
รมว.ดีอี ประสาน กสทช. เร่งออกประกาศขึ้นทะเบียนผู้ถือครองซิมการ์ดมือถือเกิน 5 ซิมขึ้นไป หวังสกัดแก๊ง SMS-คอลเซ็นเตอร์ จ่อปิดเว็บไซต์เถื่อน-พนัน-ผิดกฎหมายอีก 10,000 เว็บ
วันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวว่า มีข้อสั่งการเร่งด่วนจากนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้เร่งดำเนินการตัดตอนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ โทร.และส่งข้อความหลอกลวงก่ออาชญากรรมไซเบอร์ โดยการปิดซิมการ์ดม้าเพื่อตัดการส่งสัญญาณให้มากที่สุด
โดยให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งด่วนที่สุด คือขอให้ กสทช.เร่งรัดการออกประกาศ การลงทะเบียนผู้ถือครองซิมการ์ดเกิน 5 หมายเลข ต้องลงทะเบียนภายใน 30 วัน
นอกจากนี้ เพื่อให้กระบวนการตรวจสอบซิมม้าเร็วขึ้น ได้แจ้งโอเปอเรเตอร์ผู้ให้บริการมือถือใช้เทคโนโลยีเพื่อตรวจสอบการ โทร.ออกผิดปกติ ทั้งจากมือถือ หรือการใช้อินเทอร์เน็ต ให้ส่งข้อมูลมาที่ศูนย์ AOC 1441 (ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (Anti Online Scam Operation Center : AOC)
โดยสถิติ ณ วันที่ 30 กันยายน 2566 มีผู้ครอบครองเลขหมายโทรศัพท์มือถือหรือซิมการ์ดตั้งแต่ 101 เลขหมายขึ้นไปถึง 7,664 ราย และมีผู้ครอบครองเลขหมายโทรศัพท์มือถือหรือซิมการ์ดตั้งแต่ 6-100 เลขหมาย จำนวนมากถึง 286,148 ราย
ด้านศูนย์ AOC 1441 (สายด่วน 1441) ดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1-23 พฤศจิกายน 2566 จำนวนสายที่รับจากประชาชนจำนวนทั้งสิ้น 62,306 สาย แบ่งเป็นสามารถอายัดบัญชีธนาคารได้ถึง 5,329 บัญชี จับกุมได้ 389 ราย ซึ่งพบคดีใหญ่ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์มีเงินหมุนเวียนถึง 7,000 ล้านบาท
สำหรับการปิดกั้นเว็บไซต์ ในภาพรวมปีงบประมาณ 2566 (1 ตุลาคม 2565-30 กันยายน 2566) ปิดไปแล้วทั้งสิ้น 19,953 เว็บไซต์ เฉลี่ยต่อวัน 54.67 เว็บไซต์ ในปีงบประมาณ 2567 (1 ตุลาคม-22 พฤศจิกายน 2566) ปิดไปแล้ว 16,359 เว็บไซต์ เฉลี่ยต่อวัน 308.66 เว็บไซต์ เพิ่มขึ้นถึง 6 เท่า
ส่วนการปิดกั้นเว็บไซต์พนันออนไลน์ ในปีงบประมาณ 2566 (1 ตุลาคม 2565-30 กันยายน 2566) ปิดไปแล้วทั้งสิ้น 2,059 เว็บไซต์ เฉลี่ยต่อวัน 5.64 เว็บไซต์ ในปีงบประมาณ 2567 (1 ตุลาคม-22 พฤศจิกายน 2566) ปิดไปแล้ว 3,120 เว็บไซต์ เฉลี่ยต่อวัน 66.38 เว็บไซต์ เพิ่มขึ้นถึง 12 เท่า
นายประเสริฐกล่าวด้วยว่า การปิดกั้นเว็บไซต์ใช้อำนาจของ รมว.และเครื่องมือหรือกลไกของกระทรวงตรวจสอบ ขณะนี้มี URL ที่เตรียมจะปิดกั้นอีกกว่า 10,000 เว็บไซต์ ซึ่งประเภทของเว็บไซต์ยังอยู่ในชั้นความลับ