ตรุษจีนซึม-สินค้าแห่ขึ้นราคา “ทอง” แพงสวนทาง-ห้างไม่คึกคัก

อัพเดตข้อมูล 27 มกราคม 2565 เวลา 14.45 น.

ค้าปลีก “ห้าง-ซูเปอร์มาร์เก็ต” หวั่นปัจจัยลบรุมเร้า ปมสินค้าดาหน้าขึ้นราคา-กำลังซื้ออ่อนแรง ทำมู้ดจับจ่ายตรุษจีนกร่อย เร่งจัดโปรโมชั่น-จับมือซัพพลายเออร์ตรึงราคาสู้ หวังปลุกบรรยากาศจับจ่าย ตลาดทองคำเริ่มเห็นสัญญาณดี นายกสมาคมค้าทองคำคาดการณ์ซื้อขายคึกคักกว่าปีก่อน

เป็นที่รับรู้กันดีว่าที่ผ่านมา เทศกาลตรุษจีน หากในสถานการณ์ปกติจะเป็นช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองและมีการจับจ่ายอย่างคึกคัก และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี และอีกด้านหนึ่งก็จะเป็นโอกาสทองของผู้ประกอบการต่าง ๆ ทั้งซัพพลายเออร์ และช่องทางจำหน่ายต่าง ๆ โดยเฉพาะผู้ประกอบการค้าหลากหลาย ทั้งห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต ฯลฯ ที่จะจัดกิจกรรมขึ้นมารองรับ

แต่สำหรับปีนี้ดูเหมือนว่านอกจากปัจจัยลบจากผลพวงจากพิษโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบกับภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อแล้ว ความเคลื่อนไหวของราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่ทยอยปรับตัวอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา จนทำให้หลาย ๆ ฝ่ายเกรงว่าจะทำให้บรรยากาศการค้าขายช่วงเทศกาลตรุษจีนที่กำลังจะมาถึงไม่คึกคักเท่าที่ควร

ห่วงโอมิครอน-กำลังซื้อ

นางสาววรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวในเรื่องนี้ว่า แม้ตรุษจีนจะเป็นอีเวนต์แรกของปีที่ปลุกกำลังซื้อ แต่ด้วยสถานการณ์ด้านตัวแปรที่ไม่แน่นอนในขณะนี้ ทำให้ประเมินเรื่องตัวเลขในไตรมาสแรกได้ยาก อย่างไรก็ตาม คาดว่าภาพรวมกำลังซื้อในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้จะดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา หากไม่มีสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดโอมิครอนเข้ามากระทบ รวมถึงต้องจับตาปัจจัยลบในเรื่องของเงินเฟ้อที่อาจจะกระทบต่อกำลังซื้อในช่วงเทศกาลที่จะถึงนี้ด้วย

นางสาววรลักษณ์ยอมรับว่า ปัญหาราคาสินค้าที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงปัญหาราคาหมูที่พุ่งสูงขึ้น อาจจะมีผลต่อการจับจ่ายช่วงตรุษจีนบ้าง ทำให้ผู้ประกอบการต้องมีการจัดโปรโมชั่นขึ้นมารองรับ รวมถึงการจับมือกับพาร์ตเนอร์ที่เป็นซัพพลายเออร์สินค้าที่จำเป็นเพื่อตรึงราคาให้มากที่สุด เพื่อช่วยผู้บริโภคและกระตุ้นการจับจ่าย

“ตอนนี้ในส่วนของชุดไหว้มีปรับราคาบ้างเล็กน้อย แต่บริษัทก็ต้องยอมลดกำไรบางส่วนเพื่อซัพพอร์ตลูกค้า และพยายามประคองในราคาที่ไม่ต่างจากเดิมมาก หากไม่มีปัจจัยลบเข้ามากระทบมากนัก เชื่อว่าในส่วนของเดอะมอลล์เองน่าจะมีเม็ดเงินสะพัดในช่วงตรุษจีนนี้ไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท”

นางสาววรลักษณ์ยังกล่าวด้วยว่า ในช่วงต้นปีที่ผ่านมากำลังซื้อในภาพรวมได้รับผลกระทบจากโอมิครอนบ้าง แต่การมีมาตรการ “ช้อปดีมีคืน” (สิ้นสุดโครงการ 15 ก.พ.นี้) ซึ่งสามารถลดหย่อนภาษีสูงสุด 30,000 บาท ก็ทำให้สามารถพยุงสถานการณ์ไว้ได้บ้าง ทำให้ช่วงเดือน ม.ค. 2565 เดอะมอลล์มียอดเติบโต 30% จากแคมเปญดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม โดยส่วนตัวประเมินว่าตรุษจีนปีนี้ดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากมองว่าการระบาดของโอมิครอนเชื่อว่าน่าจะสามารถควบคุมได้ และคงต้องรอประเมินในช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ และช่วงซัมเมอร์อีกครั้งว่ากำลังซื้อโดยรวมจะเป็นอย่างไร

กัดฟันตรึงราคาปลุกจับจ่าย

นายศุภวุฒิ ไชยประสิทธิ์กุล ผู้อำนวยการใหญ่บริหารสินค้าซูเปอร์มาร์เก็ต บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า การแข่งขันของตลาดชุดเซ่นไหว้ตรุษจีนปีนี้ อาจจะไม่ต่างจากปีที่ผ่านมามากนัก เนื่องจากยังมีตัวแปรด้านการระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนที่ส่งผลกระทบต่อการจับจ่ายและการซื้อสินค้า เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงไตรมาส 4/2564 ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการต่าง ๆ ได้มีการปรับตัวให้สอดรับกับสถานการณ์ โดยช่วงตรุษจีนที่เป็นไฮซีซั่น ทั้งสินค้าและช่องทางการจำหน่ายได้หันมาให้น้ำหนักกับช่องทางออนไลน์มากขึ้น เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้ลูกค้า ทำให้ประเมินว่าภาพรวมการจับจ่ายในปีนี้น่าจะคึกคักพอสมควร

อย่างไรก็ยังคงต้องติดตามสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 รวมถึงมาตรการในการควบคุมของภาครัฐอีกครั้ง หากมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลตรุษจีนก็อาจจะทำให้มีผลกระทบต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภค โดยในส่วนของกูร์เมต์ มาร์เก็ต ก็ได้จัดแคมเปญขึ้นมารองรับทั้งชุดไหว้ อุปกรณ์การไหว้ เน้นราคาที่คุ้มค่า คาดว่าช่วงเทศกาลนี้จะสามารถทำรายได้กว่า 280 ล้านบาท

“ปีที่ผ่านมาเรามียอดเฉลี่ยการสั่งซื้อชุดเซ่นไหว้อยู่ที่ 1,500 บาทต่อใบเสร็จ ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าพอใจจากสถานการณ์กำลังซื้อและปัจจัยลบต่าง ๆ ที่เข้ามากระทบ โดยในส่วนของปีนี้เองประเมินว่าหากไม่มีปัจจัยลบด้านการระบาดของโอมิครอนที่เพิ่มสูงขึ้น เชื่อว่าการจับจ่ายน่าจะเพิ่มสูงขึ้น แต่หากตัวเลขการระบาดเพิ่มสูงขึ้นก็เป็นสิ่งที่น่ากังวล”

นางสุจิตา เพ็งอุ่น รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายปฏิบัติการ-Large Format บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ปัจจุบันส่งผลกระทบทั้งภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อ ขณะที่การปรับขึ้นราคาสินค้าจากปัญหาวัตถุดิบและซัพพลายเชนส่งผลต่อค่าครองชีพสูงขึ้น และส่งผลต่อการจับจ่ายที่ไม่คล่องตัวเหมือนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นสิ่งที่น่ากังวล

ดังนั้นเพื่อรับมือกับปัญหาดังกล่าว พร้อมทั้งกระตุ้นการจับจ่ายในช่วงเทศกาลตรุษจีนให้คึกคักขึ้น บริษัทจะยังไม่มีการปรับขึ้นราคาสินค้าแต่อย่างใด แต่จะเน้นการจัดชุดไหว้แบบพอเหมาะ และสินค้าจำเป็นในราคาประหยัด เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ด้านกำลังซื้อ และเป็นการช่วยลดค่าครองชีพของประชาชนอีกด้านหนึ่ง

“หลัก ๆ เราจะเน้นเรื่องความคุ้มค่าเป็นอันดับแรก เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ลูกค้าออกมาจับจ่ายและไม่เป็นภาระแก่ค่าครองชีพของผู้บริโภค นอกจากนี้ยังมีการสร้างอารมณ์ร่วมในการช็อปด้วยการตกแต่งบรรยากาศและจัดกิจกรรมภายในร้าน พร้อมทั้งได้เชื่อมแพลตฟอร์มการช็อปปิ้ง physical stores และช่องทาง e-Commerce ไว้ด้วยกัน เพื่อรองรับความต้องการในช่วงนี้ด้วย”

คาดตลาดทองคำคึกคักกว่าปีก่อน

นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้คาดว่าจะมีการซื้อขายทองคำที่คึกคักขึ้น โดยมีโอกาสที่การซื้อขายทองคำจะมากขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงตรุษจีนปีที่แล้ว เนื่องจากช่วงต้นปี 2564 การระบาดของสถานการณ์โควิด-19 ยังคงหนัก ซึ่งส่งผลทำให้กำลังซื้อลดน้อยลง

ส่วนราคาทองคำในช่วงตรุษจีนนี้อาจจะไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก โดยทั้งทองคำรูปพรรณและทองคำแท่ง ณ ปัจจุบัน ราคาอยู่ที่ประมาณ 28,000-29,000 บาท

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงต้องคอยจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ว่าจะมีท่าทีปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อไหร่ รวมถึงข่าวความตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับรัสเซีย ในประเด็นยูเครน ที่ส่งผลทำให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นมาเล็กน้อย และอาจเป็นประเด็นที่หนุนให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำมากขึ้นในระยะนี้

เช่นเดียวกับ นายธนรัชต์ พสวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มฮั่วเซ่งเฮง ที่กล่าวไปในทิศทางเดียวกันว่า ตรุษจีนปีนี้คาดว่าจะมีการซื้อขายทองคำที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากเริ่มที่จะเห็นวอลุ่มการซื้อขายเพิ่มขึ้นตั้งแต่ในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา และคาดว่าปีนี้จะมีการซื้อขายทองคำที่คึกคักกว่าปีที่แล้ว แม้ปีนี้แม้จะยังมีสถานการณ์โควิด-19 อยู่ แต่คนก็ออกนอกบ้านมากกว่าปีก่อน และโดยปกติในช่วงเทศกาลตรุษจีนของทุกปี ๆ ก็จะเป็นช่วงที่จะมีการซื้อขายทองคำเพิ่มขึ้นกว่าช่วงปกติอยู่แล้ว