ไม่สนเมตาเวิร์ส? Meta เปิด LLaMa ลุยศึกเอไอ ชน ChatGPT-Bard

meta ปลดพนักงาน

Meta ร่วมศึกเอไอบิ๊กเทค ท้าชน Microsoft-ChatGPT และ Google Bard ประกาศส่งเสริมและพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ตัวใหม่ LLaMa

วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2566 เมตา แพลตฟอร์ม อิงก์. (Meta) บริษัทแม่ของเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม ได้ประกาศว่าจะมีการปล่อยปัญญาประดิษฐ์ตัวใหม่ ที่ใช้โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Model) คล้ายกับ ChatGPT และ Bard ที่ทยอยเปิดตัวเเข่งขันกันมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว รวมถึง Baidu จากจีนที่ประกาศทำเอไอประเภทนี้ของตัวเอง Meta จึงเป็นบริษัท “บิ๊กเทค” อีกแห่งที่เข้าสู่สงครามการแข่งขันด้านเอไอยุคใหม่

ก่อนหน้านี้ Facebook ทุ่มเงินหลายพันล้านเหรียญสหรัฐ พร้อมเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Meta เพื่อมุ่งมั่นพัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับ Metaverse แต่ปีที่ผ่านมาการเปิดตัว ChatGPT ทำให้ภูมิทัศน์การแข่งขันทางเทคโนโลยีดิจิทัลเปลี่ยนไปสู่ยุคใหม่ของปัญญาประดิษฐ์ที่ฉลาดขึ้นและโต้ตอบได้ใกล้เคียงมนุษย์มากขึ้น อาจเรียกว่า เอไอเชิงกำเนิด หรือ Generative A.I. 

ท่ามกลางกระแสที่แผ่วลงของ Metaverse และการเติบโตก้าวกระโดดของเอไอ ทำให้ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นายทอม เอลิสัน รองประธานของ Meta และหัวหน้าส่วนงาน Facebook ได้เปิดเผยกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ในปี 2566 นี้ Meta จะโฟกัสการพัฒนาเอไอที่ช่วยโต้ตอบผู้ใช้ได้ดียิ่งขึ้น จากฐานข้อมูลมหาศาลทั้งคอนเทนต์ข้อความ รูปภาพ และวิดีโอ ที่ถูกโพสต์ขึ้นบนแพลตฟอร์มของ Meta ไม่ว่าจะเป็น เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม และอื่น ๆ 

ล่าสุด Meta ได้ประกาศผ่านเว็บบล็อกของตนว่าจะเปิดโครงการ LLaMA ซึ่งเป็นการวิจัยพัฒนาเอไอต้นแบบจากโมเดลภาษาขนาดใหญ่ โดยจะให้บริการภายใต้ใบอนุญาตที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์ สำหรับนักวิจัยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล ภาคประชาสังคม และสถาบันการศึกษา

บริษัทจะจัดเตรียมรหัสพื้นฐานสำหรับผู้ใช้เพื่อปรับแต่งโมเดลและใช้สำหรับกรณีการใช้งานที่เกี่ยวข้องกับการวิจัย เพื่อฝึกฝนเอไอ 20 ภาษา โดยเน้นที่ภาษาละตินและอักษรซีริลลิก

รอยเตอร์ส รายงานว่า นายกิล ลอเรีย นักวิเคราะห์ซอฟต์แวร์อาวุโสของ D.A. Davidson กล่าวว่า Generative AI เป็นแอปพลิเคชั่นใหม่ของ AI ที่ Meta มีประสบการณ์น้อยกว่าบริษัทอื่น ๆ แต่มีความสำคัญอย่างชัดเจนต่ออนาคตของธุรกิจของพวกเขา

AI กลายเป็นสิ่งที่น่าจับตามอง สำหรับการลงทุนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ที่นำไปสู่การเลิกจ้างอย่างกว้างขวางในหมู่ “บิ๊กเทค” ทั้ง Microsoft Corp, Baidu และ Google  ที่ต่างหันมาทุ่มกำลังทรัพยากรเพื่อพัฒนาเครื่องมือภาษา สำหรับ AI ขั้นสูงของตน เข้ากับผลิตภัณฑ์จำนวนมาก 

รอยเตอร์ส รายงานด้วยว่า โฆษกของ Meta กล่าวว่า LLaMA สามารถทำได้ดีกว่าคู่แข่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง LLaMA เวอร์ชั่นที่มีพารามิเตอร์ 13 พันล้านพารามิเตอร์ สามารถทำงานได้ดีกว่า GPT-3 ซึ่งเป็นโมเดลที่สร้าง ChatGPT และต้องแข่งขันกับโมเดล Chinchilla70B และ PaLM-540B ของ Google ที่พัฒนาอยู่ และใหญ่กว่าโมเดลปัจจุบันที่ Google ใช้ขับเคลื่อนด้วย Bard chat

โฆษกหญิงของ Meta ระบุด้วยว่าประสิทธิภาพของการคำนวน มาจากข้อมูลที่ “สะอาดขึ้น” ในปริมาณที่มากขึ้นและ “การปรับปรุงสถาปัตยกรรม” ในแบบจำลองที่ปรับปรุงความเสถียรในการฝึกฝนเอไอ

ย้อนกลับไป ในเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว Meta ได้เปิดตัวโมเดลภาษาขนาดใหญ่ OPT-175B ซึ่งเน้นการให้บริการแก่นักวิจัยเช่นเดียวกับ LLaMa ซึ่งเป็นพื้นฐานของการพัฒนาแชตบ็อต ชื่อ BlenderBot ต่อมาได้นำเสนอแบบจำลองเอไอที่เรียกว่า Galactica ซึ่งสามารถเขียนบทความทางวิทยาศาสตร์และแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ได้ แต่ในการสาธิตยังสร้างคำตอบที่ผิดพลาด แต่กลับแสดงความมั่นใจเพื่อให้ดูน่าเชื่อถืออยู่