโยชน์จากความสัมพันธ์ทางการเมืองเหล่านี้เพื่อประโยชน์ของเขา

ส่วน แคโรไลน์ เอลิสัน พ่อของเธอเป็นอดีตหัวหน้างานของ นายแกรี่ เกลนสเลอร์ สมัยที่เป็นอาจารย์สอนเศรษฐศาสตร์ที่ MIT

Fortune กล่าวถึง การที่นายแซม พยายามเข้าควบคุมกิจการ BlockFi ธนาคารสินทรัพย์ดิจิทัล ทำให้ FTX ได้รับประโยชน์จากบริการใหม่ ๆ นี้  ซึ่งบริการกู้ยืมคริปโตฯ เคยมีปัญหากับ ก.ล.ต. สหรัฐฯ นอกจากนี้การที่ FTX เข้าเกี่ยวข้องกับกิจการแลกเปลี่ยนหลักทรัพย์ IEX จะช่วยให้อาณาจักรของ นายแซม อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสหรัฐฯ

ทั้งหมดนี้จะทำให้ FTX ครอบครองตลาดสหรัฐฯ เนื่องจากบริษัทได้โน้มน้าวให้มีการออกกฎหมายที่อาจกีดกันคู่แข่งอย่าง Binance รวมถึงแพลตฟอร์ม DeFi ที่เกิดขึ้นใหม่

ข้อเขียนดังกล่าวของ Fortune ระบุด้วยว่าไม่ได้เจตนาที่จะเชื่อมโยงให้เห็นว่าความสัมพันธ์กับพรรคเดโมเครตและการส่งผลต่อกฎหมายที่เกี่ยวกับคริปโตฯ ในสหรัฐ เพราะนั่นเป็นทฤษฎีสมคบคิดที่โหดร้าย แต่ต้องการจะชี้ให้เห็นว่าทำไมประธาน ก.ล.ต. สหรัฐฯ จึงล้มเหลวในการหยุดยั้งอาชญากรรมทางการเงินนี้

ทั้งที่เรื่องดังกล่าวเกิดใต้จมูกเขา และเขามีส่วนส่งเสริมให้ นายแซม กลายเป็นราชาของตลาดคริปโตสหรัฐ ดังนั้นในช่วงที่ ประธาน ก.ล.ต. สหรัฐฯ กำลังต้องการอำนาจมากขึ้น เพื่อจัดการกับวิกฤตคริปโตล่าสุด จึงเป็นช่วงเวลาที่ดีสำหรับผู้คลางแคลงที่จะถามว่า ทำไมเขาถึงล้มเหลวในการหยุด FTX ในตอนแรก