หาดใหญ่ หวั่นเหตุบอมบ์รถไฟซ้ำ ทำมาเลย์ชะลอเดินทาง ทำธุรกิจท่องเที่ยววูบ

“หาดใหญ่” หวั่นเหตุบอมบ์รางรถไฟซ้ำ ทำมาเลย์-สิงคโปร์-อินโดฯชะลอเดินทาง ส่งผลกระทบเศรษฐกิจช่วงเทศกาลคริสมาสต์-ปีใหม่หงอย เร่งหน่วยงานความมั่นคงคุมเข้มเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมา ด้านรถไฟ KTM ไม่ยกเลิกโปรแกรมเดินทาง ปรับแผนเดินทางเข้าหาดใหญ่ทางรถบัส

วันที่ 6 ธันวาคม 2565 ดร.สิทธิพงศ์ สิทธิภัทรประภา นายกสมาคมโรงแรมหาดใหญ่สงขลา เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า

กรณีเหตุการณ์ระเบิดรางรถไฟเมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 65 และเช้าวันนี้จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บ 4 รายในทางเศรษฐกิจการค้าการท่องเที่ยวในเบื้องต้นยังไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากห้องพักโรงแรมได้มีการจองล่วงหน้าไว้เต็มตลอดทั้งเดือนธันวาคม 2565 โดยเฉพาะวันสุดสัปดาห์ ไปถึงเทศกาลปีใหม่ 2566 และยังไม่มีการยกเลิก ส่วนรายใหม่ยังไม่มีการจองเข้ามา 

“ตอนนี้เป็นเรื่องของผลกระทบต่อความเชื่อมั่น ขึ้นอยู่กับหน่วยงานความมั่นคงต้องควบคุมเข้มข้นในพื้นที่ให้อยู่ในกรอบ เพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้กลับมาเหมือนเดิม”

ดร.สิทธิพงศ์กล่าวว่า การเดินทางของรถไฟ KTM มาเลเซีย ที่จัดเที่ยวขบวนพิเศษในวันที่ 10 ธ.ค. 24 ธ.ค. และ 31 ธ.ค. 65 จะเปลี่ยนเป็นรถบัสบริการรับส่งแทน โดยรถไฟ KTM โดยจะจอดปลายทางที่สถานีรถไฟปาดังเบซาร์ รัฐปะลิส รอยต่อกับสถานีรถไฟปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา แล้วถ่ายผู้โดยสารลงมาขึ้นรถบัสแทน เพื่อเดินทางมายัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพราะยังซ่อมรางรถไฟไม่ทันเวลา

นายซับบรี มะสะมัน อุปนายกสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า การระเบิดรางรถไฟวันนี้ (6 ธ.ค. 65) มีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียได้สอบถามเข้ามา คาดว่า น่าจะมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่น แต่ยังไม่มีการยกเลิกการท่องเที่ยว เพราะมีการจองห้องพักทางออนไลน์ และจ่ายเงินไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมารถไฟ KTM ที่เดินทางมาถึงสถานีชุมทางหาดใหญ่ กำลังได้รับความนิยมมาก เพียงเปิดให้จองตั๋วทางออนไลน์ ประมาณ 30 นาทีก็เต็มแล้วทั้ง 12 โบกี้

ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุการณ์ระเบิดการเดินทางรถไฟระหว่างไทย-มาเลเซีย เส้นทางปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา มาถึงสถานีชุมทางรถไฟหาดใหญ่ ต้องปรับแผนการเดินทาง โดยให้รถไฟ KTM จอดที่สถานีปลายทางรถไฟปาดังเบซาร์ รัฐปะลิส มาเลเซีย แล้วคนที่จะเข้ามาท่องเที่ยว จ.สงขลาให้มาขึ้นรถบัส รถแท็กซี่ รถตู้ เดินทางมายัง ด่านนอก อ.สะเดา และ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

แหล่งข่าวจากบริษัทผู้ประกอบการท่องเที่ยว อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า

การท่องเที่ยว จ.สงขลา โดยเฉพาะ เมืองหาดใหญ่ เทศบาลนครหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ กับ การท่องเที่ยวด่านนอก เทศบาลตำบลสำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา หลังจากเปิดชายแดนขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะชาวมาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวจำนวนมาก โดยตั้งแต่เปิดประเทศเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2565 มีชาวมาเลเซียเดินทางเข้ามาทาง จ.สงขลา ประมาณ 1.5 ล้านคน ส่งผลให้แหล่งท่องเที่ยวในประเทศมาเลเซียค่อนข้างจะเงียบเหงามาก เช่น แหล่งท่องเที่ยวและเมืองปลอดภาษีเกาะลังกาวี รัฐเคดาห์ เป็นต้น 

“เศรษฐกิจในเมืองหาดใหญ่กำลังฟื้นตัว เหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้นคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อชาวมาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซียคงจะชะลอการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว ทำให้แผนงานที่หน่วยงานภาครัฐและเอกชนร่วมกันวางแผนจะจัดงานอีเวนต์กิจกรรมต่าง ๆ ในช่วงเทศกาลคริสต์มาส และนับถอยหลังขึ้นปีใหม่ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวคงไม่ได้จัด เพราะถือว่าอยู่ในช่วงอันตราย ในตัวเมืองหาดใหญ่เองต้องระมัดระวังอย่างเข้มงวด ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจต่อเนื่องในหาดใหญ่ที่หวังจะโกยรายได้กันหลังจากเผชิญโควิดมาอย่างยาวนานหลายปีต้องแย่ลงไปอีก” แหล่งข่าวกล่าว