“สุดที่รัก พันธ์สายเชื้อ” เร่งยกระดับการค้า-ดัน ศก.โคราชโต

สุดที่รัก พันธ์สายเชื้อ
สัมภาษณ์พิเศษ

ช่วงนี้เป็นฤดูการเปลี่ยนไม้ต่อประธานหอการค้าหลายจังหวัด ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2566 คณะกรรมการหอการค้าจังหวัดนครราชสีมาได้เลือก “นายสุดที่รัก พันธ์สายเชื้อ” กรรมการที่ปรึกษาหอการค้าจังหวัดขึ้นมารับไม้ต่อ

เป็นประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมาคนใหม่แทน “นายศักดิ์ชาย ผลพานิชย์” ที่นั่งในตำแหน่งประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมาครบวาระ โดย “นายสุดที่รัก พันธ์สายเชื้อ” ประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ “ประชาชาติธุรกิจ”

Q : วิสัยทัศน์ประธานคนใหม่

รู้สึกดีใจที่ได้รับความไว้วางใจจากคณะกรรมการและสมาชิกหอการค้าให้เข้ามาบริหารงานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งถือเป็นหอการค้าจังหวัดอันดับต้น ๆ ของประเทศ ผมมีความตั้งใจที่จะอาสาเข้ามาทำหน้าที่อย่างเต็มที่ เพื่อผลักดันเศรษฐกิจของโคราชให้เดินหน้า แต่ทั้งนี้ต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจจากคณะกรรมการทุกคนที่ถูกเลือกเข้ามาช่วยกันทำงานด้วยความเสียสละและตั้งใจจริง ทั้งคนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่ หากรวมพลังกันจะสามารถพัฒนาและช่วยเหลือบ้านเมืองได้มากยิ่งขึ้น

คณะกรรมการหอการค้าชุดใหม่ เราได้ร่วมกันกำหนดวิสัยทัศน์การบริหารงานปี 2566-2567 คือ “ผู้นำการเชื่อมต่อเครือข่ายธุรกิจ เพื่อยกระดับและพัฒนาสมาชิก สู่เศรษฐกิจใหม่ที่ยั่งยืน” โดยมีพันธกิจต่าง ๆ แบ่งออกเป็น 4 ข้อคือ

1.บริหารองค์กรอย่างสร้างสรรค์และมีประสิทธิภาพ

2.ส่งเสริมภาคธุรกิจ และสนับสนุนภาครัฐ เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน

3.ยกระดับการค้าและบริการ พัฒนาสมาชิกสู่เศรษฐกิจยุคใหม่

4.ยกระดับคุณภาพชีวิตคนโคราชให้ยั่งยืนอย่างมีธรรมาภิบาล

โดยเราแบ่งการทำงานออกเป็น 9 ฝ่าย มีรองประธานหอการค้ากำกับดูแลทั้ง 9 ฝ่าย เพื่อให้การขับเคลื่อนงานได้รวดเร็วมากขึ้น ดังนี้ 1.ฝ่ายเศรษฐกิจและการค้า 2.ฝ่ายบริหาร 3.ฝ่ายวิชาการและพัฒนา 4.ฝ่ายกิจกรรมเครือข่ายภาคเอกชน 5.ฝ่ายกิจกรรมพิเศษ 6.ฝ่ายกิจกรรมเครือข่ายภาครัฐ 7.ฝ่ายประชาสัมพันธ์และส่งเสริมภาพลักษณ์องค์กร 8.ฝ่ายเกษตรปศุสัตว์ โลจิสติกส์ ผังเมือง smart city และ 9.ฝ่ายท่องเที่ยวและการลงทุน

กรรมการหอการค้าทั้ง 35 คน มีวัตถุประสงค์เดียวกัน ที่อยากเข้ามาพัฒนาและต่อยอดเศรษฐกิจโคราชให้เติบโตและมั่นคงมากขึ้น เราพยายามแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในเมืองโคราชกันมาหลายสมัย หอการค้าพยายามทำงานร่วมกับจังหวัด กับเทศบาล กับองค์กรต่าง ๆ เพื่อจะสร้างความคึกคักให้เกิดขึ้น การที่เรามีแผนงานต่าง ๆ นำเสนอภาครัฐ

โดยที่ผ่านมาภาคเอกชนกับภาครัฐทำงานกันอย่างใกล้ชิด เพื่อให้เศรษฐกิจเติบโตมากขึ้น และช่วงนี้เป็นช่วงเลือกตั้ง เราก็พยายามเชิญพรรคการเมืองหลากหลายพรรคมารับฟังเสียงชาวโคราชว่าต้องการอะไร รวมทั้งการเร่งรัดโครงการเมกะโปรเจ็กต์ต่าง ๆ ให้เร็วขึ้น สิ่งเหล่านี้ต้องเร่งผลักดันให้เป็นรูปธรรม

Q : แผนงานและโครงการที่จะผลักดัน

ส่วนแนวทางการทำงานของหอการค้าโคราช จะแบ่งออกเป็น 4 ด้าน เริ่มจาก ด้านที่ 1 การให้ความสำคัญกับสมาชิกหอการค้า รวมทั้งผู้ประกอบการทั้งขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ เพื่อให้สมาชิกได้รับสิทธิประโยชน์ที่มากขึ้น

โดยเฉพาะการเสริมเขี้ยวเล็บด้วยการจัดอบรมเพิ่มศักยภาพให้กับสมาชิก กระตุ้นให้สมาชิกเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น ขณะเดียวกัน จะให้คำแนะนำปรึกษาแก่สมาชิกที่ประสบปัญหาต่าง ๆ เพื่อให้เดินหน้าต่อไปได้ รวมทั้งการช่วยเหลือให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้น และมีความพร้อมที่จะสู้กับเศรษฐกิจในยุคปัจจุบัน

ด้านที่ 2 การยึดคอนเซ็ปต์ของหอการค้าไทย คือ connect the dot เป็นสื่อกลางระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชน ประสานหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อให้ขับเคลื่อนพัฒนาและผลักดันนโยบาย หรือแนวทางที่เป็นประโยชน์ต่อจังหวัดและพี่น้องชาวโคราช ให้เศรษฐกิจการค้า การลงทุนในจังหวัดนครราชสีมาเติบโต ซึ่งประธานหอการค้าคนเดิมได้ดำเนินโครงการไว้เป็นอย่างดี

โดยเฉพาะเรื่องการรวมตัวของหน่วยงานภาคเอกชนในจังหวัดทั้ง 13 องค์กร เราเดินไปด้วยกัน สร้างพลังในการขับเคลื่อนในหลาย ๆ เรื่องของจังหวัด ทั้งโครงการท่าเรือบก, โครงการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงานพืชสวนโลก, การเร่งรัดเปิดใช้โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 6 (มอเตอร์เวย์) สายบางปะอิน-สระบุรี-นครราชสีมา โดยเฉพาะช่วงปากช่อง ถึงปลายทางเลี่ยงเมืองนครราชสีมา

รวมถึงโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่, โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีนระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมาก่อน, โครงการ korat wellness, โครงการระเบียงเศรษฐกิจ, โครงการ smart city, โครงการส่งเสริมสินค้าให้เกษตรกรมีช่องทางการตลาดเพิ่มมากขึ้น เป็นต้น

ซึ่งหลาย ๆ เรื่องยังคงต้องเร่งสานต่อและผลักดันให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว นอกจากนี้ยังได้รับความร่วมมือจากหอการค้ากลุ่มจังหวัดนครชัยบุรินทร์ และหอการค้าภาคอีสานในการขับเคลื่อนโครงการท่าเรือบก และโครงการระเบียงเศรษฐกิจอีกด้วย

ด้านที่ 3 การให้บริการด้านต่าง ๆ กับผู้ประกอบการ ซึ่งหอการค้ามีศูนย์ให้คำปรึกษาอยู่หลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจ, ศูนย์ธุรกิจ SMEs ให้คำปรึกษาแนะนำด้านการดำเนินธุรกิจ, ศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคเอกชน ช่วยแก้ไขปัญหาด้านกฎหมายโดยตรง, ศูนย์อาเซียนศึกษา เพื่อส่งเสริมการลงทุน, ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนทางธุรกิจ, ศูนย์รับสมัครศึกษาต่อของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย,

การเปิดให้บริการเรื่องของการทำบัตรวีซ่าเอเปค APEC business travel card (ABTC) หรือบัตรเดินทางสำหรับนักธุรกิจเอเปค ซึ่งผู้ถือบัตรสามารถใช้ควบคู่กับหนังสือเดินทาง เพื่อเดินทางเข้าดินแดนของสมาชิกเอเปคที่ร่วมโครงการนี้ (ปัจจุบันมีจำนวน 19 เขตเศรษฐกิจ) ในการติดต่อธุรกิจระยะสั้นได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าอีก ช่วยอำนวยความสะดวกในการเข้าเมือง

โดยสามารถใช้ช่องทางพิเศษสำหรับสมาชิกเอเปค (APEC lane) ซึ่งตั้งอยู่ตามท่าอากาศยานนานาชาติของสมาชิกเอเปค ซึ่งบัตรเดินทางนี้จะช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายสำหรับนักธุรกิจที่ต้องการเดินทาง, การออกใบรับรองการเป็นสมาชิกหอการค้า เพื่อนำไปยื่นในการดำเนินกิจการต่าง ๆ และการยกระดับและต่อยอดธุรกิจโดยการหาแหล่งเงินทุนให้กับสมาชิก เป็นต้น

ด้านที่ 4 กิจกรรมเพื่อสังคม CSR อาทิ โครงการบริจาคโลหิต, โครงการส่งเสริมการกีฬา แข่งขันบาสเกตบอล 3X3, โครงการส่งเสริมการศึกษา “ติวเข้มก่อนเข้ามหาวิทยาลัย” 2 โครงการนี้จัดร่วมกับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย, โครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ, โครงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางธรรมชาติ เป็นต้น

“ผมจะนำประสบการณ์การทำงานตลอด 25 ปีที่ได้ทำงานร่วมกับบริษัทระดับโลกไม่ว่าจะเป็น Ford, Mazda, Nissan, Great Wall และประสบการณ์การทำงานแบบเชื่อมประสานจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มาร่วมเสริมสร้างให้จังหวัดของเราเดินหน้าอย่างแข็งแกร่งต่อไป”