ซับเวย์ฯ มอบสิทธิมาสเตอร์แฟรนไชส์ในไทย ให้ “อะเบาท์ แพสชั่น กรุ๊ป” ดันธุรกิจโต

“ซับเวย์” อินเตอร์เนชั่นแนล มอบสิทธิมาสเตอร์แฟรนไชส์ในไทยแต่เพียงผู้เดียวให้ “อะเบาท์ แพสชั่น กรุ๊ป” ผลักดันธุรกิจร้านอาหารบริการด่วน พร้อมเดินหน้าขยายสาขาเพิ่มไม่ยั้ง

วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2565 นายจอห์น ชิดซีย์ ประธานกรรมการบริหาร ซับเวย์ อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดเผยว่า ล่าสุด ซับเวย์ฯธุรกิจร้านอาหารบริการด่วน (QSR) และ Casual Dining ได้มอบสิทธิ Master Franchise แต่เพียงผู้เดียว ให้แก่ บริษัท อะเบาท์ แพสชั่น กรุ๊ป จำกัด เพื่อผลักดันการเติบโตของร้านซับเวย์ในประเทศไทย ให้ขยับเข้าสู่เป้าหมายการขยายธุรกิจในภูมิภาคเอเชีย-แฟซิฟิกมากขึ้น

จอห์น ชิดซีย์
จอห์น ชิดซีย์

โดยที่ผ่านมา ซับเวย์ฯ ประเทศไทย มองเห็นถึงความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้น และเชื่อว่าการที่ผนึกกำลังร่วมกับ บริษัทที่มีความเข้าใจในโครงสร้างธุรกิจของซับเวย์ฯและประสบความสำเร็จในการดำเนินงานกับทุกสาขาและเชื่อมั่นว่าอะเบาท์ แพสชั่น จะสามารถสร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของซับเวย์ในประเทศไทยให้เกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน

สำหรับ บริษัท อะเบาท์ แพสชั่น กรุ๊ป จำกัด เป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มของประเทศไทย ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว และประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจร้านอาหารบริการด่วน (QSR) โดยความร่วมมือครั้งนี้ จะสร้างการเติบโตของร้านอาหารซับเวย์ฯให้เพิ่มขึ้นมากกว่า 700 สาขาหรือกว่า 5 เท่า ใน 10 ปีข้างหน้า โดยจะมุ่งเน้นทำเลที่สะดวกและเข้าถึงง่าย และมองเห็นเด่นชัด รวมถึงรูปแบบไดร์ฟทรู และ Grab & Go หรือตู้ Kiosk ก็จะนำมาใช้ด้วยเช่นกัน ปัจจุบันซับเวย์ฯมีอยู่ 130 สาขาทั่วกรุงเทพฯ

อีกทั้งต่อจากนี้สาขาที่เปิดใหม่และสาขาที่มีอยู่เดิมจะถูกตกแต่ง ด้วยแนวคิดการออกแบบ “Fresh Forward” ของซับเวย์ฯ ในขณะเดียวกันกับการนำวัฒนธรรมไทยเข้ามาร่วมผสมผสานให้ลงตัว เพื่อสอดคล้องกับความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภคในปัจจุบัน และเป็นการผลักดันให้เกิดการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ด้าน นายธนากร ธนวริทธิ์ ผู้ก่อตั้งและกรรมการ บริษัท อะเบาท์ แพสชั่น กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า เรามองเห็นความสำเร็จในร้านซับเวย์ฯทั่วทั้งกรุงเทพฯ และมั่นว่าจะสร้างการเติบโตทางด้านยอดขายและมีผลกำไรที่ดีอย่างยั่งยืน ในการเป็นทางเลือกที่ดีกว่า และเป็นแบรนด์ที่อยู่ในใจของคนรุ่นใหม่ ซึ่งลูกค้าจากทั่วประเทศไทยกำลังมองหาทางเลือกด้านสุขภาพ ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการได้

ทั้งหมดนี้นับเป็นการพัฒนาที่สำคัญของแผนการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องในภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิกของซับเวย์ฯ นอกเหนือจากการขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาดอินโดนีเซีย ทั้งนี้ซับเวย์ฯกำลังอยู่ระหว่างการเปลี่ยนผ่านรูปแบบในการขยายเครือข่ายร้านอาหารในเอเชีย-แปซิฟิกเป็นสองเท่าหรือมากกว่า 6,000 สาขา ในอีก 5 ปีข้างหน้า

ปัจจุบันจุดแข็งของซับเวย์ฯ มุ่งเสิร์ฟความสดใหม่ ในแซนด์วิชที่ปรับแต่งเองได้ มีสาขาเกือบ 40,000 แห่ง มากกว่า 100 ประเทศ ทุก ๆ ร้านอาหารนั้นเป็นเจ้าของและดำเนินการโดยผู้รับแฟรนไชส์ของซับเวย์ฯ ซึ่งเป็นเครือข่ายของผู้ประกอบการและเจ้าของธุรกิจเล็ก ๆ มากกว่า 20,000 ราย