สถาบันโรคผิวหนังยุคใหม่ ผุดคลินิกชิงตลาด3หมื่นล้าน

แฟ้มภาพ

สถาบันโรคผิวหนังโดดชิงธุรกิจความงาม 3 หมื่นล้าน เปิดศูนย์บริการผิวหนังรูปแบบพิเศษชนคลินิกความงามเอกชน พร้อมชูจุดขาย ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง-เครื่องมืออุปกรณ์ทันสมัย ราคาเบากระเป๋า ร่อนจดหมายถึงกระทรวง ทบวง กรม ชวนข้าราชการทำสวย ชี้บางรายการเบิกได้ตามสิทธิ์

ถึงวันนี้ ว่ากันว่า ตลาดคลินิกความงามและผิวหนังมีมูลค่าตลาดรวมถึง 2-3 หมื่นล้านบาท และขยายตัวต่อเนื่องทุกปี สะท้อนจากจำนวนคลินิกความงามทั้งรายเล็ก รายใหญ่ ที่ขยายสาขาเพิ่มทุกปี ขณะที่โรงพยาบาลเอกชนหลาย ๆ แห่งก็หันมาให้ความสำคัญกับตลาดนี้ด้วยการเปิด “ศูนย์ผิวหนังและความงาม” ขึ้นมารองรับดีมานด์ที่มีมากขึ้น ล่าสุด เมื่อช่วงต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา สถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้เปิดบริการเพื่อเป็นทางเลือกให้กับประชาชนทั่วไป ด้วยการเปิดคลินิกพิเศษขึ้นมารองรับโอกาสนี้ด้วย

เปิดคลินิกพิเศษรับตลาดโต

แพทย์หญิงมิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ปัจจุบันตลาดความงามในไทยเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปีและเป็นตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็ว สำหรับสถาบันโรคผิวหนัง ซึ่งมีนโยบายหลักในเรื่องของเน้นการรักษา การวิจัย และผลิตแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังเพื่อรองรับความต้องการที่มีมากขึ้น

ขณะเดียวกัน สถาบันโรคผิวหนังก็ต้องปรับตัวและเร่งพัฒนาบุคลากรให้ได้มาตรฐาน สามารถแข่งขันในตลาดได้ ล่าสุดได้ทดลองเปิดคลินิกพิเศษขึ้น โดยใช้ชื่อว่า “ศูนย์บริการผิวหนังรูปแบบพิเศษ” สาขาอาคาร DMS6 ตั้งอยู่ในพื้นที่กระทรวงสาธารณสุข เพื่อเป็นศูนย์รักษาและวิจัยทางการแพทย์และเพิ่มช่องทางการเข้าถึงบริการสำหรับข้าราชการและประชาชนทั่วไป

คลินิกพิเศษนี้มีบริการที่หลากหลาย ตั้งแต่การรักษาสิว ฝ้า ผื่นคัน ลมพิษ ผมร่วง สะเก็ดเงิน ลดอาการนอนกรน ตลอดจนบริการด้านความสวยความงาม เช่น โบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ ยกกระชับสัดส่วน กระชับผิวกาย หน้าใส เป็นต้น ด้วยเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัยเช่นเดียวกับคลินิกและโรงพยาบาลเอกชน และในเร็ว ๆ นี้เตรียมจะเปิดให้บริการใหม่เพิ่มอีกหลายรายการ อาทิ การรักษาผู้ป่วยด้วยออกซิเจนความดันบรรยากาศสูง การยกกระชับช่องคลอด เป็นต้น

ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง ระบุว่า ตอนนี้แม้ยังไม่ได้ประชาสัมพันธ์คลินิกพิเศษอย่างเป็นทางการ แต่หลังจากเปิดบริการเมื่อวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมาก็มีผู้เข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก ทั้งกลุ่มข้าราชการและประชาชนทั่วไป จากเดิมที่คาดว่าจะมีเฉพาะกลุ่มข้าราชการเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ด้วยทำเลที่ตั้งของศูนย์บริการที่อยู่ในสถานที่ราชการ จึงได้ปรับเวลาการให้บริการเป็น 10.00-13.30 น. จากเดิมที่จะเปิด 10.00-12.00 น.เท่านั้น นอกจากนี้ยังอำนวยสะดวกให้ผู้ที่จะเข้ารับบริการสามารถลงทะเบียนจองชื่อเข้าใช้บริการผ่านช่องทางออนไลน์ด้วย

“เป้าหมายอีกอย่างหนึ่งของคลินิกนี้ คือ เพื่อรองรับกลุ่มประชากรสูงอายุที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เพื่อทำให้คนกลุ่มนี้มีสุขภาพจิตที่ดี รูปร่างหน้าตาสมวัย ซึ่งหลังเปิดคลินิกมาพบว่า มีกลุ่มคนที่มีอายุ 40-50 ปี เข้ามาใช้บริการจำนวนมาก”

คุณภาพดี-ราคาไม่แพง

แพทย์หญิงมิ่งขวัญย้ำว่า คลินิกพิเศษนี้สามารถแข่งขันกับคลินิกเอกชนได้ นอกจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านผิวหนัง และเครื่องมืออุปกรณ์ทันสมัย และที่สำคัญคือ ราคาค่าบริการไม่แพง เพราะมีกรอบกำหนดว่าราคาบริการจะต้องไม่สูงกว่า 15% ของต้นทุน

โดยอัตราค่าบริการ ราคาเฉลี่ยจะเริ่มต้นตั้งแต่ 60-10,000 บาท/ครั้ง เช่น บริการฉีดยารักษาสิว แผลเป็นใต้ผิวหนัง 60 บาท เลเซอร์เฉพาะจุดเริ่มต้น 500 บาท เลเซอร์ทั่วหน้า 2,000 บาท เลเซอร์กำจัดขน บริเวณแก้ม 1,500 บาท เลเซอร์กำจัดขน หนวด 1,000 บาท เลเซอร์กำจัดขนรักแร้ 2 ข้าง 2,000 บาท เลเวอร์กำจัดขน ส่วนเกินขอบขา 1,500 บาท ฉีดโบท็อกซ์ ค่าฉีดขวดละ 50 ยูนิต 1,000 บาท (ไม่รวมค่ายา) ฉีดฟิลเลอร์ 1 มล. 1,000 บาท (ไม่รวมค่ายา) เป็นต้น และคิดค่าผู้ป่วยนอก ในเวลาราชการครั้งละ 100 บาท

“ตอนนี้เรามีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ 30 คน ที่หมุนเวียนกันให้บริการ 3 คลินิก ได้แก่ สถาบันโรคผิวหนัง อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และอาคารรัฐประศาสนภักดี ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ และ DMS6 ถือเป็นอีกทางเลือกให้แก่ผู้บริโภค เช่น ถ้าต้องการฉีดโบท็อกซ์ ก็สามารถนำราคาของเราไปเทียบกับคลินิกเอกชนได้ และถ้าราคาคลินิกเอกชนสูงก็อาจจะเลือกที่ใหม่ หรือมาใช้บริการที่กับสถาบันโรคผิวหนัง”

ข้าราชการ “ทำสวย” เบิกได้

แพทย์หญิงมิ่งขวัญกล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากเรื่องของค่าบริการที่ไม่สูงและมีราคาที่ถูกกว่าคลินิกเอกชน หรือโรงพยาบาลเอกชนทั่ว ๆ ไปแล้ว สำหรับคลินิกพิเศษนี้ หากเป็นข้าราชการก็จะสามารถใช้สิทธิ์เบิกค่ารักษาได้ตามข้อกำหนดของกรมบัญชีกลาง และตามคำวินิจฉัยของแพทย์ ยกตัวอย่างเช่น การตัดไฝ ถือเป็นบริการความงาม ซึ่งปกติไม่สามารถเบิกหรือใช้สิทธิ์สวัสดิการข้าราชการได้ แต่ถ้าแพทย์วินิจฉัยว่า ไฝ นั้นเป็นเซลล์มะเร็ง ก็จะสามารถเบิกได้ เป็นต้น หรือกรณีของโรคสะเก็ดเงิน ภูมิแพ้ ก็สามารถเบิกค่ารักษาได้ตามสิทธิ์ข้าราชการ ส่วนบริการความสวยความงาม เช่น โบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ เป็นต้น ไม่สามารถเบิกค่ารักษาได้


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ผ่านมา ในโอกาสเปิดศูนย์บริการโรคผิวหนังรูปแบบพิเศษ สาขา DMS6 ที่กระทรวงสาธารณสุข สถาบันโรคผิวหนังยังได้ส่งจดหมายถึงหน่วยงานราชการต่าง ๆ เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ข้าราชการในกระทรวงต่าง ๆ ได้รู้จักและเข้ามาใช้บริการ พร้อมแนบเอกสารอัตราค่าบริการด้วย