ประมงพื้นบ้าน 18 จังหวัดร้อง ทบทวน พ.ร.ก.ประมงใหม่

วันที่ 17 มีนาคม 2567 - 08:14 น.

18 จังหวัดประมงพื้นบ้านยื่นหนังสือประธานสภาฯ และประธานกรรมาธิการวิสามัญ ทบทวนพ.ร.ก.การประมงฯ หวั่นกระทบชาวประมงพื้นบ้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมศักดิ์ พรหมแก้ว ประธานเครือข่ายประมงพื้นบ้านจังหวัดภูเก็ต ยื่นหนังสือต่อนายสิทธิพล เมืองสง ประมงจังหวัดภูเก็ต เรื่องข้อกังวลต่อการแก้ไขพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 ถึงประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.ก.การประมง พ.ศ. 2558 พ.ศ…ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต

โดยมีนายธนู แนบเนียร คณะกรรมการนโยบายและแผนบริหารจัดการทะเลทรัพยากรชายฝั่งแห่งชาติ และตัวแทนสมาชิกประมงพื้นบ้านจังหวัดภูเก็ต เข้าร่วม ณ ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต

นายสมศักดิ์ พรหมแก้ว ประธานเครือข่ายประมงพื้นบ้านจังหวัดภูเก็ตกล่าวว่า ตามที่สภาผู้แทนราษฎรได้มีมติรับหลักการพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 พ.ศ.. และอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.ก.การประมง พ.ศ. 2558 พ.ศ.. นั้น ประมงพื้นบ้าน 18 จังหวัดทั่วประเทศได้พิจารณาเนื้อหาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมดังกล่าวมีข้อกังวล

และเห็นว่าจะมีผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของชาวประมงพื้นบ้านและชุมชนท้องถิ่นเป็นอย่างมาก จึงยื่นให้เครือข่ายประมงพื้นบ้านจังหวัดภูเก็ตยื่นหนังสือผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตไปถึงประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานกรรมาธิการวิสามัญ เพื่อให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาแก้ไขโดยเร่งด่วน

ปัจจุบันประมงพื้นบ้านจังหวัดภูเก็ตมีสมาชิกกว่า 1,200 คน เรือประมงกว่า 600 ลำ ขณะนี้ยังไม่เดือดร้อนในการประกอบอาชีพ แต่ที่ถกเถียงกันเรื่องนี้ปรากฏว่ามีแต่ข้อเสียต่อชาวประมงพื้นบ้าน ซึ่งสิ่งที่ชาวประมงพื้นบ้านเรียกร้องไม่ได้อะไรเลย มีแต่ผลดีให้กับประมงพาณิชย์

ทั้งนั้น อย่าลืมว่าประมงพื้นบ้านคืออาชีพประมงของคนส่วนใหญ่ทั่วประเทศมติของประมงภาคใต้ มองว่ากฎหมายนี้ถ้าออกมาแบบนี้ไม่เป็นธรรมกับประมงพื้นบ้าน จึงต้องการให้ทบทวนก่อนออกกฎหมายให้พิจารณาให้ละเอียดรอบคอบกว่านี้ เช่น อนุญาตให้มีเรือประมงพาณิชย์เข้ามาทำประมงในเขตทะเลชายฝั่งได้ และได้มีการนำเครื่องมือบางชนิดที่เป็นเครื่องมือทำลายล้างเข้ามาหากินในเขตทะเลชายฝั่ง

ซึ่งมีผลต่อสัตว์น้ำวัยอ่อนที่อยู่บริเวณชายฝั่ง ทำให้เกิดความสูญเสีย ปัญหาหลักทำให้สัตว์น้ำสูญหายไป เป็นต้น

ฝากถึงรัฐบาลพิจารณากฎหมายประมงฉบับนี้ให้ละเอียดก่อนที่จะบังคับใช้อย่าลืมว่าเป้าหมายของรัฐบาลคือการทำประมงให้ยั่งยืน แต่ถ้าทำแบบนี้ความยั่งยืนจะหายไป จึงต้องการให้กรรมาธิการเห็นผลดีผลเสียของกฎหมายฉบับนี้”