อนุทิน ยกระดับเฝ้าระวัง ฝีดาษลิง หลัง WHO ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข

อนุทิน ชาญวีรกูล
อนุทิน ชาญวีรกูล

สธ.เพิ่มความเข้มงวดด่านควบคุมโรคแนวชายแดน พร้อมยกระดับเฝ้าระวัง ยืนยันไม่จำเป็นต้องจำกัดการเดินทาง ก่อนนัดประชุมคณะกรรมการวิชาการวันที่ 25 ก.ค.

วันที่ 24 กรกฎาคม 2565 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ด่านควบคุมโรคทั่วประเทศประสานกับตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเพิ่มความเข้มงวดกับผู้ที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง โดยนำประสบการณ์จากช่วงโควิดมาปรับใช้

พร้อมปรับสายการสั่งการจากศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข (EOC) ของกรมควบคุมโรคไปเป็น EOC ของปลัด สธ. เพื่อให้การสั่งการครอบคลุมทั่วประเทศ

อีกทั้งได้กำชับให้โรงพยาบาลที่รับผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงพยายามขอกักตัวผู้ป่วยและเร่งทำการรักษา-สอบสวนโรค เพื่อป้องกันผู้ป่วยหลบหนี

นายอนุทินยังย้ำว่า ไม่มีความจำเป็นที่จะจำกัดการเดินทางภายในประเทศ นอกจากนี้ได้รับการยืนยันจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ว่า วัคซีนฝีดาษที่แช่แข็งเก็บไว้ยังสามารถใช้ป้องกันโรคได้

“จากการตรวจสอบผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยชาวไนจีเรียในช่วง 1 เดือน ไม่พบผู้ติดเชื้อ จึงน่าจะวางใจได้ระดับหนึ่ง”

สำหรับภาคประชาชนแนะนำให้ใช้มาตรการเว้นระยะห่าง ใส่หน้ากากและล้างเป็นประจำ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ

โดยวันจันทร์ที่ 25 กรกฎาคม 2565 จะมีการประชุมคณะกรรมการวิชาการเกี่ยวกับมาตรการ และระดับการเฝ้าระวังอีกครั้ง

อนุทิน ยกระดับมาตรการฝีดาษวานร มั่นใจเอาอยู่

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ได้เป็นประธานประชุมคณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข เพื่อเตรียมแนวทางรองรับโรคฝีดาษวานร ที่ห้องประชุมชัยนาทนเรนทร อาคาร 1 ชั้น 2 สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข

นายอนุทินกล่าวว่า เรียกประชุมด่วนเนื่องมาจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประกาศให้โรคฝีดาษวานรเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ (Public Health Emergency of International Concern :PHEIC) เมื่อวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา และก่อนหน้าการประกาศของ WHO ประเทศไทยก็พบผู้ป่วยยืนยันเป็นรายแรกเป็นชาวไนจีเรีย ที่เข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่เดือน ต.ค. 2564  และอยู่ในประเทศไทยแบบผิดกฎหมาย

นายอนุทินกล่าวว่า ในส่วนการติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยยืนยันในระยะ 1 เดือนที่ผ่านมาขณะนี้ยังไม่พบผู้ป่วยเพิ่ม สถานการณ์ยังปลอดภัย แต่ขณะนี้ได้มอบหมายให้ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศทั่วประเทศ ประสานกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองให้ระมัดระวังผู้เดินทางจากประเทศกลุ่มเสี่ยงเป็นพิเศษ แต่ยังไม่มีความจำเป็นในการประกาศห้ามผู้เดินทางจากประเทศกลุ่มเสี่ยงแต่อย่างใด  และการจะประกาศให้ฝีดาษวานรเป็นโรคติดต่อระดับใดนั้นในวันพรุ่งนี้ (25 ก.ค.) กรมควบคุมโรคจะมีการประชุมร่วมกับคณะกรรมการวิชาการผู้ทรงคุณวุฒิทางการแพทย์ และประกาศระดับการเฝ้าระวังต่อไป

นายอนุทินกล่าวว่า การที่ประเทศไทยดำเนินการในการดูและป้องกันโรคโควิด-19 มาได้เป็นอย่างดีมาตลอดจะเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะทำให้สามารถดูแลป้องกันการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษวานรได้  และมาตรการป้องกันตนเอง Universal Prevention ที่ประชาชนทำอยู่อย่างต่อเนื่องนี้ก็จะสามารถป้องกันได้จากทั้งโควิด-19 และฝีดาษวานรได้

นายอนุทินกล่วว่า อย่างไรก็ตาม แม้ในทางการแพทย์ขณะนี้จะได้ระบุถึงลักษณะของโรคไม่มีความรุนแรง แต่สภาพที่ปรากฏต่อคนทั่วไปมันดูแล้วน่าตระหนกโดยเฉพาะบุคคลที่ไม่ใช่แพทย์ ไม่ว่าจะเป็นการมีมีตุ่มน้ำ หนอง ผื่นตามลำตัวดูแล้วไม่ใช่โรคผิวหนังธรรมดา และหากมีการสัมผัสก็แพร่เชื้อได้ จึงควรจะต้องยกระดับการเฝ้าระวัง มีระบบในการดูแลกรณีที่ผู้ป่วยเข้ามาในโรงพยาบาล ให้พิจารณาว่ากรณีมีผู้ป่วยเข้าข่ายจะมีขอควบคุมรักษาก่อนได้หรือไม่ รวมถึงดูแลเรื่องความพร้อมของเวชภัณฑ์ วัคซีน มีมาตรการในสาธารณสุขในการป้องกันแพร่เชื้อคัดกรองอให้ได้มากที่สุด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อระบบสาธารณสุขให้ได้ต่อเนื่อง

“ขณะนี้เรากำลังจะไปได้ดีการฟื้นตัวจากโควิด-19 หากไปตามสถานที่ท่องเที่ยวจะเห็นว่าความคึกคักเริ่มกลับมา นักท่องเที่ยวมากขึ้นทั้งไทยและต่างชาติ เป็นนิมิตหมายอันดี เป็นความสำเร็จที่ทำให้ให้ต่างชาติมีความเชื่อมั่นเราได้” นายอนุทินกล่าว

น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุขได้เรียกประชุมด่วนผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข หลังจาก WHO ประกาศให้เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ เมื่อวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยการประชุมดำเนินการแบบคู่ขนานทั้งแบบออนไซต์และออนไลน์