ยักษ์โซเชียลมีเดีย “Twitter” เดินเกมสู้ “Threads” คู่แข่งจาก “Meta” ด้วยโปรแกรมสร้างรายได้จากโฆษณา เพื่อหนุนครีเอเตอร์เป็นแม่เหล็กดึงคนเข้าแพลตฟอร์ม
วันที่ 13 กรกฎาคม 2566 ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า “ทวิตเตอร์” (Twitter) แพลตฟอร์มโซเชียลระดับโลก ขยายโปรแกรมส่วนแบ่งรายได้ของครีเอเตอร์ (Creator Monetization) ให้ครอบคลุมการสร้างรายได้จากโฆษณา (Creator Ads Revenue Sharing) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสนับสนุนให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างรายได้บนทวิตเตอร์ เพื่อโต้กลับ “เมตา” (Meta) ที่เปิดตัว “Threads” โซเชียลเน้นข้อความสั้น ๆ มาเป็นคู่แข่ง
- ด่วน! โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ครม.เศรษฐา 1/1 รัฐมนตรีใหม่ 13 ตำแหน่ง
- ล้งกระหน่ำทุบราคามังคุด จากโลละ 200 เหลือ 60 บาท
- ทูลเกล้า 11 รายชื่อคณะรัฐมนตรี เศรษฐา 1/1 ออก 4 เข้าใหม่ 6 ตำแหน่ง
ครีเอเตอร์สามารถสมัครเข้าร่วมโปรแกรมสร้างรายได้จากโฆษณา นอกเหนือจากโปรแกรม Creator Subscription หรือการสนับสนุนจากแฟนคลับเป็นรายเดือนได้ โดยส่วนแบ่งรายได้จากโฆษณาจะคำนวณจากจำนวนการตอบกลับโพสต์ที่ครีเอเตอร์เป็นผู้สร้าง
คุณสมบัติของครีเอเตอร์ที่สามารถเข้าร่วมโปรแกรมสร้างรายได้จากโฆษณา เป็นดังนี้
– เป็นสมาชิก Twitter Blue หรือบัญชีขององค์กรที่ผ่านการตรวจสอบ (Verified Organization)
– มีโพสต์ที่ยอดการมองเห็น (Impression) อย่างน้อย 5 ล้านครั้ง ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา
– ผ่านการตรวจสอบตามมาตรฐานการสร้างรายได้ของครีเอเตอร์
ทั้งนี้ ครีเอเตอร์ที่สนใจสมัครเข้าร่วมโปรแกรมสร้างรายได้จากโฆษณา ต้องมีบัญชี Stripe หรือแพลตฟอร์มชำระเงินออนไลน์ประเภทหนึ่งก่อน เพราะทวิตเตอร์จะจ่ายเงินให้กับครีเอเตอร์ผ่านทาง Stripe
ขณะนี้ทวิตเตอร์กำลังทดสอบการให้บริการโปรแกรมสร้างรายได้จากโฆษณากับครีเอตอร์บางส่วนที่เข้าร่วมโปรแกรม Creator Subscription ไปก่อนแล้ว โดยช่วงปลายเดือน ก.ค. 2566 จะเปิดระบบให้ครีเอเตอร์ทุกคนที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสามารถสมัครเข้าร่วมโปรแกรมนี้ได้
อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายมองว่าการขยายโปรแกรมส่วนแบ่งรายได้ของครีเอเตอร์ เป็นกลยุทธ์ในการกระตุ้นให้ผู้ใช้งานสมัครบริการ Twitter Blue มากขึ้น รวมถึงเป็นการแก้เกมแพลตฟอร์มโซเชียลหน้าตาละม้ายคล้ายคลึงกันอย่าง Threads ที่มาแรงและมียอดผู้ใช้งานทะลุ 100 ล้านบัญชี ในเวลาเพียง 5 วัน ด้วยการสร้างฐานครีเอเตอร์ของตนเองเพื่อมัดใจผู้ใช้งานรายอื่น ๆ ให้อยู่กับทวิตเตอร์ไปนาน ๆ