เถ้าแก่น้อย เตรียมส่งสาหร่ายเจาะตลาดแคนาดา

เถ้าแก่น้อย

เถ้าแก่น้อย เดินหน้ากลยุทธ์ GO Board พัฒนาสินค้าขยายตลาดจีน-อเมริกา เตรียมเพิ่มช่องทางขายในแคนาดา ล่าสุดเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ใหม่มัดใจวัยรุ่น

วันที่ 25 กรกฏาคม 2565 นายอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN เปิดเผยว่า หลังโควิด-19 ทยอยคลี่คลาย มีการผ่อนคลายข้อจำกัดการเดินทางและเปิดประเทศรับชาวต่างชาติ ส่งผลดีต่อกำลังซื้อฟื้นตัวต่อเนื่อง ทั้งในช่องทางจัดจำหน่ายแบบ Modern Trade และ Traditional Trade

โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2565 ที่คาดว่าจะมีอัตราเติบโตเป็นเลข 2 หลัก ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งต้องติดตามปัจจัยต่าง ๆ โดยเฉพาะสถานการณ์เงินเฟ้อที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ปัจจัยดังกล่าวยังไม่กระทบกับบริษัท เนื่องจากได้เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ด้วยการควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารอย่างมีประสิทธิภาพ

ADVERTISMENT
อิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์
อิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์

พร้อมทั้งดำเนินกลยุทธ์ “Go Firm” มุ่งปรับองค์กรให้กระชับ (Lean) คล่องตัวและรวดเร็วขึ้น เพื่อลดต้นทุน ทำให้บริษัทปรับตัวได้เร็วและมีความยืดหยุ่นพร้อมรองรับแผนงานในอนาคต

หลังจากนี้ บริษัทพร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจให้กว้างขึ้น ภายใต้กลยุทธ์ต่อไปคือ GO Board หรือการขยายฐานธุรกิจให้กว้างขึ้น โดยไม่ได้จำกัดการผลิตและจำหน่ายสินค้าในรูปแบบเดียว แต่จะพัฒนาสินค้ากลุ่มใหม่ ๆ โดยมุ่งเน้นขยายตลาดในกลุ่มประเทศที่มีศักยภาพ ได้แก่ ประเทศจีน ที่ภายหลังเริ่มมีการผ่อนคลายการล็อกดาวน์ ส่งผลให้มียอดขายสินค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

คาดว่ายอดคำสั่งซื้อจากประเทศจีนในครึ่งปีหลังของปี 2565 จะเข้ามามากกว่า 100 ตู้คอนเทนเนอร์ต่อเดือน สูงกว่าครึ่งปีแรกที่มียอดคำสั่งซื้อเฉลี่ย 100 ตู้คอนเทนเนอร์ต่อเดือน อีกทั้งได้แต่งตั้ง General Manager หรือ GM ประจำพื้นที่ เพื่อเป็นคีย์แมนที่สำคัญในการบริหารจัดการและวางแผนการตลาดควบคู่กับตัวแทนจำหน่ายสินค้าทั้ง 2 รายในประเทศจีน

ADVERTISMENT

ขณะที่ตลาดในสหรัฐอเมริกา ได้นำแบรนด์ใหม่ภายใต้ผลิตภัณฑ์สาหร่ายของเถ้าแก่น้อยเพื่อทำตลาด ภายใต้ชื่อ โนระ ด้วยการกระจายสินค้าผ่านช่องทางโมเดิร์นเทรด​และซูเปอร์มาร์เก็ตต่าง ๆ ได้รับการตอบรับค่อนข้างดี ส่งผลทำให้มียอดคำสั่งซื้อในไตรมาส 2/2565 เติบโตเกือบ 60% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

จากนี้วางแผนเตรียมเพิ่มช่องทางขายผ่านร้านค้าเครือใหญ่อย่าง เทรดเดอร์โจส์ (Trader Joe’s) ที่มีสาขากว่า 500 แห่งในสหรัฐอเมริกา คาดว่าจะเริ่มวางจำหน่ายได้ในปลายไตรมาส 3/2565 หรือไตรมาส 4/2565 เป็นต้นไป อีกทั้งได้เริ่มขยายตลาดแบรนด์โนระเข้าสู่ประเทศแคนาดา ผ่านการวางจำหน่ายสินค้าในห้างคอสโค (Costco)  โดยบริษัทกำลังมองหาพาร์ตเนอร์ที่เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าในโซนยุโรป

ADVERTISMENT

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันสินค้าจากเอเชียเข้าไปตีตลาดประเทศในแถบยุโรปมากขึ้น ผ่านการจัดจำหน่ายในร้านโมเดิร์นเทรด ซึ่งบริษัทได้นำแบรนด์ใหม่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์สาหร่ายทำตลาดภายใต้ชื่อโนระ (NORA) ด้วยจุดเด่นของสินค้าที่เป็นสาหร่ายสแน็ก จึงเป็นตลาด Blue Ocean ที่ยังไม่มีคู่แข่ง ประกอบกับชื่อเสียงของเถ้าแก่น้อยที่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ส่งผลทำให้มียอดคำสั่งซื้อเข้ามาต่อเนื่อง

ขณะเดียวกัน บริษัทเดินหน้าสร้างแบรนด์ ผ่านการใช้กลยุทธ์ Idol Marketing เน้นให้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นแฟนคลับ เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมกับกลุ่มแฟนคลับและลูกค้ามากกว่าการขายของเพียงอย่างเดียว เพื่อกระตุ้นยอดขายให้เติบโตเหมือนก่อนโควิด ล่าสุดได้ดึง “วิน เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร” มานั่งแท่นพรีเซ็นเตอร์