โออิชิ กรุ๊ป เผยไตรมาส 3 ทำรายได้ 3,369 ล้าน เติบโต 29.5% มีกำไรสุทธิ 358 ล้าน หลังปรับกลยุทธ์การตลาดพร้อมเปิดร้านอาหารโมเดลใหม่ ตอบโจทย์อินไซต์ผู้บริโภค
วันที่ 30 สิงหาคม 2565 นางนงนุช บูรณะเศรษฐกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจรวมถึงธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มในประเทศเริ่มปรับตัวดีขึ้น หลังเปิดประเทศและรัฐบาลประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น แต่บริษัทยังคงเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงรอบด้าน ทั้งจากต้นทุนสินค้าและค่าครองชีพที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นจากสถานการณ์การสู้รบระหว่างรัสเซียและยูเครน
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
โดยที่ผ่านมาบริษัทมีการปรับกลยุทธ์การตลาดให้สอดคล้องกับสถานการณ์และ Consumer Insight ใหม่ ๆ พร้อมเพื่อเน้นเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทสามารถสร้างรายได้และผลกำไรให้เติบโตได้
สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/2565 (1 เมษายน-30 มิถุนายน 2565) บริษัทมีรายได้จำนวน 3,369 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 767 ล้านบาท หรือคิดเป็น 29.5% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยแบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจเครื่องดื่ม 1,957 ล้านบาท เติบโต 7.8% และรายได้จากธุรกิจอาหาร 1,412 ล้านบาท เติบโต 79.4% ขณะที่มีกำไรสุทธิจำนวน 358 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 196 ล้านบาท เติบโตสูงถึง 120.5% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน
ขณะที่ผลการดำเนินงานของบริษัทเติบโตต่อเนื่องในไตรมาสที่ 3 เนื่องจากธุรกิจเครื่องดื่มตอบโจทย์คนรักสุขภาพ ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ โออิชิ กรีนที ฮันนี่ เลมอน น้ำตาล 0% ซึ่งเป็นเครื่องดื่มทางเลือกสุขภาพที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคในปัจจุบัน
ประกอบกับการต่อยอดความสำเร็จแคมเปญ “ดาบพิฆาตอสูร” ซีซั่นแรกที่ได้รับกระแสตอบรับจากผู้บริโภคกลุ่มคนรุ่นใหม่ จึงสร้างสรรค์ซีซั่น 2 ด้วยการออกแบบบรรจุภัณฑ์ลวดลายใหม่ของดาบพิฆาตอสูรในผลิตภัณฑ์ขนาด 350 มล. และ 380 มล. พร้อมทำกิจกรรมโปรโมตยังโรงเรียนต่าง ๆ ในช่วงเวลาเปิดภาคเรียน ส่งผลให้ยอดขายของธุรกิจเครื่องดื่มเติบโตขึ้น
ด้านธุรกิจอาหารเติบโตมาจากการกลับมาเปิดให้บริการตามปกติ โดยเฉพาะในช่องทางบริการรับประทานอาหารที่ร้าน (Dine-in) ส่วนช่องทางการจัดจำหน่ายในรูปแบบ บริการส่งตรงถึงบ้าน ยังคงได้รับความนิยมและสร้างยอดขายที่เติบโตได้เช่นกัน พร้อมเดินหน้าเปิดร้านอาหารรูปแบบใหม่ ๆ เช่น ร้านอาหารญี่ปุ่นจานด่วน โออิชิ บิซโทโระ เจาะคนรุ่นใหม่
โดยเน้นขยายสาขาออกไปอยู่นอกห้าง เพื่อเข้าถึงง่าย สะดวกสบาย และให้ความคุ้มค่า รวมทั้งร้านอาหารแบบ A-la-carte ในรูปแบบชาบูสไตล์ญี่ปุ่น อย่างร้าน ชาบู บาย โออิชิ ด้านผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมปรุงพร้อมทานได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ
โดยได้นำผลิตภัณฑ์เรดี้มีลและกลุ่มซอสปรุงรสบรรจุขวด ขยายไปยังร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต ไฮเปอร์มาร์เก็ต ส่งผลให้เติบโตในช่องทางร้านค้าสมัยใหม่ พร้อมผลักดันการขายเกี๊ยวซ่าและแซนด์วิช จาก โออิชิ อีทโตะ เป็นผลิตภัณฑ์เรือธงสร้างการเติบโตในตลาดต่างประเทศ
สำหรับผลการดำเนินงานใน 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2565 (1 ตุลาคม 2564-30 มิถุนายน 2565) บริษัทมีรายได้รวม 9,362 ล้านบาท เติบโตเป็นจำนวน 1,724 ล้านบาท หรือคิดเป็น 22.6% จาก 9 เดือนแรกของปีก่อน โดยเป็นรายได้จากธุรกิจเครื่องดื่ม 5,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 689 ล้านบาท หรือ 14.6% และรายได้จากธุรกิจอาหาร 3,962 บาท เพิ่มขึ้น 1,035 ล้านบาท หรือ 35.4% ส่วนกำไรสุทธิรวม 1,011 ล้านบาท สูงขึ้นกว่า 485 ล้านบาท หรือ 92% จาก 9 เดือนแรกของปีก่อนจากทั้งธุรกิจเครื่องดื่มและธุรกิจอาหาร