รู้จัก LISMA X ตัวช่วยการสั่งงานในองค์กรแบบเรียลไทม์

LISMA X

“บลูบิค” ผนึกกำลัง “ไมโครซอฟท์” พัฒนา “LISMA X” ตัวช่วยการใช้งานระบบ SAP บนสมาร์ทโฟน ชูจุดเด่นเรื่องความลื่นไหล สั่งงานแบบเรียลไทม์ และลดความซับซ้อนในการทำงาน

วันที่ 23 สิงหาคม 2566 นายพชร อารยะการกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า LISMA X ถือเป็นนวัตกรรมแรกในไทยที่ให้ผู้ใช้งาน SAP หรือซอฟต์แวร์การวางแผนทรัพยากรองค์กร สามารถทำงานบน Microsoft Power Platform ได้อย่างเต็มรูปแบบและมีเสถียรภาพ ภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่เชื่อถือได้ ทำให้การทำงานขององค์กรมีความคล่องตัว สะดวก รวดเร็ว ถูกต้อง และแม่นยำ สามารถสร้างข้อได้เปรียบทางธุรกิจได้

“LISMA X เป็นผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากการร่วมมือของเรากับบริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ถือเป็นก้าวสำคัญที่ตอกย้ำถึงความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของบลูบิค ที่มุ่งสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อยกระดับการทำงานให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าองค์กร”

นางสุภาณี อนุวงศ์วรเวทย์ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานการตลาดและปฏิบัติการ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ไมโครซอฟท์มองเห็นโอกาสในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ร่วมกับทางบลูบิค จึงร่วมมือกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่อย่าง LISMA X ซึ้นมา

“LISMA X เกิดจากการผสานจุดแข็งของแพลตฟอร์มไมโครซอฟท์ที่มีเสถียรภาพและความปลอดภัยในระดับสากลเข้ากับความเชี่ยวชาญในระบบ SAP ของบลูบิค อีกทั้ง 2 บริษัทยังมีฐานข้อมูลลูกค้าที่ใช้ระบบ SAP และ Microsoft Power Platform ทำให้สามารถเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพและนำเสนอนวัตกรรมนี้ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม เพื่อให้ลูกค้าองค์กรสามารถใช้งานระบบและข้อมูลที่มีได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น”

นายวรัทย์ ไล้ทอง ผู้อำนวยการสายงาน ERP Advisory บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บลูบิคได้เปิดตัว “LISMA” หรือโซลูชั่นที่เชื่อมต่อระบบ SAP เข้ากับแอปพลิเคชั่น LINE เมื่อปีที่แล้ว แต่ก็พบว่ายังมี pain point เรื่องความไม่เป็นทางการของแอป ความกังวลที่ข้อมูลของบริษัทต้องไปอยู่บนแพลตฟอร์มอื่น และข้อจำกัดจากกฎระเบียบของ LINE Official Account (LINE OA) ที่ไม่สามารถนำบัญชีผู้ใช้งานที่สมัครรับข้อมูลไว้ออกจากระบบได้ ทำให้บริษัทไม่สามารถลบบัญชีผู้ใช้งานของพนักงานที่ลาออกไปแล้วได้ และอาจจะส่งผลกระทบต่อการเพิ่มบัญชีผู้ใช้งานของพนักงานใหม่เข้าไปทีหลัง

“เรามีโอกาสได้พูดคุยกับทางไมโครซอฟท์ช่วงเดือน มี.ค. 2566 จากนั้นก็เริ่มพัฒนาโซลูชั่นมาเรื่อย ๆ ประมาณ 5-6 เดือน จนตอนนี้ LISMA X เฟสแรกที่มีเวิร์กโฟลว์ของระบบ SAP ก็พร้อมให้บริการกับลูกค้าองค์กรแล้ว รวมถึงเรายังพัฒนาโซลูชั่นที่มีการปลั๊กอิน ChatGPT เข้ากับ LISMA X ด้วย คาดว่าน่าจะพร้อมใช้งานจริงในอีก 6 เดือนข้างหน้า”

LISMA X ถูกออกแบบให้ทำงานเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มของไมโครซอฟท์ได้อย่างลื่นไหล โดยระบบ SAP สามารถส่งข้อความแจ้งเตือนไปที่ผู้ใช้งานผ่าน MS Team Chat ได้ ป้องกันการนำ username ไปใช้งานโดยผู้ไม่ประสงค์ดี เช่น การแจ้งเตือนเอกสารรออนุมัติ และการเข้าล็อกอินระบบ รวมถึงผู้ใช้งานยังสามารถเรียกดูข้อมูลต่าง ๆ ด้วยการพิมพ์คำสั่งบน MS Team Chat ซึ่งระบบจะส่งคำสั่งดังกล่าวไปประมวลผลบนระบบ SAP และส่งข้อมูลกลับมาให้ผู้ใช้งาน

โดยผู้ใช้งานสามารถเลือกเชื่อมต่อการใช้งานระบบ SAP กับบริการของ Microsoft Power Platform ได้ 4 บริการ ดังนี้

1. Power Virtual Agents, Intelligence Virtual Agents ทำหน้าที่เป็นเปรียบเสมือนแชตบอตที่ติดตั้งอยู่บน Microsoft Teams เพื่อใช้โต้ตอบกับผู้ใช้งาน และจะทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการโต้ตอบระหว่างผู้ใช้งานและระบบ SAP

2. Power Automate, Process Automation เป็นส่วนหนึ่งของแชตบอต ทำหน้าที่ดำเนินการออกคำสั่งต่าง ๆ บนระบบ SAP ตามที่ได้ออกแบบไว้ เช่น คำสั่งอนุมัติเอกสารต่าง ๆ การส่งรายงาน และการแจ้งเตือน เป็นต้น

3. Power BI, Business Analytics ทำหน้าที่นำข้อมูลจากระบบ SAP มาแสดงผลแบบเรียลไทม์ในรูปแบบแดชบอร์ดที่ถูกออกแบบมาให้สวยงามและเข้าใจง่าย

4. Power Apps, App Development ใช้พัฒนาแอปพลิเคชั่น (Application) ที่ต้องการเชื่อมต่อกับระบบ SAP โดย Power Apps สามารถรองรับการทำงานที่มีความซับซ้อนสูง แต่มีความยืดหยุ่นในการปรับแก้ในภายหลัง

นอกจากนี้ นายวรัทย์ยังกล่าวด้วยว่า แม้ว่าจะมีการพัฒนา LISMA X ขึ้นมาเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ แต่ LISMA ที่อยู่บน LINE ก็จะยังให้บริการต่อไป เพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการนำเสนอโซลูชั่นที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าองค์กร

“ปัจจุบันมีลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ 3 รายที่ใช้บริการ LISMA บน LINE เพื่อจัดการงานในภาคอุตสาหกรรม เพราะเน้นความสะดวกและรวดเร็ว รวมถึงตอนนี้ก็เริ่มมีการพูดคุยกับองค์กรขนาดใหญ่บางแห่งที่ต้องการนำโซลูชั่นของ LISMA X เข้ามาใช้ในการบริหารระบบ SAP”