จีเอ็มเอ็ม มิวสิค กางแผนปี 2566 ลุยมิวสิกเฟส ตั้งเป้าโกย 3,800 ล้าน

นายภาวิต จิตรกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายธุรกิจ จีเอ็มเอ็ม มิวสิค บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน)

จีเอ็มเอ็ม มิวสิค เผยทิศทางการดำเนินธุรกิจ เน้น 5 กลยุทธ์ ยึด 7 จุด ยุทธศาสตร์ จัดงาน Music Festival ขยายสู่ทุกภูมิภาค ปี 2566 ตั้งเป้าโกย 3,800 ล้านบาท

วันที่ 7 มีนาคม 2566 นายภาวิต จิตรกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายธุรกิจ จีเอ็มเอ็ม มิวสิค บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GRAMMY เปิดเผยว่า GMM MUSIC ตั้งเป้ารายได้ปี’66 เติบโต 25% แตะ 3,800 ล้านบาท จากปีก่อนทำรายได้รวม 3,043 ล้านบาท โดยจะเน้นการเติบโตในทุกส่วนธุรกิจ เสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจเดิม และสร้างโอกาสขยายตัวธุรกิจใหม่ เพื่อตอกย้ำการเป็น MUSIC INFRASTRUCTURE อันดับ 1 พร้อมเน้น 5 Core Focus เป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญ ได้แก่

1.Entertainment Data Intelligence คือการลงทุนแพลตฟอร์มด้าน Big Data เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายผลิต ฝ่ายขาย ฝ่าย Showbiz หรือฝ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดย GMM MUSIC ได้ลงทุนใน Machine Learning และ AI เพื่อเรียนรู้พฤติกรรมของแฟนเพลง ศิลปิน แบรนด์สินค้า ตลอดจนสื่อทุกแขนงที่มีความเกี่ยวพัน นำไปสู่ความแม่นยำสูงสุดในการเลือกใช้ศิลปิน รวมทั้งการหาความสัมพันธ์ด้านต่าง ๆ กับแบรนด์สินค้า หรือสื่อ และอินฟลูเอนเซอร์ที่หลากหลาย

ตลอดจนนำไปสู่เรื่องของการทำ Data Prediction ที่สามารถมองเห็นความต้องการและปริมาณการซื้อบัตรใน Showbiz สาขาต่าง ๆ ได้อย่างแม่นยำก่อนการขาย

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นที่ GMM MUSIC จะเดินหน้าขยาย Music Data สู่ Personalization Commerce ในเร็ววันนี้ และจะเติบโตสู่การเป็น Entertainment Big Data ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศให้ได้โดยเร็วที่สุด

2.No.1 Music Performance in Thai Market สร้างสรรค์และจัดวางแบรนด์ศิลปินให้ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ ขยายกำลังการผลิตเพลงเพิ่มเป็น 500 เพลง 32 อัลบั้ม 160 ซิงเกิล 5,000 เพลย์ลิสต์ต่อปี รวมทั้งรักษามาตรฐานการเป็นค่ายเพลงที่มียอดการสตรีมสูงสุดเป็นอันดับ 1 ของประเทศ ทั้งจากเพลงใหม่และเพลงเก่า

3.Rebuild The New Generation วางเป้าหมายในการสร้างศิลปินใหม่อย่างต่อเนื่อง ทั้งศิลปินร็อก (New Rock Idol), ศิลปินลูกทุ่ง (New Country Idol) และศิลปินพ็อปไอดอล (New Pop Idol) พร้อมเดบิวต์สู่ตลาดมากกว่า 15-20 ศิลปินใหม่

บริษัทยังสร้างเครือข่าย Recruitment ในการเฟ้นหาเด็กรุ่นใหม่เข้ามาเป็นศิลปินฝึกหัด ผ่านความร่วมมือกับมหาวิทยาลัย สถาบันการศึกษา สถาบันสอน ร้อง-เต้น โมเดลลิ่ง มิวสิกคอมมูนิตี้ โปรดิวเซอร์ และผู้จัดในสาขาต่าง ๆ ทั่วประเทศ โดยจะมีการคัดเลือกเข้า-ออกตลอดอย่างต่อเนื่องทั้งปีด้วยหลักสูตรที่เข้มข้นของ GMM ACADEMY

4.Digital Crossover สร้างรายได้ให้เติบโตสูงสุดในกลุ่ม Digital Music ด้วยความเชี่ยวชาญด้าน Digital Performance นำมาต่อยอดในการสร้าง Performance ที่สูงขึ้นในทุกสื่อโซเชียลมีเดียของค่ายและศิลปิน อีกทั้งเชื่อมโยงโอกาสระหว่าง Music Marketing, Music Optimization และ Music Playlist ให้เกิดการเติบโตทั้งด้านรายได้ และพฤติกรรมการฟังเพลงของผู้บริโภค

5.No.1 Showbiz in Thailand ยึด 7 จุด ยุทธศาสตร์ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ด้าน Music Festival-Indoor Concert ที่ดีที่สุด ใหญ่ที่สุด มีศิลปินมากที่สุด และมียอดผู้ชมมากที่สุดขยายเข้าสู่โอกาสใหม่ ในการสอดแทรกเข้าสู่งานเทศกาลประจำจังหวัด งานฮัลโลวีน งาน LGBTQ+ งานเทศกาลดนตรีระดับสากล คอนเสิร์ต และงานแฟนมีตติ้ง โดยตั้งเป้ารายได้ปี 2566 ไว้ที่ 900 ล้านบาท

GMM เน้นการใช้ Big Data ในการทำตลาด พร้อมประกาศเป็นเบอร์ 1 ของธุรกิจ Showbiz ในไทย

“เรามีความเชื่อมั่นว่าการเติบโตที่ยั่งยืน คือหัวใจที่สำคัญที่สุดในการดำเนินธุรกิจในตอนนี้ รวมทั้งยังให้ความสำคัญในคุณค่าของศิลปิน ทีมงาน ทั้งเบื้องหน้า เบื้องหลัง และพนักงานทุกคน ที่จะอยู่ในวิชาชีพที่มีแรงบันดาลใจ และต้องการความมั่นคงในธุรกิจ บวกกับความพร้อมที่จะร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ

ไม่ว่าจะเป็นสื่อต่าง ๆ ค่ายนอก, โปรโมเตอร์, แพลตฟอร์ม, คู่ค้าทางธุรกิจ หรือแบรนด์สินค้าต่าง ๆ เพื่อที่จะมุ่งมั่นทำให้อุตสาหกรรมเพลงไทยเติบโตได้อย่างแข็งแรง ต่อเนื่อง และยั่งยืน” นายภาวิตกล่าว