ส่งออกทุเรียนจี้รัฐเจรจาเปิดทาง จีนคุมเข้มโควิดหวั่นราคาร่วงหนัก

ทุเรียน

ทุเรียนตะวันออกเริ่มออก คาดผลผลิตปีนี้ทะลุ 7.4 แสนตัน เปิดราคาจองต้นฤดู 260-270 บาท/กก. ขณะที่ผู้ประกอบการหวั่นสารพัดปัญหา ทำราคาร่วงเหลือ 45-50 บาท/กก. ผลพวงทางการจีนเข้มงวดตรวจโควิดทำตู้คอนเทนเนอร์ค้างด่านจนเสียหาย-พ่อค้าจีนบินเข้ามาน้อย ชาวสวนเผยพ่อค้าวางมัดจำน้อย หวั่นทิ้งสัญญาจอง จี้รัฐบาลเร่งเจรจาจีนด่วน 60 วันอันตราย ก่อนทุเรียนคลอด

นายชลธี นุ่มหนู ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 6 (สวพ.6) จังหวัดจันทบุรี เปิดเผยว่า ปีนี้คาดว่าจะมีผลผลิตทุเรียนออกมาปริมาณ 740,000 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ประมาณ 240,000 ตัน และขณะนี้ช่วงต้นฤดูเดือนมีนาคม-เมษายน ราคาค่อนข้างสูงเพราะผลผลิตยังออกน้อย เช่น ทุเรียนกระดุม เหมาสวน กิโลกรัมละ 230-265 บาท

แต่อีกด้านหนึ่งก็น่าเป็นห่วงว่าในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผลผลิตจะออกมามาก การตรวจเข้มโควิด-19 ของทางการจีน ซึ่งจีนเป็นตลาดใหญ่ของทุเรียน อาจจะทำให้มีปัญหาการขนส่ง ตู้คอนเทนเนอร์ติดค้างที่ด่านเป็นเวลานาน และทำให้ผลผลิตเสียหาย เช่นเดียวกับที่เคยเกิดกับการส่งออกลำไย

อย่างไรก็ตาม สวพ.6 ร่วมกับสมาคมผู้ประกอบการต่าง ๆ ได้เตรียมการจัดทำมาตรการ Zero Covid เพื่อสร้างความเชื่อมั่นกับจีน พร้อมเสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหาการขนส่ง โดยขอให้จีนเปิด Green Lane ทางบก ทางน้ำ การขอเปิดเส้นทางรถไฟจีน-ลาว ในช่วงเดือนเมษายน พฤษภาคม ตอนนี้เหลือแค่ 60 วัน ที่ทุเรียนฤดูกาลใหม่จะออกมามาก ทางรอดเดียวคือ รัฐบาลต้องเร่งเจรจากับรัฐบาลจีน เพราะทุเรียนทำรายได้กว่า 100,000 ล้านบาท

ขณะที่นางสาวปทุมวดี อิ่มทั่ว อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายเกษตร) ประจำกรุงปักกิ่ง กล่าวว่า หลังการแข่งขันโอลิมปิกทางการจีนยังตรวจโควิด-19 อย่างเข้มงวด และพร้อมจะปิดด่านทางบกได้ตลอดเวลา จึงควรหลีกเลี่ยงไปใช้ทางเรือ อากาศ หรือการขนส่งทางไฮบริด คือ ทางบกไปท่าเรือไฮฟองของเวียดนามไปจีน

ด้านนายภานุศักดิ์ สายพานิช นายกสมาคมสวนทุเรียนไทย กล่าวในเรื่องนี้ว่า ปัจจุบันด่านทางบก 4 ด่าน คือ โหย่วอี้กวน ตงซิน รถไฟผิงเสียง และโม่ฮาน ที่ผ่านมาทางการจีนยังปิด ๆ เปิด ๆ อยู่ โดยเฉพาะด่านโหย่วอี้กวนและรถไฟผิงเสียง ซึ่งเป็นด่านที่ใช้ระบายสินค้าของเวียดนาม

ดังนั้นถ้าทุเรียนเวียดนามออกพร้อมกับทุเรียนไทย ซึ่งทุเรียนไทยก็จะเข้ายากขึ้น ดังนั้นรัฐบาลไทยควรเร่งเจรจากับรัฐบาลจีนเปิดรถไฟจีน-ลาว ให้ทันภายในเดือนเมษายนที่จะถึงนี้ ในการเป็นช่องทางการขนส่งที่สามารถระบายสินค้าได้ เพราะรถไฟสามารถขนส่งสูงสุดได้วันละ 1,000 ตู้ และค่าขนส่งถูกกว่า

ต้นฤดูราคาพุ่ง-จีนเหมาสวน

นายกรีฑา งาเจือ เจ้าของสวนทุเรียนสวนหลงบูรพา อ.เมือง จ.ตราด เปิดเผยว่า ปีนี้ทุเรียนต้นฤดูมีราคาสูงกว่าทุกปีที่ผ่านมา และมีการเหมาสวนตั้งแต่ออกดอก ช่วงธันวาคม 2564-มกราคม 2565 ที่ผ่านมา โดยราคาซื้อขายช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ เช่น กระดุมหน้าแผง กิโลกรัมละ 260-270 บาท กระดุมเหมาสวน 230-265 บาท ขณะที่หมอนทองราคา 220 บาท ราคาซื้อขายตามสัญญาเหมาสวนทุเรียนที่จะตัดปลายเดือนมีนาคมถึงกลางเมษายน กิโลกรัมละ 200-255 บาท

อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าสังเกตว่า ราคาดังกล่าวสูงกว่าราคาทุเรียนที่ส่งออกไปจีนเมื่อปีที่ผ่านมาเกือบ 100% และช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผลผลิตออกมาก ราคาน่าจะลดต่ำลงมาก

“ปีนี้นายหน้านำพ่อค้าจีนมาดูผลผลิตถึงสวนเช่นเดิม หากมีการเหมาสวนจะวางมัดจำ 20-30% และทำสัญญาซื้อขายไว้ ให้ราคาสูงกว่าราคาตลาด ถึงเวลามาขอต่อรองลดราคาหรือทิ้งสัญญา แต่ก็มีเจ้าของสวนบางรายที่รอขายราคาหน้าสวน เพราะมีโอกาสเลือกขายและราคาสูงกว่า”

ขณะที่เจ้าของสวนทุเรียนรายย่อยรายหนึ่งใน อ.เมือง จ.ตราด ให้ข้อมูลว่า ปีนี้มีนายหน้าพ่อค้าคนจีนมาเหมาสวนเช่นเดียวกับปีก่อน แต่การทำสัญญาวางเงินมัดจำน้อยมาก จาก 10% เหลือเพียง 5% ทำให้ชาวสวนไม่กล้าขายเหมา คาดว่าในช่วงผลผลิตออกมาก ๆ ราคาน่าจะลดเหลือกิโลกรัมละ 80-100 บาท

ด้านเจ้าของแผงรับซื้อทุเรียน “โอปอ” อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ให้ข้อมูลว่า ขณะนี้กระดุมราคากิโลกรัมละ 260-270 บาท และหมอนทอง 220-240 บาท แต่คาดว่าในช่วงที่มีผลผลิตออกมากราคาจะลดลงมา 50% ประกอบกับช่วงนั้นจะมีทุเรียนเวียดนามออกมาด้วย ดังนั้นการเหมาสวนอาจจะมีความเสี่ยงในแง่ของการขนส่ง เพราะหากเหมาสวนแล้วต้องตัด แต่ถ้าตู้คอนเทนเนอร์ที่ขนส่งไปไม่ได้ก็ขาดทุน

หวั่นส่งออกมีปัญหาทุบราคาร่วง

นายอุดม วรัญญูรัฐ ที่ปรึกษากลุ่มทุเรียนแปลงใหญ่จันทบุรี เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ราคาเหมาสวนและราคาหน้าแผงทุเรียนต้นฤดูปีนี้ที่สูงถึง 260-270 บาท/กก. สูงกว่าปี 2564 ที่ราคา กก.ละ 150-160 บาท ถ้าเหมาสวน กก.ละ 220-230 บาท (จันทบุรีและตราด เก็บเกี่ยวเดือนมีนาคม ไม่เกิน 5 เมษายน) เนื่องจากผลผลิตมีน้อยและตลาดมีความต้องการ แต่ถ้าหลังสงกรานต์ไปแล้วยังไม่มีราคาและการเหมาสวน ราคาจะน่าเป็นห่วงมาก

เพราะพ่อค้าต้องรอประเมินสถานการณ์ปลายทาง การขนส่ง และช่วงพฤษภาคม ที่ผลผลิตทั้งทุเรียนมังคุด ออกมาก ยังประเมินราคาไม่ได้ แม้จะมีการเตรียมการทั้งทางบก ทางเรือ เครื่องบิน เพราะต้นทุนเพิ่มสูงขึ้นทุกทาง

นายภานุวัชร์ ไหมแก้ว นายกสมาคมส่งออกทุเรียน มังคุด แสดงความเห็นว่า ปีที่ผ่านมาและต้นปี 2565 นี้ ผู้ประกอบการส่งออกลำไยประสบภาวะขาดทุนอย่างหนัก จากปัญหารถขนส่งติดค้างที่ด่าน และเดือนกุมภาพันธ์นี้ บริษัทส่งออกทุเรียนผ่านด่านโหย่าอี้กวน 4 ตู้ ทางเรือ 1 ตู้ ทุเรียนต้นฤดูราคาสูงตู้ละ 4-5 ล้านบาท ขาดทุน 25 ล้านบาท จากการตรวจโควิด-19 เข้ม ทำให้ทุเรียนเข้าจีนล่าช้า ผลผลิตเสียหาย และคาดว่าปีนี้พ่อค้าจีนชะลอการทำธุรกิจ จากการขาดทุนส่งออกลำไย ส่วนทุเรียนคาดว่าจะเหลือบริษัทที่ทำอยู่ไม่มากนัก ทำให้พ่อค้าเปิดการรับซื้อน้อยลง

ประกอบกับรัฐบาลจีนมีนโยบายควบคุมการนำเงินออกนอกประเทศ การทำธุรกิจต้องถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้มีพ่อค้าจีนที่เข้ามาซื้อทุเรียนน้อยลง และในช่วงผลผลิตทุเรียนออกมากหากการส่งออกมีปัญหา จะทำให้ราคาทุเรียนตกลง ตอนนี้ผู้ประกอบการเตรียมตั้งรับ บางรายวิ่งหาห้องเย็นเพื่อการแปรรูป ทำทุเรียนแช่แข็ง ซึ่งในจันทบุรีมีโรงงานน้อย จึงต้องไปเช่าโรงงานในต่างจังหวัด เช่น สมุทรสาคร สมุทรสงคราม

แหล่งข่าวจากวงการส่งออกทุเรียนเปิดเผยว่า ปริมาณทุเรียนที่คาดว่าจะมีผลผลิต 740,000 ตัน ในปีนี้ หลัก ๆ จะเป็นตลาดส่งออก 70-80% ที่เหลือเป็นตลาดในประเทศ 20% และแปรรูป 10% และหากการส่งออกไปจีน ซึ่งเป็นสัดส่วนประมาณ 90% ของการส่งออก มีปัญหา และแม้ว่าจะพยายามเพิ่มสัดส่วนตลาดในประเทศก็คงทำได้ไม่มากนัก หรืออาจจะเพิ่มสัดส่วนตลาดในประเทศได้เป็น 30% อาจจะทำให้ราคาทุเรียนในช่วงเดือนพฤษาคมลดลงเหลือเพียงกิโลกรัมละ 45-50 บาท จากปกติที่ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 80-100 บาท