ยักษ์เครื่องดื่มมีรายได้จากการขาย 272,359 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.2% ส่วนกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 26.2% เป็น 34,505 ล้านบาท
วันที่ 26 พฤศจิกายน 2565 บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) แจ้งผลประกอบการปีงบประมาณ 2565 (ต.ค. 64-ก.ย. 65) ต่อตลาดหลักทรัพย์ประเทศสิงคโปร์ ระบุว่า ปีงบฯที่ผ่านมามีรายได้จากการขาย 272,359 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31,816 ล้านบาท หรือ 13.2% จากยอด 240,543 ล้านบาทของปีที่แล้ว
โดยยักษ์เครื่องดื่มระบุว่า การเติบโตนี้เป็นผลจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ที่คลี่คลาย และการผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ ทั้งการท่องเที่ยวและการเปิดผับ-บาร์ หนุนให้อุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และน็อนแอลกอฮอล์ฟื้นตัว
เช่นเดียวกับทุกธุรกิจในพอร์ตของบริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเบียร์ที่เติบโต 23.5%, เครื่องดื่มน็อนแอลกอฮอล์โต 14.6%, ธุรกิจอาหารโต 45.7% ส่วนเหล้าเติบโต 1%
ขณะที่ผลกำไรไปในทิศทางเดียวกัน โดยกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 80,457 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.6% หรือ 8,974 ล้านบาท จากกำไรขั้นต้น 71,483 ล้านบาทเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเป็นของจากกำไรขั้นต้นของธุรกิจเบียร์เพิ่มขึ้น 28.8% เครื่องดื่มน็อนแอลกอฮอล์เพิ่มขึ้น 13.7% ธุรกิจอาหารเพิ่มขึ้น 41.2% อย่างไรก็ตามมีเพียงธุรกิจเหล้าที่กำไรลดลง 0.5%
ส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) อยู่ที่ 53,928 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.7% หรือ 7,299 ล้านบาท จากตัวเลข 46,629 ล้านบาทของปีที่แล้ว เนื่องจาก EBITDA ของธุรกิจเบียร์เพิ่มขึ้น 38.6% เครื่องดื่มน็อนแอลกอฮอล์เพิ่มขึ้น 3.4% ธุรกิจอาหารเพิ่มขึ้น 130.3% และ EBITDA ของบริษัทร่วมเพิ่มขึ้น 78.3%
ด้วยเหตุนี้ทำให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 26.2% หรือ 7,166 ล้านบาท เป็น 34,505 ล้านบาท หลังจากปีที่แล้วมีกำไรสุทธิ 27,339 ล้านบาท โดยกำไรของธุรกิจเบียร์เพิ่มขึ้น 143.6% เครื่องดื่มน็อนแอลกอฮอล์เพิ่มขึ้น 27.8%, ธุรกิจอาหารเพิ่มขึ้น 177.1% บริษัทร่วมเพิ่มขึ้น 91.5%, ในขณะที่ธุรกิจเหล้ากำไรลดลง 1.1%
สำหรับรายได้จากการขายของแต่ละธุรกิจนั้น ธุรกิจเบียร์ทำรายได้สูงสุดด้วยมูลค่า 122,489 ล้านบาท โดยมีปริมาณการขายร่วมซาเบโคของเวียดนามที่ 2,398.8 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 14.5% ในขณะที่ธุรกิจเหล้ามีรายได้ 116,177 ล้านบาท มีปริมาณการขาย 656.8 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 0.1% ส่วนธุรกิจเครื่องดื่มน็อนแอลกอฮอล์ทำรายได้ 17,432 ล้านบาท ด้านธุรกิจอาหารมีรายได้ 16,433 ล้านบาท