Meta เจาะอินไซต์นักช็อปดิจิทัล วิดีโอ-แชต ตอบโจทย์ผู้บริโภค

ช้อปดิจิทัล ช้อปออนไลน์ e-commerce
Photo by charlesdeluvio on Unsplash

Meta จับมือ เบน แอนด์ คอมปะนี สำรวจผู้บริโภคในอาเซียนเจาะโอกาสการค้าดิจิทัล ชี้คนไทยเปิดรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ดันอีคอมเมิร์ซโตต่อท่ามกลางเศรษฐกิจโลกผันผวน วิดีโอ-แชต ตอบโจทย์นักช็อป แนะธุรกิจเพิ่มน้ำหนัก ออมนิแชนเนล รับเทรนด์ผู้บริโภค

วันที่ 18 ตุลาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยักษ์แพลตฟอร์มโซเชียลเน็ตเวิร์กโลก เมตา (Meta) หรือเฟซบุ๊ก ได้ร่วมกับเบน แอนด์ คอมปะนี สำรวจความคิดเห็นผู้บริโภคดิจิทัลกว่า 16,000 คน และรวบรวมข้อมูลเชิงลึกจากการสัมภาษณ์ผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทต่าง ๆ กว่า 20 คน จาก 6 ประเทศทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และเวียดนาม

เพื่อต่อยอดรายงานฉบับก่อนหน้า ซึ่งคาดการณ์ว่าภายในปี 2565 ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะมีผู้บริโภคดิจิทัลกว่า 370 ล้านคน ขณะที่จะมีประชากรไทยกว่าร้อยละ 72 เข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลได้ภายในปีนี้ และคาดว่าจะผู้บริโภคดิจิทัลในภูมิภาครวมกว่า 402 ล้านคน ภายในปี 2570

และคาดว่าระหว่างปี 2563-2570 ประเทศไทยจะเติบโตขึ้นกว่าร้อยละ 14 แซงหน้าตลาดอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และจีน อ้างอิงข้อมูลจากรายงานประจำปี SYNC Southeast Asia โดย Meta และเบน แอนด์ คอมปะนี เกี่ยวกับเศรษฐกิจดิจิทัลและอนาคตของอีคอมเมิร์ซในภูมิภาค

คนไทยช็อปผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ สูงกว่าค่าเฉลี่ยภูมิภาค

โดยการค้าดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประเทศไทยยังมีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากผู้บริโภคต้องการประสบการณ์การช็อปปิ้งที่ผสมผสานระหว่างออนไลน์ ออฟไลน์ และประสบการณ์อื่น ๆ ได้อย่างลื่นไหลกว่าเคย โดยผู้บริโภคชาวไทยช็อปผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์โดยเฉลี่ยที่ร้อยละ 16.4 ค่าเฉลี่ยสูงกว่าเมื่อเทียบกับตัวเลขเฉลี่ยของภูมิภาคที่ร้อยละ 15.3

ยิ่งไปกว่านั้น ช่องทางอีคอมเมิร์ซทางเลือกอย่างการส่งข้อความเชิงธุรกิจและการช็อปผ่านวิดีโอไลฟ์ ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการเติบโตของอีคอมเมิร์ซในไทย หรือคิดเป็นกว่าร้อยละ 25 ของเม็ดเงินที่ใช้จ่ายทั้งหมดในประเทศ

ขณะที่กลุ่มตัวอย่างเกือบครึ่งหนึ่งระบุว่า โซเชียลมีเดียสร้างการค้นพบผ่านช่องทางออนไลน์ โดยเป็นการค้นพบผ่านรูปภาพ (ร้อยละ 15) วิดีโอ (ร้อยละ 26) และเครื่องมือที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ เช่น การส่งข้อความ เป็นต้น (ร้อยละ 9)

งานวิจัยดังกล่าวยังพบอีกว่าผู้บริโภคมองหาการทดลองและปฏิสัมพันธ์ระหว่างการค้นพบที่จะต่อยอดไปเป็นการสั่งซื้อมากขึ้น โดยร้อยละ 63 ของกลุ่มตัวอย่างระบุว่าได้ส่งข้อความเชิงธุรกิจไปในปีที่ผ่านมา

ขณะที่โซเชียลมีเดียสร้างการค้นพบผ่านช่องทางออนไลน์ถึงเกือบครึ่งในหมู่ผู้บริโภคชาวไทย โดยพบว่าคอนเทนต์วิดีโอในฐานะแพลตฟอร์มโซเชียลที่สร้างการค้นพบใหม่ ๆ มีการเติบโตต่อปีกว่าร้อยละ 50 ในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2563

นอกจากนี้ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังมีการเข้าถึงกระเป๋าเงินดิจิทัล (e-Wallet) สกุลเงินดิจิทัล (cryptocurrency) และสินทรัพย์ดิจิทัล NFT (nonfungible tokens) มากกว่าตลาดอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นจีน สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น โดยร้อยละ 70 ระบุว่าใช้เทคโนโลยีที่มีความเกี่ยวเนื่องกับเมตาเวิร์สอย่างน้อยหนึ่งอย่างในปีที่แล้ว ขณะที่ร้อยละ 74 ของผู้ตอบแบบสอบถามชาวไทยระบุว่าได้ใช้เทคโนโลยีดังกล่าวไปในปีที่ผ่านมา

63% ส่งข้อความเชิงธุรกิจมากขึ้น

นายดิเรก เกศวการุณย์ พาร์ตเนอร์และผู้อำนวยการฝ่ายการดำเนินงานของธุรกิจค้าปลีก เบน แอนด์ คอมปะนี เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า การพัฒนาใหม่ของผู้บริโภคยุคดิจิทัลเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนการเติบโตของอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และธุรกิจที่สร้างช่องทางที่มีการบูรณาการ และพัฒนาศักยภาพที่จำเป็น พัฒนาห่วงโซ่อุปทานให้เข้มแข็ง และใช้ประโยชน์จากเครื่องมือและเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในการเข้าถึงผู้บริโภคดิจิทัล จะเอาชนะคู่แข่งอื่น ๆ ได้

ด้านนางสาวแพร ดํารงค์มงคลกุล Country Director ของ Facebook ประเทศไทย จาก Meta กล่าวว่า การเปิดรับของผู้บริโภคต่อการทดลอง และการสร้างปฏิสัมพันธ์ช่วยขับเคลื่อนพฤติกรรมใหม่ ๆ โดยร้อยละ 63 ของผู้ตอบแบบสอบถามเคยใช้การส่งข้อความเชิงธุรกิจในปีที่ผ่านมา ขณะที่ปัจจุบันผู้บริโภคตามหาการมีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้น

“เรายังได้พบเห็นการเติบโตอย่างรวดเร็วของระบบเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนโดยครีเอเตอร์ภายในภูมิภาค โดยมีครีเอเตอร์ที่เติบโตในฐานะแบรนด์ และช่องทางค้าปลีกมากยิ่งขึ้น และการหาวิธีการทำการตลาดผ่านช่องทางเหล่านี้เป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งต่อธุรกิจในปัจจุบัน”

และเห็นได้ชัดว่าแบรนด์จำเป็นต้องสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้บริโภคผ่านเนื้อหาในรูปแบบวิดีโอ ขณะที่โซเชียลมีเดียยังเป็นช่องทางสำคัญที่ผู้บริโภคใช้ในการตัดสินใจซื้อสินค้าและมีพฤติกรรมในการสลับการใช้งานระหว่างช่องทางต่าง ๆ และแบรนด์ได้สร้างกลยุทธ์ช่องทางที่มีการบูรณาการ เนื้อหาในรูปแบบวิดีโอบนโซเชียลมีเดียจะทำหน้าที่เป็นเส้นด้ายที่เชื่อมต่อช่องทางที่หลากหลายตลอดเส้นทางการซื้อสินค้าเข้าไว้ด้วยกัน