อนุทิน คิกออฟปลูกฟ้าทะลายโจร ปั้นเป็นพืชเศรษฐกิจ-ยาทางเลือกรักษาโควิด

ฟ้าทะลายโจร

อนุทิน เปิดโครงการคิกออฟปลูกฟ้าทะลายโจร จ.อุทัยธานี ปั้นเป็นยาทางเลือกร่วมรักษาโควิด ตั้งเป้า ส.ค.-ก.ย.ส่งมอบต้นกล้า 3 สายพันธุ์ที่ให้สารแอนโดรกราโฟไลด์สูงปลูก 8 จังหวัด รวม 8.2 แสนต้น พร้อมมอบ รพ.สต.ช่วยปลูก เพิ่มซัพพลายในตลาด ป้องกันขาดแคลน อนาคตดันขึ้นแท่นพืชเศรษฐกิจ

วันที่ 7 สิงหาคม 2564 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และแพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ร่วมพิธีเปิด (Kick Off) โครงการส่งเสริมการปลูกพืชสมุนไพร (ฟ้าทะลายโจร) สู้ภัยโควิด 19 ของสมาชิกสหกรณ์อุทัยธานี

พร้อมมอบต้นกล้าฟ้าทะลายโจรให้โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลใน 8 อำเภอเพื่อนำไปปลูก และร่วมปลูกฟ้าทะลายโจร 3 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์พื้นเมือง สายพันธุ์พิษณุโลก 5-4 และสายพันธุ์พิจิตร 4-4

โดยนายอนุทิน กล่าวว่า ผลจากการศึกษาวิจัยสมุนไพรไทยเพื่อใช้เป็นยาทางเลือกในการรักษาผู้ติดเชื้อโควิด 19 พบว่า สมุนไพรฟ้าทะลายโจรสามารถยับยั้งเชื้อไวรัสและมีฤทธิ์ต้านการเพิ่มจำนวนของเชื้อไวรัส หากนำมาใช้รักษาร่วมกับการแพทย์แผนปัจจุบันในผู้ติดเชื้อโควิด 19 ที่มีระดับความรุนแรงน้อย และไม่มีภาวะปอดอักเสบ

ทั้งนี้ ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักมีอาการดีขึ้นตามลำดับ และแทบไม่พบผลข้างเคียงอีกด้วย ขณะนี้ได้บรรจุยาฟ้าทะลายโจรเข้าสู่บัญชียาหลักแห่งชาติแล้ว สามารถเบิกจ่ายได้ โดยขอให้ใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์

อย่างไรก็ดี สาธารณสุขร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ผนึกกำลังขับเคลื่อนนโยบายการขยายพื้นที่ปลูกฟ้าทะลายโจร เพื่อป้อนเป็นวัตถุดิบในกระบวนการแปรรูปเข้าสู่ตลาด

โดยช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน 2564 มีแผนการส่งมอบต้นกล้าฟ้าทะลายโจร 3 สายพันธุ์ คือ สายพันธุ์พิจิตร 4-4 , สายพันธุ์พิษณุโลก 5-4 และสายพันธุ์พื้นเมือง จำนวน 828,500 ต้น ให้สหกรณ์การเกษตรในพื้นที่ 8 จังหวัด จังหวัดละ 10 ไร่ รวม 80 ไร่ ในพื้นที่จังหวัด อุทัยธานี นครสวรรค์ พิจิตร เชียงใหม่ เพชรบูรณ์ กาฬสินธุ์ ศรีสะเกษ และสงขลา

โครงการนี้ถือเป็นการคิกออฟส่งเสริมการปลูกฟ้าทะลายโจรให้เป็นพืชเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้กับเกษตรกร และสมาชิกสหกรณ์กลุ่มเกษตรกร

นอกจากนี้ ยังมอบต้นกล้าฟ้าทะลายโจรให้ รพ.สต.ในจังหวัดต่าง ๆ ปลูกด้วย ทั้งหมดเพื่อเพิ่มการใช้สมุนไพรไทยเป็นทางเลือกในการบำบัด ควบคุม และรักษาโรค

รวมไปถึงช่วยเพิ่มปริมาณฟ้าทะลายโจรในตลาด ไม่ให้เกิดการหาผลประโยชน์จากการกักตุน ทำให้ราคามีความสมดุล ลดความตระหนกว่าจะขาดแคลนซึ่งยืนยันว่ากระทรวงสาธารณสุขจะพยายามทุกวิถีทางให้มียา เวชภัณฑ์เพียงพอในการสู้ภัยโควิด