แพทย์ชนบทเสนอ สธ.เลิกผูกขาดยาโควิด-19

โมลนูพิราเวียร์

ชมรมแพทย์ชนบทเสนอให้บริษัทเอกชนนำเข้าฟาวิพิราเวียร์-โมลนูพิราเวียร์ได้ แก้ปัญหาขาดแคลนยา

วันที่ 19 กรกฎาคม 2565 ชมรมแพทย์ชนบทโฟสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ฟาวิ โมลนูขาดหนัก แพทย์ชนบทมีข้อเสนอ

รัฐบาลผูกขาดการผลิตและจัดหายาฟาวิฯให้กับองค์การเภสัชกรรม พร้อมขายฝันว่า ไทยจะสามารถผลิตยาฟาวิฯป้อนให้โรงพยาบาลต่าง ๆ ได้เพียงพอ ต่อมาก็ขยายการผูกขาดสู่ยาโมลนูพิราเวียร์และแพกซ์โลวิดด้วย และนำมาสู่ปัญหายาขาดแคลนตลอดการสู้ภัยโควิด

ในความเป็นจริงทั่วโลกนั้นยาไม่ได้ขาด แต่ที่ประเทศไทยยาขาดเพราะการผูกขาด เพียงกระทรวงสาธารณสุขประกาศยกเลิกการผูกขาดโดยองค์การเภสัชกรรม ให้บริษัทเอกชนสามารถนำเข้าได้ ความขาดแคลนยาจะหายไปในทันที

บทเรียนนี้ก็เช่นเดียวกับกรณีวัคซีนโควิดที่รัฐบาลให้องค์การเภสัชกรรมผูกขาดจนวัคซีนขาดแคลน แม้เอกชนสั่งและพร้อมนำโมเดอร์น่าเข้ามาช่วย ก็ทำไม่ได้เพราะผูกขาดไว้ การยุติการผูกขาดเท่านั้นที่จะยุติภาวะยาขาดแคลนไปเลย

และเอาเข้าจริง ๆ องค์การเภสัชกรรมก็ผลิตฟาวิกระพร่องกระแพร่งมากจนแทบจะไม่ได้ผลิต และหันมานำเข้าแทนเพราะถูกกว่า

เช่นนี้แล้ว สธ.จะปิดกั้นเอกชนไปทำไม ให้เขานำเข้าด้วย ราคาฟาวิฯ โมลนูฯจะถูกลง และไม่ขาดแคลนอย่างแน่นอน

จากข่าวที่สภาพัฒน์จะเสนอ ครม.ของบฯเงินกู้อีก 3,995 ล้านบาท ให้องค์การเภสัชกรรมซื้อยาฟาวิฯนั้น ยิ่งควรเลิกใช้กลไกเก่าที่ปะผุจนชำรุดได้แล้ว เสียดายงบฯ

ชมรมแพทย์ชนบทเสนอให้เลิกการผูกขาดยาฟาวิฯ โมลนูฯ แพกซ์โลวิด ปลดล็อกให้บริษัทยาเอกชนนำเข้าได้ แล้วให้รัฐกำหนดอัตราการเบิกจ่ายชดเชยคืนแก่โรงพยาบาลในราคาต้นทุน เงินร่วม 4 พันล้านนี้นำไปจ่ายชดเชยให้โรงพยาบาลแทน จะสามารถประหยัดได้มากกว่า

เพราะทันทีที่ยกเลิกการผูกขาด ราคายาจะถูกลงจนสังคมจะตั้งคำถามว่า ทำไมที่ผ่านมาซื้อลอตใหญ่แต่ราคากลับสูงกว่า

กทม. โรงพยาบาลเอกชน ร้านขายยา ขอจัดหาและจ่ายยาฟาวิฯและโมลนูพิราเวียร์ตามใบสั่งแพทย์ได้ เช่นนี้แล้วก็ควรปลดล็อกให้โรงพยาบาลของรัฐด้วย เพื่อปิดฉากความขาดแคลนฟาวิ โมลนูฯ อันเนื่องมาจากการผูกขาดขององค์การเภสัชกรรม รัฐวิสาหกิจที่ทุกโรงพยาบาลรู้ว่าขายยาแพงกว่าบริษัทยาคุณภาพของเอกชน