2 ยักษ์ภูธรเผยโควิดทำยอดขนส่งวูบ “นิ่มซี่เส็ง-B.S.” ชี้งานโชห่วย-โมเดิร์นเทรดลด 50%

ขนส่งวูบ - การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลต่อผู้ให้บริการรถบรรทุกขนส่งสินค้าทั่วทุกภาคได้รับผลกระทบ เนื่องจากประชาชนซื้อสินค้าน้อยลง ทำให้ยอดใช้บริการรถขนส่งลดลงไปด้วยจีรนุช ธรรมอินทอง

ยักษ์ขนส่งไทย “นิ่มซี่เส็งขนส่ง-บี.เอส.ขนส่ง” เผยยอดบริการรถขนส่งขนาดใหญ่เข้า “โชห่วย-โมเดิร์นเทรด” ลดฮวบกว่าครึ่ง หลังโควิดระบาดคนแห่ซื้อสินค้าจำเป็นไปตุนหมดแล้ว ขณะที่ยอดธุรกิจ “นิ่มเอ็กซ์เพรส-B.S.EXPRESS” ยอดเติบโตพุ่งกระฉูดเท่าตัว ขายจุดรับส่งสินค้าเพิ่มทั่วไทย แต่หวั่นเมื่อถึงระยะหนึ่งคนอาจส่งน้อยลง เหมือนซื้อของห้างไปตุนแล้วหยุด สถานการณ์ยังไม่นิ่ง ยากประเมินตัวเลข

นายชวลิต สุวิทย์ศักดานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท นิ่มซี่เส็งขนส่ง 1988 จำกัด ผู้ให้บริการขนส่งสินค้าและพัสดุด่วนทั่วประเทศ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า วิกฤตการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อยอดขายของบริษัทนิ่มซี่เส็งขนส่ง ตั้งแต่เดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2563 หายไปกว่า 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 แสดงให้เห็นว่ากำลังซื้อในตลาดลดลงจากสถานการณ์นี้ และคาดว่าเดือนมีนาคม และเมษายน 2563 ยอดขายมีแนวโน้มจะลดลงต่อเนื่อง ทั้งนี้ ยอดขายรวมในปี 2562 เฉพาะในส่วนของนิ่มซี่เส็งขนส่ง มียอดขายอยู่ที่ประมาณ 700-800 ล้านบาท

“หลังจากรัฐบาลประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 บริษัทยังคงมีการขนส่งสินค้าตามปกติ เนื่องจากเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจที่ได้รับการยกเว้น และถือว่าในสภาวะตอนนี้ธุรกิจขนส่งสินค้ามีความจำเป็นในการขนส่งเสบียงสินค้าสู่ตลาดเป้าหมายแต่ละจังหวัด แต่ระหว่างเส้นทางจะมีด่านตรวจเป็นระยะ พนักงานขับรถจะแสดงหนังสือรับรองการขนส่งของบริษัทให้เจ้าหน้าที่ประจำด่านได้ตรวจสอบ โดยเส้นทางขนส่งสินค้าของบริษัทครอบคลุมภาคเหนือตอนบนทั้งหมด และเส้นทางจากกรุงเทพฯจนถึงจังหวัดราชบุรี สินค้าที่มีการขนส่งมากที่สุดคือ ผักและผลไม้จากเชียงใหม่และภาคเหนือ” นายชวลิตกล่าว

สำหรับในส่วนธุรกิจรับส่งพัสดุด่วนสถานการณ์วิกฤตไวรัสโควิด-19 ทำให้เห็นภาพของภาคธุรกิจขนส่งในปัจจุบันมีการแข่งขันที่สูงมาก และเติบโตอย่างมาก เนื่องจากตลาดในภาพรวมของประเทศมีการสั่งซื้อสินค้าอุปโภค-บริโภคผ่านทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น เพราะประชาชนส่วนใหญ่ไม่ออกไปไหน หยุดการเดินทาง และอยู่บ้าน แต่ยังคงมีการสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์ ส่งผลให้ธุรกิจขนส่งสินค้าทั้งระบบมีการเติบโตตามไปด้วย และมีขนาดใหญ่มากในปัจจุบัน โดยบริษัท นิ่มเอ็กซ์เพรส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัท นิ่มซี่เส็งขนส่ง 1988 จำกัด เป็นผู้ให้บริการกระจายสินค้าและรับส่งพัสดุด่วนทั่วประเทศ ก็มีการเติบโตของยอดขายเพิ่มขึ้นในช่วงวิกฤตโควิด-19

ทั้งนี้ ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบันที่ธุรกิจขนส่งมีการแข่งขันสูงอย่างมาก บริษัท นิ่มเอ็กซ์เพรส ต้องเร่งปรับตัวเช่นกัน โดยเฉพาะการสร้างความแตกต่าง และมีจุดขายที่เด่นชัดเพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกใช้บริการง่ายขึ้น โดยบริษัทให้บริการด้านการกระจายสินค้าด่วนทั่วประเทศมานานกว่า 10 ปี และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง กล่าวได้ว่าปัจจุบันเป็นผู้เชี่ยวชาญและมีความพร้อมในการบริการด้านโลจิสติกส์ ด้วยระบบโปรแกรมและอุปกรณ์ที่ทันสมัย ตั้งแต่การคัดแยกสินค้าด้วย barcode เพื่อแยกปลายทาง อีกทั้งยังมีระบบออนไลน์ทุกศูนย์กระจายสินค้าทั่วประเทศ ทำให้สามารถติดตามสินค้าได้ตลอดเวลาจนถึงมือผู้รับอย่างปลอดภัย พร้อมการแจ้งผลการจัดส่งด้วยรูปภาพและลายเซ็นดิจิทัลผ่านระบบ mobile application แบบ real time โดยยอดขายของบริษัท นิ่มเอ็กซ์เพรส ในปี 2562 มียอดขายมากกว่า 1,000 ล้านบาท

B.S.รับยอดขนส่งลด 35%

ดร.ชุมพล สายเชื้อ กรรมการผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด บี.เอส.ขนส่ง ผู้ให้บริการขนส่งสินค้าทั่วไทย และรับส่งพัสดุด่วน ภายใต้การบริการ “B.S.EXPRESS” เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า กลุ่มธุรกิจขนส่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เหมือนกันหมดตอนนี้ภาพรวมตลาดขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภค 100% แบ่งเป็นการขนส่งร้านโชห่วย ยี่ปั๊ว ที่มีหลายแสนร้านค้าทั่วประเทศ 50% ขนส่งให้โมเดิร์นเทรด 40% ส่วนตลาดออนไลน์เพียง 10% ปัจจุบันโชห่วยยอดขายตก ยอดขายโมเดิร์นเทรดก็ตก ช่วงแรกคนไปซื้อสินค้าสิ่งของที่จำเป็นตุนไว้แล้ว แต่ตอนนี้หยุดซื้อประหยัด รัดเข็มขัด ส่งผลให้ยอดผู้ใช้บริการรถขนส่ง 2 กลุ่มหลักรวมกัน 90% ตอนนี้ยอดใช้บริการหายไปครึ่งหนึ่งเหลือประมาณ 45% ส่วนตลาดออนไลน์ ตอนนี้คลังสินค้าของล้นส่งกันไม่ทัน ผู้ประกอบการแต่ละรายรับสมัครคน รับสมัครรถ ยอดการใช้บริการเติบโตขึ้นมาเป็นเท่าตัว 20% หากบวกตลาดหลักที่เหลือ 45% รวมเป็น 65% เท่ากับตอนนี้ยอดการให้บริการโดยรวมทั้งตลาดลดไป 35% ซึ่งรายได้จากธุรกิจเอ็กซ์เพรสที่เติบโตขึ้นไม่สามารถชดเชยรายได้จากการขนส่งขนาดใหญ่ที่หายไป

“บริษัทผมทำรถให้บริการหลากหลายประเภท ในส่วน บี.เอส.เอ็กซ์เพรส เติบโตมาก แต่รายได้น้อย เพราะการรับส่งพัสดุด่วนเป็นตลาดเล็กส่งที่ละ 1-2 ชิ้น ต่างกับรถบรรทุก 10 ล้อ รถเทรเลอร์ ขนส่งสินค้าเข้าห้างส่งครั้งละ 500-1,000-2,000 กล่องปริมาณเทียบกันไม่ได้ ในส่วนพนักงานเราประคับประคองกันไป ตอนนี้เราโยกย้ายคน ในส่วนที่งานน้อยก็มาเติมในส่วนที่งานเยอะ”

ดร.ชุมพลกล่าวต่อไปว่า ปัจจุบัน บี.เอส.เอ็กซ์เพรส มีจุดรับส่งสินค้ากว่า 544 แห่ง ใน 11 จังหวัด โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ศูนย์อุบลราชธานี ประกอบด้วย กทม. มี 50 เขตที่เหลือ เช่น นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม นครปฐม ราชบุรี สุพรรณบุรี อ่างทอง ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี สระบุรี เป็นต้น การที่มีสาขากระจายในหลายจังหวัด เพราะลูกค้าต้องการจุดรับส่งที่อยู่ใกล้ อีกส่วนเป็นการโทรศัพท์ให้ไปรับสินค้าที่บ้านบริการนี้โตมาก ทุกคนไม่อยากออกจากบ้าน ปี 2562 ด้านเอ็กซ์เพรสเติบโต 300% คาดว่าปี 2563 จะเติบโตใกล้เคียงกัน หรืออาจจะมากกว่า แต่ตอนนี้ยังคาดการณ์ทั้งหมดไม่ได้ ไม่กล้าประเมินตัวเลข เพราะสถานการณ์ยังไม่นิ่ง ต้องรอดูสถานการณ์โดยรวมก่อน เพราะเมื่อถึงระยะหนึ่งคนก็อาจจะสั่งสินค้าน้อยลง เหมือนซื้อของห้างไปตุนแล้วหยุด จะซื้อเฉพาะสินค้าที่จำเป็น

ทั้งนี้ ปัจจุบัน บี.เอส.เอ็กซ์เพรส มีรถกระจายอยู่ใน กทม. และรอบกรุงเทพฯ 11 จังหวัด ส่วนทางภาคเหนือยังเป็นพันธมิตรกับบริษัท นิ่มเอ็กซ์เพรส จำกัด ในการกระจายส่งพัสดุ ส่วนทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ให้บริษัท บลูแอนด์ไวท์เอ็กซ์เพรส ขนส่งเพื่อให้ครอบคลุมทั่วประเทศ