บึ้ม 3 จังหวัดใต้กระทบลงทุน “มาเลย์” ชินท่องเที่ยวฟื้น

3 จังหวัดใต้

หอการค้าจังหวัดนราธิวาส-ปัตตานีชี้เหตุการณ์รุนแรง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้กระทบความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างถิ่น มองเสี่ยงสูง ด้านนักธุรกิจท้องถิ่นมองการลงทุนเริ่มฟื้นตัว เหตุความรุนแรงน้อยลงกว่าอดีตมาก ชี้ธุรกิจท่องเที่ยวกระทบแค่ระยะสั้น เหตุนักท่องเที่ยวหลัก เผยชาวมาเลย์เคยชิน

ดร.นิเมธ พรหมพยัต ประธานหอการค้าจังหวัดนราธิวาส และอดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัตตานี ยะลา

และนราธิวาส ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา ส่งผลกระทบทำให้นักธุรกิจขาดความเชื่อมั่นไม่กล้าเข้ามาลงทุน เพราะมีความเสี่ยงสูงมาก ยิ่งล่าสุดมีสถานการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้น ยิ่งส่งผลกระทบหนักต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน

“ว่ากันตามความเป็นจริงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แม้จะไม่มีเหตุการณ์ระเบิด 18-19 จุดที่เกิดขึ้นล่าสุดเมื่อช่วงวันที่ 16-17 สิงหาคม 2565 ก็มีผลกระทบในเชิงการลงทุนอยู่แล้ว ไม่มีนักธุรกิจรายใดกล้าเข้ามาลงทุนอยู่ดี ภาพของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่ดีเรื่องความไม่สงบ ทำให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่น”

ดร.นิเมธกล่าวต่อไปว่า หากในเชิงธุรกิจการท่องเที่ยวเหตุการณ์ความรุนแรงดังกล่าวที่เกิดขึ้นมีผลกระทบไม่มากนัก เพราะนักท่องเที่ยวหลัก โดยเฉพาะจากประเทศเพื่อนบ้านคือชาวมาเลเซีย ต่างมีความชินชาหรือเคยชินกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คงใช้ระยะเวลาเพียงสั้น ๆ จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

“มีคนสอบถามมายังตนเองจำนวนมากว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะเกี่ยวกับงบประมาณประจำปีหรือไม่ แต่ตนไม่สามารถตอบคำถามได้ แต่บอกว่า 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ข้าราชการชอบมาอยู่ในพื้นที่ เพราะมีรายได้หลายช่องทาง เช่น เบี้ยเสี่ยงภัย เวลาราชการทวีคูณ ฯลฯ” ดร.นิเมธกล่าว

ทางนายศิริชัย ปิติเจริญ ประธานกรรมการ บริษัท พี.ที.เจริญธุรกิจ จำกัด อำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี ผู้จัดจำหน่ายรถแบรนด์ MG ในฐานะประธานหอการค้าจังหวัดปัตตานี เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

หากมองย้อนกลับไปในอดีตเมื่อ 10 กว่าปีที่ผ่านมา สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันถือว่ามีความรุนแรงน้อยลงกว่าในอดีตมาก คนในพื้นที่ไม่ได้ตื่นตระหนก แต่อาจจะกระทบต่อผู้ประกอบการต่างพื้นที่มากกว่า ทั้งนี้ปัจจุบันการลงทุน และธุรกิจท่องเที่ยวในพื้นที่เริ่มจะฟื้นตัวดีขึ้นตามลำดับ

“สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น คนในพื้นที่ไม่ได้ตื่นตระหนก จะต่างกับคนต่างพื้นที่ อาจจะมองและอาจจะกระทบต่อและกับผู้ประกอบการต่างพื้นที่มากกว่า แต่ถึงอย่างไรปัจจุบันเหตุการณ์ดีขึ้น ซึ่งจะมีรุนแรงน้อยลงกว่าเมื่อก่อนมาก”นายศิริชัยกล่าว

นายศิริชัยกล่าวต่อไปว่า สำหรับเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้น หากถามว่ามีผลกระทบต่อการค้าการลงทุนหรือไม่ เป็นเรื่องที่ตอบยาก เนื่องจากมีหลายปัจจัยด้วยกันที่ทำให้นักธุรกิจชะลอการลงทุนในช่วงนี้ โดยเฉพาะในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่

1.เรื่องความไม่สงบที่มีอยู่เดิม ย่อมมีผลกระทบต่อการตัดสินใจลงทุนเช่นกัน 2.ประสบปัญหากับเรื่องการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งกระทบต่อสถานการณ์เศรษฐกิจกำลังซื้อโดยภาพรวม 3.ผลกระทบเกิดจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน กระทบต่อต้นทุนพลังงาน ราคาน้ำมันสูงขึ้น

4.ผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อ ดอกเบี้ยสูง และ 5.เรื่องการขัดแย้งระหว่างไต้หวัน และจีน ซึ่งมีผลกระทบต่อผู้ประกอบการธุรกิจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำให้บางคนอาจจะชะลอแผนการลงทุนต่าง ๆ เพื่อรอดูสถานการณ์