ไทยเบฟ ผนึก ไทยยูเนี่ยน ส่งซุปทูน่าสกัดบุกตลาดเครื่องดื่มสุขภาพ

ไทยเบฟฯ ผนึก ไทยยูเนี่ยน ตั้งบริษัทใหม่ “ฟู้ด แอนด์ เบฟเวอเรจ ยูไนเต็ด” ลุยพัฒนานวัตกรรมอาหาร-เครื่องดื่มสุขภาพ ล่าสุดทุ่ม 200 ล้าน เปิดตัว “ซี ทูน่า เอสเซนส์” ซุปปลาทูน่าสกัดครั้งแรกของบริษัทและของโลก ประกาศเดินหน้ารุกตลาดเต็มสูบทั้งออนไลน์-ออฟไลน์ หวังแจ้งเกิดเซ็กเมนต์ใหม่เครื่องดื่มสกัดเสริมสุขภาพหมื่นล้าน

หลังปีที่ผ่านมา บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ธุรกิจเครื่องดื่มรายใหญ่ของกลุ่มเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี และบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU ผู้ผลิตทูน่ารายใหญ่ของนายธีรพงศ์ จันศิริ จับมือกันก่อตั้ง บริษัท ฟู้ด แอนด์ เบฟเวอเรจ ยูไนเต็ด จำกัด

ด้วยทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท เพื่อพัฒนาและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหาร และเครื่องดื่มบำรุงสุขภาพ เพื่อตอบรับกับเทรนด์ health & wellness ของผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ ล่าสุดฟู้ด แอนด์ เบฟเวอเรจ ได้ลอนช์สินค้าเข้าสู่ตลาดอย่างเป็นทางการ

นายธารินทร์ รินธนาเลิศ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟู้ด แอนด์ เบฟเวอเรจ ยูไนเต็ด จำกัด เปิดเผยว่า การผนึกความร่วมมือกันในครั้งนี้เป็นการตอกย้ำพันธกิจของทั้งสองบริษัทในการเป็นผู้นำธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มครบวงจรของภูมิภาคอาเซียนของไทยเบฟเวอเรจ และการเป็นผู้ผลิตอาหารทะเลชั้นนำของไทยยูเนี่ยนในการเดินหน้าสร้างโอกาสทางการตลาดผ่านจุดแข็งของทั้งสองบริษัทร่วมกัน

ล่าสุดได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพรูปแบบใหม่ ซี ทูน่า เอสเซนส์ (ZEA Tuna Essence) ซุปปลาทูน่าสกัด ออกมารุกตลาดเป็นผลิตภัณฑ์แรกของบริษัท และเป็นนวัตกรรมซุปปลาทูน่าสกัดแบรนด์แรกของโลก มี 2 รสชาติ ได้แก่ ออริจินอล เข้มข้น กลมกล่อม และแพชชั่นฟรุต อร่อย ดื่มง่าย ราคาขวดละ 47 บาท วางจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ และช่องทางการขายออนไลน์

ปัจจุบันตลาดเครื่องดื่มสกัดเสริมสุขภาพมีมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท ประกอบด้วยเครื่องดื่มซุปไก่สกัด เครื่องดื่มรังนก เครื่องดื่มผลไม้สกัดเข้มข้น และเครื่องดื่มฟังก์ชั่นนอลอื่น ๆ และโอกาสจะเติบโตอีกมากจากเทรนด์สุขภาพ

โดยที่ผ่านมาตลาดมีการเติบโต 3-5% มาโดยตลอด แต่ชะงักไปในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยบริษัทเห็นว่ายังมีโอกาสมาก เนื่องจาก penetration rate ของตลาดนี้ยังคงต่ำอยู่ จึงสร้างนวัตกรรมซุปปลาทูน่าสกัดมาเป็นทางเลือกใหม่ พร้อมวางโพซิชั่นเป็นเซ็กเมนต์ใหม่ในตลาดเครื่องดื่มสกัดเสริมสุขภาพของประเทศไทย

พร้อมกันนี้ยังได้ทุ่มงบฯการตลาดกว่า 100 ล้านบาท ในการสื่อสารแบรนด์อย่างครบวงจรทั้งออนไลน์-ออฟไลน์ ในการตอบโจทย์เทรนด์สุขภาพของผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ สร้างการรับรู้และให้เกิดการทดลองผลิตภัณฑ์

เริ่มตั้งแต่การเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา “โลกเปลี่ยนไปแล้ว” มี “อาเล็ก-ธีรเดช เมธาวรายุทธ” เป็นพรีเซ็นเตอร์ ควบคู่กับการจัดกิจกรรมให้ผู้บริโภคทั่วประเทศได้ทดลองดื่มมากกว่า 300,000 คน ตลอดทั้งปี ก่อนจะต่อยอดด้วย online campaign รวมถึงเสริมการรับรู้ผลิตภัณฑ์ให้มากขึ้นผ่านสื่อเคลื่อนที่ สื่อนอกบ้าน เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากกว่า 15 ล้านคนทั่วประเทศ

ด้าน ดร.ธัญญวัฒน์ เกษมสุวรรณ กรรมการ บริษัท ฟู้ด แอนด์ เบฟเวอเรจ ยูไนเต็ด และผู้อำนวยการกลุ่มด้านนวัตกรรม บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ในส่วนของการผลิต บริษัทได้ทุ่มงบฯกว่า 100 ล้านบาท ในการลงทุนสร้างไลน์การผลิตใหม่ที่โรงงานโออิชิ นวนคร เป็นการนำจุดแข็งของทั้ง 2 บริษัททั้งด้านประสบการณ์และโนว์ฮาว กระบวนการผลิตระดับโลกมาพัฒนาเป็นสินค้าที่ตอบโจทย์สุขภาพ


และยังผ่านการทดสอบคุณภาพและคุณค่าสารอาหาร จาก Japan Food Research Laboratories สถาบันวิจัยอาหารชั้นนำของญี่ปุ่น โดยเน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายคนวัยทำงาน อายุ 22-40 ปี ที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต้องการสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง นอกจากนี้ บริษัทยังมีเป้าหมายในการพัฒนาสินค้านวัตกรรมใหม่ทั้งอาหารและเครื่องดื่มรองรับเทรนด์สุขภาพอย่างต่อเนื่อง